У нас вы можете посмотреть бесплатно ความเข้าใจผิด เกี่ยวกับการสร้างรายได้จาก youtube или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
🚀อยากมีรายได้จาก Youtube? ผมให้คำปรึกษาส่วนตัวฟรีครับ คลิกที่นี่ http://line.me/R/ti/p/@sekyoutube หลายคนที่เริ่มต้นทำ YouTube หรือแม้แต่คนที่ทำมาแล้วสักพัก อาจกำลังเข้าใจผิดบางอย่างเกี่ยวกับการสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งทำให้พลาดโอกาสสำคัญ หรือหนักกว่านั้น…เลิกทำ YouTube ไปเลยก็มี บทความนี้จะมาไขความจริงและช่วยชี้ทางให้คุณเริ่มต้นอย่างมีทิศทาง! ความเข้าใจผิดที่ 1: YouTube สร้างรายได้ได้เฉพาะจากค่าโฆษณาเท่านั้น หลายคนเชื่อว่า “ถ้าอยากมีรายได้จาก YouTube ต้องผ่านกฎก่อน!” ซึ่งหมายถึง มีผู้ติดตาม 1,000 คน และคลิปยาวมียอดชมรวม 4,000 ชั่วโมงภายใน 12 เดือน หรือในกรณีคลิปสั้น (Shorts): 1,000 ผู้ติดตาม และ 10 ล้านวิวภายใน 90 วัน ใช่ครับ...ถ้าจะหารายได้จากค่าโฆษณา ต้องผ่านกฎเหล่านี้ก่อนจริงๆ แต่ที่คนส่วนใหญ่พลาดคือ การมองว่า รายได้จาก YouTube มีแค่จากโฆษณาเท่านั้น! ความจริงคือ… YouTube คือ “ช่องทาง” ไม่ใช่ “แหล่งรายได้เดียว” แล้วเราจะหารายได้ทางอื่นได้ยังไง? ✅ ตัวอย่าง: การเป็น “นายหน้า” ขายสินค้า (Affiliate) เปิดช่อง YouTube เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ให้คุณค่ากับคนดู สมัครเป็นนายหน้า Shopee / Lazada สร้างคลิปแนะนำสินค้า ที่คุณใช้จริง เช่น “ถั่วสำหรับคนกินเจ” แล้วใส่ลิงก์ไว้ในคำอธิบายคลิป 📌 จุดสำคัญ: บน YouTube ไม่เน้นขายตรง ไม่ใช่ “ถั่วโลละ 80 บาท รีบซื้อเลย!” แต่ต้องใช้ “การเล่าเรื่อง” เช่น “ผมออกกำลังกาย และกินเจ เลยต้องการโปรตีนจากถั่ว... นี่คือสิ่งที่ช่วยให้ผมมีพลัง และนี่คือถั่วที่ผมกินทุกวันครับ ลิงก์อยู่ใต้คลิปนะครับ” การเล่าแบบนี้ → คนดูรู้สึกว่า “มีประโยชน์” → เพิ่มโอกาสซื้อ ความเข้าใจผิดที่ 2: ต้องเก่ง ต้องมีวุฒิ ต้องเชี่ยวชาญเท่านั้นถึงจะสอนได้ หลายคนกลัวว่า… “เราไม่ได้เรียนด้านนั้นมา” หรือ “แค่ลองทำเอง จะไปสอนใครได้?” แต่รู้ไหมครับว่า... คนดู YouTube ไม่ได้ต้องการอาจารย์ด็อกเตอร์! พวกเขาแค่ต้องการ “คนที่เข้าใจเขา และอธิบายให้เข้าใจง่าย” เพราะฉะนั้น แค่คุณมีประสบการณ์จริง พูดจากใจ และสื่อสารให้เข้าใจง่าย คุณก็มีโอกาสสร้างผู้ติดตามได้ 📌 ตัวอย่างหัวข้อจากประสบการณ์: คนเคยลดน้ำหนักได้ 10 กิโลใน 2 เดือน คนเคยผ่านการขอกู้เงินแล้วไม่ผ่าน → สอนคนอื่นทำให้ผ่าน คนเคยเปิดร้านอาหารเอง → แชร์เรื่องจริง ความเข้าใจผิดที่ 3: ต้องหน้าตาดี เสียงดี ถึงจะมีคนดู อันนี้ก็ผิดอีกครับ! หน้าตาดี เสียงเพราะ ก็ถือว่าเป็น “แต้มต่อ” ก็จริง แต่คนหน้าตาธรรมดา เสียงแหบ เสียงเหน่อ ก็ประสบความสำเร็จได้ ตัวอย่าง: นักร้องชื่อดังบางคน เสียงแหบแบบ “พี่ต๊ะ บอยสเก๊าท์” ก็ยังดังเป็นพลุแตก เพราะ “อารมณ์” และ “พลังของการสื่อสาร” เช่นเดียวกันบน YouTube คนดูจะไม่สนเสียงคุณหรอก ถ้าคุณมีสิ่งที่มีประโยชน์จะเล่าให้ฟัง ความเข้าใจผิดที่ 4: ต้องมีอุปกรณ์แพงๆ ถึงจะทำ YouTube ได้ หลายคนไม่กล้าเริ่ม