У нас вы можете посмотреть бесплатно AP LAW 72 "ความผิดทางกฎหมาย กรณีการส่งเสียงดัง” или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
AP LAW 72 "ความผิดทางกฎหมาย กรณีการส่งเสียงดัง” การส่งเสียงดังนั้นเป็นปัญหาที่อยู่คู่กับสังคมไทยในทุกยุคสมัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ก่อความรำคาญต่อบุคคลรอบข้าง ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นนั้น จะมีทั้งในส่วนของแพ่งและอาญา และกฎหมายอื่น ๆ ได้แก่ 1.ความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เนื่องจากการส่งเสียงดังนั้นเป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อาศัยใกล้เคียง หากมีการฟ้องร้องคดีจากผู้ได้รับผลกระทบจากเสียงดัง ผู้ก่อให้เกิดเสียงดังย่อมต้องรับผิดในมูลละเมิดตามมาตรา 420 ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 8309/2548 และผู้เสียหายยังสามารถอ้างการใช้สิทธิโดยเสียหายต่อผู้อื่น ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421 ได้ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถฟ้องร้องโดยอาศัยเหตุตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 ได้ด้วย เนื่องจากเป็นการใช้สิทธิของที่เป็นเหตุให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเสียหาย หรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควร เมื่อพิจารณาจากสภาพและตำแหน่งที่อยู่แห่งทรัพย์สินนั้น เจ้าของอสังหาริมทรัพย์มีสิทธิจะปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไป ทั้งนี้ไม่ลบล้างสิทธิที่จะเรียกเอาค่าทดแทนจากผู้ก่อให้เกิดความเดือดร้อน 2.ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดทางอาญาในกรณีนี้ เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 370 โดยกฎหมายระบุไว้ว่า "ผู้ใดส่งเสียง ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึง โดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท” โดยกฎหมายตามมาตรานี้ครอบคลุมทั้งกรณีที่ข้างบ้านเปิดเพลงเสียงดัง การเล่นดนตรี หรือมีการสังสรรค์เสียงดังเกินกว่าค่ามาตรฐาน คือ 70 เดซิเบล 3.ความผิดตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 ความผิดตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 นั้น จะอยู่ในมาตรา 25 ถึงมาตรา 27 โดยกรณีการส่งเสียงดัง จะอยู่ในมาตรา 25 (4) คือการกระทำใด ๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี เสียง ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละออง เขม่า เถ้า หรือกรณีอื่นใด จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งถือเป็นเหตุรำคาญ ตามพระราชบัญญัตินี้ เจ้าพนักงานย่อมมีอำนาจห้ามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดก่อเหตุรำคาญ ตามมาตรา 26 และมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้หยุดก่อเหตุรำคาญ กระทำการระงับเหตุรำคาญ หรือกำหนดวิธีการป้องกันเหตุรำคาญขึ้น ตามมาตรา 27 ถึงมาตรา 29 สรุป การส่งเสียงดังนั้นหากก่อความเสียหายแก่ผู้อื่น ย่อมทำให้ผู้ก่อเสียงดังต้องรับผิดทางแพ่งและอาญา นอกจากนี้การก่อเสียงดังยังเป็นเหตุรำคาญตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข ซึ่งเจ้าหน้าที่ย่อมมีอำนาจจัดการตามกฎหมายด้วย เนื้อหาโดย กิตตินันท์ จารุกิจไพศาล Paralegal น.บ. (ธรรมศาสตร์)