ตำรวจนครบาล รวบ 5 โจ๋!! ทำร้ายกายกายคู่อริ สารภาพมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน ขณะที่สืบสายไหมตามล่า скачать в хорошем качестве

ตำรวจนครบาล รวบ 5 โจ๋!! ทำร้ายกายกายคู่อริ สารภาพมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน ขณะที่สืบสายไหมตามล่า

พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 แถลงข่าวตำรวจนครบาล รวบ 5 โจ๋!! ทำร้ายกายกายคู่อริ สารภาพมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน ขณะที่สืบสายไหมตามล่าอีก 3 ที่ยังหลบหนี วันอังคารที่ 28 พ.ย.61 เวลา 10.30 น. ที่ ห้องประชุมใหญ่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 , พ.ต.อ.ทนงศิลป์ มณีโชติ ผกก.สน.สายไหม , พ.ต.ท.ประพจน์ อนุศิริ รอง ผกก.สส.สน.สายไหม ร่วมแถลงการจับกุมตัวนายทินกร หรือแบ๊งค์ แสงโชติ อายุ 18 ปี , นายจิราชัย หรือจิ มาสะอาด อายุ 19 ปี , นายกิตติพรรดิ์ หรือเอ็กซ์ ทองยืน อายุ 21 ปี , นายปรัชญา หรืออาร์ม เจษฏางกูล อายุ 20 ปี และนายกอล์ฟ (ขอสงวนชื่อและชื่อสกุลจริง) เยาวชนอายุ 17 ปี พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโซลูน่า สีแดง หมายเลขทะเบียน กฉ-3079 ชลบุรี , รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนเงิน หมายเลขทะเบียน บย-4019 นครสวรรค์ , สิ่งเทียมอาวุธปืนชนิดรีวอลเวอร์ สีเงิน 1 กระบอก , สิ่งเทียมอาวุธปืนชนิดแม็กกาซีน สีดา 1 กระบอก , สิ่งเทียมอาวุธปืนยาว (บีบีกัน) สีดำ 1 กระบอก โดยสามารถจับกุมได้ที่ สน.สายไหม เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังร่วมก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายวรพัฒน์ เหมชะญาติ หรือคลาส อายุ 24 ปี และนายธนภัทร์ หรือฟิล์ม สุขขัง อายุ 20 ปี ได้รับบาดเจ็บ ภายในลานจอดรถบ้านเอื้ออาทรสายไหม ซอยสายไหม 33/1 แขวง สายไหม เขตสายไหม กทม. พล.ต.ต..เอกชัย ผบก.น.2 เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.30 น. ได้มีคนร้ายประมาณ 6-8 คน ขับขี่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล เข้ามาบริเวณลานจอดรถบ้านเอื้ออาทรเขตสายไหม ซอยสายไหม 33/1 แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม. จากนั้นได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายนายวรพัฒน์ หรือคลาส และนายธนภัทร์ หรือฟิลม์ พร้อมกับใช้อาวุธปืนข่มขู่บังคับผู้เสียหายขึ้นรถไปกับกลุ่มคนร้าย แล้วขับขี่รถยนต์มุ่งหน้าไปตามถนนหทัยราษฏร์ เข้าถนนเลียบถนนทางหลวงพิเศษมอเตอร์เวย์ พื้นที่ สน.คันนายาว จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้พาผู้เสียหายทั้งสองคนลงจากรถยนต์ แล้วรุมทำร้ายอีกครั้งก่อนจะพาผู้เสียหายทั้งสองคน มาส่งที่บ้านเอื้ออาทรแล้วขับรถยนต์หลบหนีไป ต่อมา ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.สายไหม และต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ออกสืบสวนและติดตามจับกุม จากนั้นวันที่ 27 พ.ย. เวลา 20.00 น. ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และอยู่ระหว่างติดดามตัวผู้ต้องหาอีก 3 รายมาดำเนินคดี จากการสอบสวนเบื้องต้นกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีปัญหาทะเลาะวิวาทกับนายมอส (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง)ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนของผู้เสียหายมาก่อน จากนั้นได้มาเจอกันอีกครั้งในคืนวันลอยกระทง พวกตนได้เข้าไปถามหานายมอสจากผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายไม่ทราบว่าอยู่ไหนจึงอุ้มไปรุมทำร้าย ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุไม่ใช่อาวุธสงครามแต่เป็นปืนบีบีกันและปืนไฟแช็ค เบื้องต้นแจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้งหมด ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นด้วยประการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธปืน จนผู้ถูก ข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น, ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ใน ความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มี ใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวหรือมีเหตุอันควร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.สายไหม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป #ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน