У нас вы можете посмотреть бесплатно วัดจองคำ วัดจองกลาง วัดแรก จ.แม่ฮ่องสอน Ep48 или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
#วัดจองคำ#วัดแรก#แม่ฮ่องสอน วัดจองคำ ซึ่งเป็นวัดแรกของจังหวัดแม่ฮ่องสอนและวัดจองกลาง เปรียบเสมือนวัดแฝด ด้วยตั้งอยู่ในกำแพงเดียวกัน เมื่อมองจากด้านหน้า วัดจองคำ จะอยู่ด้านซ้ายมือ ส่วนวัดจองกลางจะอยู่ทาง ขวามือ วัดจองคำ จองกลาง ตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะหนองจองคำ เป็นวัดเก่าแก่ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2370 โดยช่างฝีมือชาวไทยใหญ่เป็นศิลปะแบบไทยใหญ่ที่แปลกและงดงามมากค่ะ วัดจองคำ มีพระพุทธประธานขนาดใหญ่ เรียกขานนามว่า 'หลวงพ่อโต' 'หลวงพ่อโต' เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองแม่ฮ่องสอน ประดิษฐาน ณ วัดจองคำ ที่มีผู้คนเดินทางมากราบไหว้เพื่อขอพรให้ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ชาวแม่ฮ่องสอน จัดให้มีงานประเพณีนมัสการหลวงพ่อโต ระหว่างกลางเดือน 5 ของทุกปี หลวงพ่อโต ประดิษฐานในพระวิหารหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปประธาน มีขนาดหน้าตักกว้าง 4.8 เมตร สูง 5.6 เมตร โดยช่างฝีมือชาวพม่าค่ะ ส่วนพระวิหาร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2475 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.2479 โดยพระอูหน่าก๊ะ เป็นประธาน ลุงจองคำส่วยฟั่น อุตตะมะ คหบดีชาวแม่ฮ่องสอน ผู้ปฏิสังขรณ์วัดจองคำในคราวนั้น รับเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการก่อสร้าง เป็นศรัทธาในการก่อสร้างแบบ แบบละ 12 ศอก หลังคามุงสังกะสี ศิลปะแบบไทยใหญ่ ส่วนภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อโต สร้างโดยฝีมือนายช่าง สล่าโพอ่อง พระวิหารหลวงพ่อโตแห่งนี้ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบไตหรือไทยใหญ่ผสมฝรั่ง อาคารทรงตรีมุข มีผังเป็นรูปตัวแอล หลังคาทรงปราสาท 1 คอ 2 ชาย ตามแบบสถาปัตยกรรมไทยใหญ่ ผนังก่ออิฐถือปูน ประตูหน้าต่างตอนบนโค้งประดับลวดลายแบบสถาปัตยกรรมตะวันตกหลังคามุงสังกะสี เชิงชายมีลูกไม้ฉลุแบบขนมปังขิงโดยช่างฝีมือชาวไทยใหญ่ เป็นศิลปะและหลังคาแบบไทยใหญ่ที่แปลกและงดงามมาก หลังคาเป็นรูปปราสาท เพราะมีคติว่าปราสาทเป็นของสูง ผู้ที่ประทับอยู่ในปราสาทควรจะเป็นพระมหากษัตริย์หรือตัวแทนพระศาสนา เหตุที่เรียกชื่อวัดจองคำ เนื่องจากเสาวัดประดับด้วยทองคำเปลว พระวิหารหลวงพ่อโต ตั้งอยู่บริเวณวัดด้านหน้าทางทิศใต้ สถานที่ก่อสร้างเดิมเป็นที่ตั้งองค์พระเจดีย์ (กองมู) ซึ่งได้สร้างขึ้นคู่กับวัดเดิม องค์พระเจดีย์ได้ชำรุดทรุดโทรมยากแก่การบูรณะให้คงสภาพเดิมได้ต่อไป ต่อมาพระอูหน่าก๊ะ เจ้าอาวาสวัด ระหว่างปี 2470-2481 ได้ทำพิธีบวงสรวงขอรื้อถอนและสร้างพระวิหาร พร้อมกับสร้างพระพุทธรูปหลวงพ่อโตถวาย จึงได้สร้างสำเร็จดังที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ วัดจองกลาง ตั้งอยู่ข้างกับวัดจองคำ ภายในวิหารมีแท่นบูชาตั้งพระพุทธสิหิงค์จำลอง ปิดทองเหลืองอร่ามไปทั้งองค์ และยังมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงตุ๊กตาไม้แกะสลักเป็นรูปคนและสัตว์ ฝีมือแกะสลักของช่างชาวพม่า ซึ่งนำมาจากพม่าตั้งแต่ พ.