ไทย ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ฟ้องนานาชาติ | สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ скачать в хорошем качестве

ไทย ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ฟ้องนานาชาติ | สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เมื่อวานนี้ 16 ส.ค. ไทย พิสูจน์ให้นานาชาติได้เห็นหลักฐานเชิงประจักษ์แล้วว่า เหตุการณ์หลังเจรจาหยุดยิง กัมพูชา ละเมิดทุกข้อตกลง ไม่ใช่เรื่อง เฟกนิวส์  ไทย ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ฟ้องนานาชาติ กระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูต องค์การระหว่างประเทศ ตลอดจนสื่อมวลชนไทยและเทศ ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ จุดที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา จากหลักฐานเชิงประจักษ์ ฟ้องว่า เป็นทุ่นระเบิดใหม่ ไม่ใช่มรดกทางสงครามที่ถูกกล่าวอ้างมาโดยตลอด กัมพูชา จงใจละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ และละเมิดอธิปไตยของไทย  รัฐบาลจึงขอให้ประชาคมโลก ร่วมประณามการใช้ทุ่นระเบิด และเรียกร้องให้กัมพูชา มีความจริงใจในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดทั้งเก่าและใหม่ ตามที่ไทยได้เสนอในการประชุม GBC แต่หากกัมพูชายังนิ่งเฉย ไทยก็สนอตัวที่จะดำเนินการให้เอง  คณะทูต ยังรับรู้ถึงผลกระทบต่อพลเรือนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ต้องมาสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และทรัพย์สิน กว่า 260,000 ครัวเรือน สำคัญกว่านั้น คือ โรงเรียน และโรงพยาบาล ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่การสู้รบ แต่สภาพที่ปรากฏต่อสายตาคณะทูต คือ เศษซากปรักหักพัง เสมือนอยู่ในแนวปะทะ แม้กระทั่งร่องรอยการตกของจรวด BM-21 และกระสุนปืนใหญ่ตกค้าง กระจายครอบคลุม 45 จุด ปัจจุบัน ยังเหลืออีกประมาณ 10 จุด ที่ยังไม่ปลอดภัย เขยชาวดัตช์ ฟ้องทูตไทยถูกรังแกก่อน ขณะที่เมื่อวานนี้ คณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด จำนวน 33 ประเทศ ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อสังเกตการณ์พื้นที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยมี นางพิศมัย อังคณา พร้อมสามี นายรูจ ชาวเนเธอร์แลนด์ มารอพบทูตประจำประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อเล่าความจริง โดยยืนยันว่า เหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทหารกัมพูชาเป็นฝ่ายยิงกระสุนปืนใหญ่ใส่ไทย เพราะ นายรูจ เจอกับตัวเอง ขณะวิ่งหนีตาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพิศมัย ได้พบกับทูตประจำเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถึงแม้จะเป็นระยะเวลาอันสั้น แต่ทางทูตก็ได้ส่งยิ้มและโบกมือทักทาย พาชมทุ่นระเบิด เพิ่งตรวจพบ สิ่งสำคัญ ที่ไทยจะฟ้องต่อนานาชาติเมื่อวาน คือ การพาขึ้นไปบนภูมะเขือ ที่กองทัพภาคที่ 2 ยึดกลับคืนมาได้ เพื่อดููการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งบางทุ่นเพิ่งจะตรวจพบเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ลักษณะไม่ใช่ของที่ผลิตในสมัยก่อน เพียงแค่มีสภาพทรุดโทรมเท่านั้น ผลประชุม RBC ตอกย้ำความคลุมเครือ กัมพูชา ยิ่งเป็นการตอกย้ำความคลุมเครือของกัมพูชา ให้ชัดขึ้น เมื่อมีบทสรุปการหารือ RBC หรือ การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคเมื่อวาน 16 ส.ค. ที่จังหวัดจันทบุรี ฝ่ายไทย นำโดย ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ส่วนฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 กองทัพบก ร่วมหารือและลงนามบันทึกความตกลงระหว่าง 2 ประเทศ  โดยสรุป ก็เป็นไปตามกรอบการประชุมในระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั้ง 2 ประเทศ หรือ GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม หลัก ๆ ก็คือ 13 ข้อ ที่มุ่งไปสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ยกเว้น การที่ฝ่ายไทยเคยเสนอเพิ่ม ประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามสแกมเมอร์ ฝ่ายกัมพูชาก็ยังไม่มีท่าทีตอบรับเหมือนเดิม โฆษกรัฐบาล โหมโรง โต้กลับ กัมพูชา อีก 1 เวทีของไทย ที่มีการชี้แจงผ่านรายการ เสียงจากใจ...ไทยคู่ฟ้า ย้ำ ไทยรบแบบสุภาพบุรุษ โดยยึดยุทธวิธีทางทหาร นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล แถลงโต้ข่าวกัมพูชาทุกเรื่อง เริ่มกันตั้งแต่เรื่องที่กล่าวหาไทยใช้อาวุธเคมี และนำทูตทหารต่างชาติในกัมพูชา ไปดูว่าเป็นการทิ้งระเบิดมาจากเครื่องบิน F-16  และ กริพเพน ยืนยัน และย้ำว่า ไทยทิ้งระเบิดเข้าใส่กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นกองทัพกัมพูชาที่ละเมิดอธิปไตยของไทยเท่านั้น ไม่ใช่พื้นที่ของพลเรือน ไทยเดินเกมต่อ ฟ้องนานาชาติ และตั้งแต่วันที่ 18-20 สิงหาคมนี้ กรมข่าวทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย จะพาคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน ที่มีทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย เป็นหัวหน้าคณะ ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี สุรินทร์ และศรีสะเกษ เพื่อดูความเสียหายจากการปะทะตามจุดต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลพนมดงรัก, ช่องจุ๊ปตะโมก, สถานที่ควบคุมเชลยศึก โดยจะใช้โอกาสนี้ เยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากระเบิด BM-21 ด้วย กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://news.ch7.com #สนามข่าวเสาร์อาทิตย์ #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero