7ภาพเขียนสีโบราณที่พบในประเทศไทย скачать в хорошем качестве

7ภาพเขียนสีโบราณที่พบในประเทศไทย

นอกจากแหล่งโบราณคดี ประเภทที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย และ แหล่งฝังศพแล้ว แหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์อีกประเภทหนึ่ง ที่พบอยู่ทั่วประเทศไทย คือ ภาพเขียนสี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งหลักฐานทางโบราณคดีที่สามารถบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นไป ของมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ อายุ 3,000-5,000 ปีมาแล้ว หากเราจะมองภาพเขียนสี จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องให้จิตนาการ มองภาพเขียนสี ให้เป็นงานศิลปะที่สร้างสรรค์ บนผนังหินเพิงผาหรือถ้ำ เพื่อบอกเล่าการใช้ชีวิตของคนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการฟ้อนรำ พิธีกรรม ความเชื่อ ล่าสัตว์ สัตว์เลี้ยง ภาพเขียนสีผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี จุดนี้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติยอดนิยมของคนไทยและคนต่างชาติ เป็นภาพวาดบนหน้าผาหินทรายริมฝั่งแม่น้ำโขง หันหน้าไปทางฝั่งลาว และถือเป็นภาพเขียนสีที่ใหญ่ มีความยาวของภาพต่อเนื่องกันประมาณ 180 เมตร ปรากฏรูป คน สัตว์ ช้างแม่ลูก เต่า ปลาบึก ปลากระเบนจืด เครื่องมือจับปลาที่ มีสัญลักษณ์อื่นๆอีกเช่น ฝ่ามือคน นอกจากนี้ผาแต้ม ยังพบภาพเขียน ที่ใช้เทคนิคการสลักหินหรือการทำรอยลงในเนื้อหิน คาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 5,000-6,000 ปี ภาพเขียนสีขวานฟ้า เทือกเขาภูพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เป็นลายเขียนเส้นสีเหลือง –แดง เป็นรูปเรขาคณิต พบภาพฝ่ามือทาบบนผนังถ้ำ และที่โดดเด่น เป็นภาพคนที่มีลักษณะหัวโต ซึ่งนั้นอาจะเป็นเครื่องประดับ มีรูปม้า รูปวัวแดง ที่เป้นภาพที่บอกเล่าเรื่องราวได้อย่างดี ว่าวัวแดงตัวนั้นเป็นวัวเพศเมีย เพราะวาดมีลักษณะเต้านมอย่างชัดเจน ภาพเขียนสีเขาจันทน์งาม ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา จุดนี้มีทั้งภาพลงสีแบบเงาทึบและภาพลายเส้น ประกอบไปด้วยภาพมนุษย์ทั้งชายหญิงและเด็ก รวมไปถึงสัตว์ต่างๆ ด้วย โดยสำรวจพบ 32 ภาพ แบ่งเป็นผู้ชาย 28 ภาพ ผู้หญิง 2 ภาพ เด็ก 1 ภาพ และภาพสัตว์สำคัญคือไก่หรือนก ภาพสัตว์คล้ายเม่น ภาพสัตว์คล้ายเสือและสิงโต ภาพสุนัข ภาพอาวุธ 1 ภาพ ได้แก่คันธนูและลูกศร โดยภาพที่โดดเด่นและชัดเจนที่สุดคือภาพคนที่มีทั้งชาย หญิง เด็ก และหมา ที่อยู่ในลักษณะต่างๆ เช่น นั่ง เต้นรำ ยืน และยิงธนู รูปคนแต่ละภาพมีผ้ามัดเอว สันนิฐานว่าอาจะเป็นเครื่องประดับของคนในยุคสมัยนั้น ภาพเขียนสีภูผายล บ้านนาผาง ตำบลกกปลาซิว อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร ภาพแกะส ลักภูผายน ต่างจากภาพเขียนสีแดง