ศ. 2400 วัดจองกลาง เรียกชื่อตามสถานที่ตั้งอยู่ระหว่างวัดจองคำ และวัดจองใหม่ (โรงเรียนพระปริยัติธรรม) เดิมเป็นศาลาที่พักคนมาจำศีลในวันพระค่ะ วัดจองกลางหลังนี้ ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่เครือญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ได้เล่าต่อ ๆ กันมาว่า เดิมเป็นศาลาเย็นของวัดจองใหม่มีผู้คนท้องถิ่นมาพักอาศัยอยู่เป็นประจำ เมื่อเจ้าอาวาสวัดจองใหม่องค์สุดท้ายได้มรณภาพไป มีพระภิกษุจากเมืองหมอกใหม่มาร่วมงานศพเจ้าอาวาสวัดจองใหม่ และเข้ามาพักอาศัยในศาลาเย็นดังกล่าว คณะศรัทธาเคารพนับถือพระภิกษุองค์นี้เป็นอย่างมาก จึงพร้อมใจกันนิมนต์ท่านมาประจำศาลาต่อไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2410 มีศรัทธาคือ ลุงจองจายหล่อ , ลุงพหะจ่า , ลุงจองตุ๊ก, และพ่อเลี้ยงจางนุ (ขุนเพียร) , ลุงจองจ่อ ได้ร่วมกันสร้างวัด หลังคามุงด้วยสังกะสีฉลุลวดลาย แบบสถาปัตยกรรม โดยช่างฝีมือชาวไทใหญ่ โดยเฉพาะห้องทางด้านหลังทิศตะวันออก ตามฝาผนังประดับภาพรวม 180 ภาพ โดยมีช่างฝีมือช่างพม่า ลุงจองตุ๊ก แม่จองโอ่ง นำมาจากเมืองมะละแหม่งประเทศพม่า มาติดถวายไว้ และเมื่อทำการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงตั้งชื่อว่า "วัดจองกลาง" เพราะอยู่ระหว่างวัดจองคำกับวัดจองใหม่ และปีต่อมาพ่อเลี้ยงจางนุ (ขุนเพียร) แม่จองเฮือน มีจิตศรัทธาสร้างพระธาตุเจดีย์ ฐานสี่เหลี่ยม มุขสี่ด้าน แต่ละด้านสร้างสิงห์ไว้ 1 ตัว พร้อมกับสร้างศาลาวิปัสสนาติดองค์พระธาตุเจดีย์ ทิศตะวันออกหลังคาทรงปราสาททำด้วยสังกะสีฉลุลวดลาย เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2456 แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2545 ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กตรงข้ามทิศตะวันออกวัดจองกลาง ลุงจองตุ๊ก แม่จองโอ่ง เป็นเจ้าคณะศรัทธาสร้างขึ้น ก่อนวัดจองกลางประมาณ 20 กว่าปี (ไม่ปรากฏ พ.ศ. สร้าง) และวัดจองกลางรวมเป็นพระอารามหลวง เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2527 โดยวัดจองกลางเป็นคณะ 2 ปัจจุบันมีพระภิกษุ 6 รูป และสามเณร 14 รูป ศาลาการเปรียญยังประดิษฐาน “พระเจ้าอินทร์สาน” หรือ “พระไม้ไผ่สาน” ขนาดหน้าตักกว้าง 2 เมตร สูง 2.5 เมตร ซึ่งบนยอดพระเกศบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วย สำหรับที่มาของวัดจองกลางนั้น เดิมที่พื้นที่บริเวณนี้เป็นศาลาเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้พักจำศีลสำหรับวัด จองใหม่ซึ่งในอดีตตั้งอยู่ติดกัน ต่อมาจึงได้สร้างเป็น ศาลาการเปรียญหลังปัจจุบันแทนหลังเก่า เพื่อถวายแด่พระภิกษุชาวพม่าที่มาพักค้างคืนครั้งงานศพเจ้าอาวาสวัดจองใหม่ จากแรงศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อพระภิกษุที่เดินทางมาในครั้งนั้น จึงได้นิมนต์ขอให้อยู่จำวัดต่อ โดยใช้พื้นที่บริเวณนี้สร้างเป็นวัดขึ้นมาอีกแห่ง ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างวัดจองคำ กับวัดจองใหม่พอดี จึงให้ชื่อวัดว่า “วัดจองกลาง” ห้องพิพิธภัณฑ์ (เปิด 08.00-18.00 น. ทุกวัน) ตั้งอยู่บนวัดจองกลาง จัดแสดงตุ๊กตาไม้แกะสลักเป็นรูปคนและสัตว์เกี่ยวกับพระเวสสันดรชาดก ฝีมือช่างชาวพม่า มีจำนวนทั้งสิ้น 33 ตัว นำมาจากพม่าตั่งแต่ปี พ.ศ.2400 นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปหินอ่อนองค์เล็ก แกะด้วยฝีมือประณีตอ่อนช้อยงดงามมาก มีคัมภีร์โบราณ ถ้วยชาม และเครื่องใช้โบราณอีกหลายชิ้น