У нас вы можете посмотреть бесплатно ทนายแถลงยิบ เส้นเงินวัดนาป่าพง 12.2 ล้าน ยันพระไม่ได้นำใช้ส่วนตัว ไม่มีเรื่องสีกา или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
ที่วัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี พระอาจารย์คึกฤทธิ์ให้ทีมทนายความ 4 คน แถลงข่าวแทน เริ่มจากนายนันทน อินทนนท์ ทนายความ ยืนยันว่าข่าวที่ปรากฎเรื่องการยักยอกเงิน และการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างพระอาจารย์คึกฤทธิ์กับสีกาอุปฐาก ยืนยันว่า สีกาดังกล่าวเป็นโยมอุปฐาก มีฐานะ หน้าที่ชัดเจน และทำงานเปิดเผย เป็นหัวแรงในการจัดทำคำสอนของพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และเพจเฟซบุ๊ก ยูทูป พุทธวจนเรียล ข้อมูลที่ถูกนำมาเชื่อมโยง เป็นวิดีโอ ภาพตัดต่อที่เชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ แสดงให้เห็นว่าเป็นความสัมพันธ์พิเศษ ทนายความยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลที่เปิดเผยในเฟซบุ๊ก ยูทูป วิดีโอที่จัดทำมีนับหมื่นชิ้น หากจะมีเรื่องที่ไม่เหมาะสมคนดู คนฟังย่อมใช้วิจารณาญาณตัดสินได้ แต่เมื่อเรื่องนี้เป็นเรื่องพระธรรมวินัย ซึ่งตอนนี้เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทางสงฆ์แล้ว และพระอาจารย์คึกฤทธิ์ยินดีเข้าสู่กระบวนการชี้แจงต่างๆ ประเด็นเรื่องการยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน ที่มีการกล่าวหาว่าพระอาจารย์โอนเงินให้สีกาคนหนึ่งในประเทศไทย และโอนเงินไปที่เยอรมนี ทนายความบอกว่าหลักฐานที่ปรากฎ มีการอ้างว่า มีการโอนจากบุคคลคนหนึ่ง ไปที่สีกา ช่วงปี 2561 จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 12.2 ล้านบาท หลังจากนั้นมีการโอนเงินจากบัญชีสีกา ไปที่เยอรมัน 27 ครั้ง เข้าบัญชีพระอาจารย์ ทนายความบอกว่า หลักฐานการโอนเงิน โดยปกติต้องอยู่ในมือผู้ฝาก ทางวัดนาป่าพง ไม่ปฎิเสธว่าเป็นต้นทางการฝากเงิน และเป็นผู้ถือใบสลิป แต่การที่เอกสารไปปรากฎในมือบุคคลที่นำไปโพสต์ เริ่มต้นมาจาก เอกสารนั้นมีการนำส่งที่ศาลในประเทศเยอรมนี เพื่อดำเนินคดีกับคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาเรื่องการยักยอกเงิน ไม่ใช่เอกสารที่ต้องการปิดบัง เป็นเอกสารที่ถูกต้อง และวัดเห็นว่าข้อมูลตามเอกสารเปิดเผยได้ทั้งฉบับ เพราะ คนโอนคือ ไวยาวัจกร ในปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์มีดำริ ต้องการเผยแพร่ศาสนาในต่างประเทศ วิธีการหนึ่งคือ ต้องการตั้งวัดในต่างประเทศ เยอรมนีจึงเป็นจุดเริ่มต้นสร้างวัดในการก่อตั้งตั้งใช้ภาษาเยอรมนีเป็นภาษาราชการติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ จำเป็นต้องอาศัยบุคคลที่มีความรู้ พระอาจารย์รวบรวมพุทธศาสนิกชนระดมก่อตั้งมูลนิธิ มีการตั้งบุคคลคนหนึ่งเป็นผู้หญิงที่มีถิ่นฐานอยู่เยอรมนี มีความสามารถด้านภาษา และมีคนต่างประเทศอีกคนคอยให้ความช่วยเหลือ บุคคลคนนั้นได้รับแต่งตั้งเป็นรองประธานมูลนิธิ มีการให้คำแนะนำว่าต้องจดทะเบียนภาษี เสียภาษีให้ถูกต้อง พระอาจารย์ทำหนังสือมอบอำนาจ ช่วง มีนาคม 2561 เมื่อได้รับแจ้งให้โอนเงิน ก็โอนสกุลเงินไทย จำนวนหลายครั้ง สีกาคนนั้นเปิดบัญชีกรุงไทย ในประเทศไทย จากนั้นพระอาจารย์ โอนเงิน 6 ล้านบาท โดยได้จากโยมใกล้ชิด ซึ่งโยมทำหนังสือส่งให้พระอาจาย์เป็นการส่วนตัวด้วย เขียนวัตถุประสงค์ว่า เพื่อก่อตั้งมูลนิธิพุทธวจนในเยอรมนี มีการลงเอกสารชัดเจน หนังสือบริจาคเงินมีการลงนามทั้งคนบริจาค และผู้รับมอบอำนาจ คือ สีกาคนดังกล่าว ที่เยอรมนี ต้องมีการทำหนังสือมอบความไว้วางใจด้วย จึงมีการทำหนังสือดังกล่าวอีกฉบับให้สีกา มอบหมายให้สีกาดำเนินการทำธุรกรรมที่เยอรมนี เพื่อตั้งมูลนิธิ รวมถึงสามารถถอนเบิกเงินในบัญชี ธุรกรรมหลังโอนเงิน 4 ครั้ง เป็นธุรกรรมที่ทำโดยสีกาคนนั้นทั้งสิ้น มีการรายงานให้พระอาจารย์รับทราบเป็นระยะ ครบถ้วนบ้างไม่ครบถ้วนบ้าง จำนวน27 ครั้ง ได้โอนไปยัง บัญชีที่เปิดไว้ในนาม สมาคมพุทธวจน ตอนนั้นมูลนิธิยังก่อตั้งไม่เสร็จ การเบิกเงินในครั้งแรกในบัญชี พุทธวจนอีวี (แปลว่า สมาคม) จากการตรวจสอบ พบว่า มีการโอนเข้าสมาคม 2 ครั้ง เป็นเงินที่ไม่ครบถ้วน 12.2 ล้านบาท ขาดไปบางส่วน หลังจากนั้น มีการแนะนำ ให้พระอาจารย์เปิดบัญชีส่วนตัวที่ประเทศเยอรมนี โดยสีกาอ้างว่า การขอวีซ่า จะต้องมีหลักฐานการเงินเป็นหลักแหล่ง ส่วนเรื่องเงินทุนของมุลนิธิ ไม่ได้เอาไปใช้ส่วนตัว นอกจากเงิน 12 ล้านแล้ว ผู้ได้รับการมอบอำนาจแต่งตั้ง มีการติดต่อขอค่าดำเนินการจากพระอาจารย์ ในการบริหารมูลนิธิ เป็นรายเดือน โดยแจ้งว่าจะคำนวณตามจริง ค่าเช่าสำนักงาน ค่าใช้จ่ายสำนักงาน และค่าวีซ่าคนที่เดินทางไปต่างประเทศ พระอาจารย์โอนเงินให้ตลอด แต่กลับพบว่าจำนวนเงินที่แจ้งให้โอนไม่ตรงกับความเป็นจริง พระอาจารย์จึงดำเนินคดี ข้อหายักยอกที่เยอรมนี ตอนนี้อยู่ระหว่างรอการสืบพยาน ประเด็นผู้หญิงเป็นใคร+ พระพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทางสงฆ์ +ส่วนเรื่องเงินทุนของมูลนิธิ ไม่ได้เอาไปใช้ส่วนตัว 12ล้าน ส่วนสีกาฟ้องคดีอาญากับตำรวจและอัยการ แต่อัยการบอกว่าพระอาจารย์ไม่มีความผิด และพระอาจารย์ฟ้องคดีแพ่ง เรียกร้องเงินฐานไม่สามารถแสดงรายการจ่ายได้ และเงินที่ขาดหายไปไม่ครบ มูลค่า 350,000 ยูโร คดีเดินหน้าไประยะเวลาหนึ่งแล้ว ขอไม่ให้รายละเอียด เพราะอยู่ระหว่างพิสูจน์ทางแพ่ง ว่ามีการนำเงินไปใช้จ่ายไม่ถูกวัตถุประสงค์ และเกินจำนวนจริง นอกจากนี้ยังบอกว่า ผู้พิพากษาบอกให้จำเลยจากเงินคืนให้ มีการต่อรองขอลดเงิน พระอาจารย์ตกลงลดให้ แต่สีกาคู่กรณีถอนทนายหลายครั้ง ทำให้ศาลเลื่อนการพิจารณาคดี จนล่าสุดสีกาบอกว่าไม่มีใครรับเป็นทนายความให้ ทำให้ไม่สามารถแต่งตั้งทนายความได้ คดีที่เยอรมนี หากเป็นเรื่องเงินมากกว่า 50,000 ยูโร จำเป็นต้องมีทนายความ ตอนนี้จึงรอการตั้งทนายใหม่อยู่ ทนายความเล่าเพิ่มเติมว่า หลังมีปัญหาทั้งหมดนี้ พระอาจารย์ยกเลิกการมอบอำนาจทั้งหมดที่เคยมอบอำนาจให้สีกาคนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2564 และทนายความเชื่อว่าอาจเป็นผลทำให้เกิดการฟ้องร้องคดีในไทย อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/ruang... ------------------- เรื่องเด่นเย็นนี้ วันที่ 16 กันยายน 2568 ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ 16.30 - 18.00 น. #เรื่องเด่นเย็นนี้ (Ruangden News ) ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่ ch3plus : https://ch3plus.com facebook : / 3plusnews Twitter : / 3plusnews YouTube : / 3plusnews Tiktok : https://www.tiktok.com/3plusnews