ที่พบโดยทั่วไปในประเทศไทย นักโบราณคดีสันนิษฐานว่ามีอายุประมาณ 3500-4000 ปีมาแล้ว โดยการแกะสลักใช้เทคนิคที่เรียกว่า Engraving แองกาวิง ก็คือการใช้โลหะแข็งขูดขีดไปบนพื้นผิวหิน ในประเทศไทยมีแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ไม่กี่แห่งที่ทำเทคนิคนี้ แสดงว่าคนในยุคนั้นมีความสามารถถลุงแร่เหล็กมาใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว จุดนี้มีการนำไป เปรียบเทียบอายุกับแหล่งโบราณคดีที่บ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ที่มีการใช้เครื่องมือโลหะแล้ว และมีการกำหนดอายุของแหล่งโบราณคดีน่าจะอยู่ในยุคสมัยที่ใกล้เคียงกัน ภาพแกะสลักลงบนหน้าผาหินภูผายล มีรูปภาพแกะสลักต่าง ๆ เช่น รูปต้นไม้ คน สัตว์ และภาพเครื่องหมายสัตว์ลักษณะต่าง ๆ ซึ่งแสดงถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ในสมัยก่อน และที่สำคัญจุดนี้ พบภาพแกะสลักที่แสดงเรื่องราวไว้มากที่สุด และมีขนาดใหญ่ที่สุด ในบรรดาศิลปะเดียวกันในภาคอีสาน ภาพเขียนสีประตูผา” ต.บ้างดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เป็นภาพเขียนสี ในพื้นที่ซึ่งเป็นช่องเขาอยู่ระหว่างเขา 2 ลูก เป็น แหล่งภาพเขียนสีที่ยาวที่สุดในเขตภาคเหนือตอนบน มีจำนวนมากถึง 1,872 ภาพ ภาพเขียนสีแหลม ไฟไหม้” ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี กลุ่มภาพเขียนสีปรากฏบริเวณผนังของเพิงผา เขียนด้วยสีแดงกลุ่มใหญ่เกือบเต็มพื้นที่ดังนี้ 1.ภาพบุคคลยืนอยู่ชิดติดกันลักษณะคล้ายคนแฝด หรือคนหนึ่งอาจเป็นคนพิการหรือร่างกายผิดปกติและอีกคนกำลังพยุงอยู่ ส่วนภาพอื่นๆ คล้ายบุคคลแสดงกิริยาต่างๆ และปรากฏอยู่รวมเป็นกลุ่มกับภาพสัตว์และภาพเรขาคณิต 2.ภาพสัตว์ คล้ายปลา ไม่มีครีบหาง, ภาพคล้ายนก, ภาพคล้ายแมงกะพรุน 2 ภาพ 3.ภาพคล้ายพระจันทร์เสี้ยว 4.ภาพเรขาคณิต นอกจากนี้ ยังมีภาพที่เป็นลายจุด ภาพที่เกิดจากการเขียนเส้นต่อกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยมจนมีลักษณะคล้ายเรือที่มีภาพบุคคลหรือสัตว์อยู่ด้านบนอีกด้วย ภาพเขียนสีถ้ำผีหัวโต” ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก กระบี่ เป็นภูเขาหินปูนในอ่าวพังงา ภาพเขียนมีปรากฏในถ้ำสองคูหาตามฝาผนังถ้ำและเพดาน จำนวน 163 ภาพ เป็นภาพคน แสดงให้เห็นใบหน้าและเส้นผม ประดับตกแต่งร่างกายไม่ซ้ำแบบกัน ชุดที่สวมใส่มีการตกแต่งรวดลาย มีภาพสัตว์ประเภท นก ไก่ ปลา ปลาหมึก จระเข้ เม่น และกุ้ง ภาพมือและเท้าและภาพลายเส้น ซึ่งอาจเป็นภาพเครื่องมือเครื่องใช้ เช่น แห หรืออวน และเรือ เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่าในถ้ำนี้มีกลุ่มคนที่ดำรงชีวิตอยู่ด้วยการจับสัตว์น้ำเป็นหลัก โดยใช้เรือแพเป็นพาหนะเข้ามาใช้ถ้ำนี้พักอาศัยและประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อเป็นครั้งคราวและดำเนินการติดต่อกันเป็นเวลานาน.