เพราะไม่มี: กล้อง DSLR ไมค์คุณภาพสูง โดรน ไฟสตูดิโอ แต่จริงๆ แล้ว… โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว + ไอเดียเจ๋งๆ + เนื้อหาที่ให้คุณค่า → ก็คือ “สุดยอดอาวุธ” แล้ว! ตัวอย่างจากผู้เขียน: ใช้กล้องเก่าหน้าจอแตก 5 ปีแล้วถ่าย ตอนเริ่มต้นเคยใช้ “ผีผ้าห่ม” คือ คลุมผ้าห่มแล้วพากย์เสียง เพราะไม่มีไมค์ 📌 สรุป: ถ้าเริ่มจาก “สิ่งที่มี” แล้วค่อยอัปเกรดทีหลังจะดีกว่า ไม่ต้องไปลงทุนทีเดียวเยอะๆ แล้วเครียดภายหลัง ความเข้าใจผิดที่ 5: ช่องมีอายุมากกว่า 1 ปี = หมดสิทธิ์สร้างรายได้? อันนี้ก็ เข้าใจผิด กันเยอะมาก! คำว่า “1 ปี” ที่ YouTube พูดถึงนั้นคือ… สำหรับคลิปยาว: คลิปที่เกิน 1 ปี → ไม่นับจำนวนชั่วโมงในกฎ 4,000 ชั่วโมง สำหรับ Shorts: คลิปที่เกิน 90 วัน → ไม่นับยอดวิวในกฎ 10 ล้านวิว 📌 สรุปคือ: ช่องยังเปิดรายได้ได้ตามปกติ! แค่ต้องอิงจากคลิปที่อยู่ในช่วงเวลาเงื่อนไขเท่านั้นเอง ความเข้าใจผิดที่ 6: มีเด็กในคลิป = เปิดรายได้ไม่ผ่าน? เข้าใจผิดครับ! การมีเด็กในคลิป ไม่ได้แปลว่า “ห้ามเปิดสร้างรายได้” แต่สิ่งที่ YouTube ตรวจคือ “คลิปนี้ทำมาเพื่อเด็กหรือไม่?” ถ้าเนื้อหาเป็นเฉพาะเด็ก เช่น: เพลงเด็ก การ์ตูนเด็ก เกมส์เด็ก ระบบจะบีบโฆษณาให้น้อยลง → รายได้จากค่าโฆษณาจะลดลง 📌 วิธีเลี่ยง: หากเป็นคลิปที่มีเด็ก แต่ต้องการให้ระบบมองว่า “ไม่ใช่เฉพาะเด็ก” ให้ใส่ “ผู้ใหญ่” เข้ามาในคลิปบ้าง ให้มีบทสนทนาที่เป็นประโยชน์กับผู้ใหญ่ด้วย แบบนี้ระบบจะเข้าใจว่าเป็น “คอนเทนต์สำหรับครอบครัว” → โฆษณาขึ้นเยอะขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น ความเข้าใจผิดที่ 7: ทำคลิปให้ไม่ผิดกฎอย่างเดียวก็พอ หลายคนคิดว่า "ขอแค่ไม่ผิดกฎก็พอแล้ว เดี๋ยวคนก็มาดูเอง" แต่ในความจริง… ยุคนี้ “ไม่ผิดกฎ” = แค่พื้นฐาน ถ้าอยากให้โต ต้อง “มีความแตกต่าง” และ “มีเอกลักษณ์” ❓ ถามตัวเองก่อนอัปคลิป ทำไมคนต้องดูคลิปของเรา? คลิปของเราต่างจากของคนอื่นยังไง? 💡 ตัวอย่างการสร้างเอกลักษณ์ การใช้คำพูดเฉพาะตัว ใส่ชุดเดิมประจำคลิป การเล่าเรื่องที่เป็นธรรมชาติ การใส่ความคิดส่วนตัวอย่างจริงใจ ข้อคิดส่งท้าย: ทำ YouTube ให้สำเร็จ ต้องกล้าเริ่ม และทำต่อเนื่อง ไม่ต้องรอให้พร้อม 100% ไม่ต้องกลัวว่าเราจะไม่เก่งพอ ไม่ต้องรอซื้ออุปกรณ์แพงๆ และไม่ต้องกังวลว่าจะผิดกฎ สิ่งที่ต้องมีจริงๆ คือ “ใจที่กล้าลุย” และ “ความสม่ำเสมอ” ถ้าใจสู้ → ทําได้แน่นอน! อุปกรณ์ที่ผมใช้ทำวิดีโอ ไมค์ไร้สาย J11 ใช้กับมือถือได้ทุกรุ่นครับ ^^ ซื้อแบบ 2 ตัวเลยครับ J12 คู่ จะได้เอาไว้พูดได้ 2 คน และเผื่อเป็นตัวสำรองด้วย https://bit.ly/4eAMgoP ไฟเอาไว้ถ่ายคลิป ให้ภาพมีสีสันสดใส เป็นแบบ LED ประหยัดไฟ ไม่แสบตา ปรับมุมได้ ปรับความสว่างได้ https://bit.ly/4fOao8q ไมค์ใช้สำหรับการทำคลิปสอนผ่านคอมพิวเตอร์ ที่ตัดเสียงรบกวนได้ดีมาก เสียบปุ๊บ ใช้งานได้เลย ผมแนะนำยี่ห้อนี้ครับ https://bit.ly/3AFbjJr กล้อง Web cam สำหรับครูอาจารย์ ที่ทำคลิปสอนผ่าน Notebook ภาพสวยคมชัด สอนด้วยความมั่นใจ https://bit.ly/3UX5ePs เราจะสู้ไปด้วยกัน เสกสรร ปั้น Youtube