У нас вы можете посмотреть бесплатно 'พิชัย' ยันทำการบ้านมา 2 เดือน รอเวลาเหมาะสมเจรจา 'สหรัฐ' ย้ำ ไทยเตรียมมาตรการรองรับ или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มองว่า การที่สหรัฐมีการเรียกเก็บภาษีไทยที่ 36 % ไม่ใช้อัตราภาษีที่สหรัฐอยากจะเก็บ แต่เป็นความต้องการของสหรัฐที่อยากลดการขาดดุลการค้าซึ่งมากเกินไปตามสัดส่วนของแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นโจทย์ของไทยที่ต้องแก้ไขดุลการค้า และเมื่อมานั่งดูปัญหา พบว่า สหรัฐขาดดุลการค้ามานาน และฐานการผลิตไม่มีในประเทศ และพึงพาการบริโภคและการบริการ และผลที่ตามมาทำให้หนี้ของรัฐบาลสหรัฐ ประมาณ 123 % ของจีดีพี ทำให้จ่ายดอกเบี้ยเยอะ ทำให้สหรัฐต้องการลดหนี้ลง ลดการเสียเปรียบดุลการค้า และอยากให้ฐานการผลิตย้ายไปสหรัฐให้มากที่สุด นายพิชัย ยืนยันว่า เรื่องนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ทำการบ้านมา 2 เดือนกว่าแล้ว โดยจะมีการดำเนินการดังนี้ ข้อ 1. เราพบว่า สำหรับสินค้าเกษตรมีหลายสินค้าที่ไทยยังขาด และจำเป็นต้องนำเข้ามาแล้วแปรรูป โดยเฉพาะอาหารสัตว์ไทยผลิตได้ 20 ล้านตัน และใช้ข้าวโพดเป็นวัสถุดิบทำอาหารสัตว์ประมาณ 9 ล้านตัน ซึ่งไทยปลูกได้เพียง 5 ล้านตัน และจำเป็นต้องนำเข้า 4 ล้านตัน จึงจำเป็นต้องซื้อจากสหรัฐเพื่อลดขาดดุลการค้า และราคาสามารถแข่งขันได้และหากซื้อจากสหรัฐก็จะได้ราคาถูก แต่รัฐบาลจะต้องมาพิจารณาว่า ต้องซื้อปริมาณเท่าไร เพื่อดูแลเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดด้วย รวมถึงผลิตภัณฑ์จากอาหารสัตว์ โดยเฉพาะเครื่องในสัตว์ที่อาจจะนำเข้ามา นายพิชัย กล่าวว่า ข้อ 2.รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการผ่อนคลายการเก็บภาษีนำเข้าในสินค้า 100 กว่าชนิด โดยจะมีการวิธีการที่ทำให้คู่ค้าที่เราได้เปรียบเขาอยู่ เราก็ซื้อเขาในสัดส่วนที่มีโควต้าอยู่เป็นต้น ก็สามารถบริหารจัดการสิ่งต่างๆได้ ข้อ 3. จะลดกลไกทางกฏหมายที่ทำให้สหรัฐเกิดความไม่สะดวกและทำให้เกิดปัญหาโดยไม่จำเป็น เพราะกฏหมายไทยหลายอย่างมีความซ้ำซ้อน และเมื่อมีการแก้กฏหมายก็จะถือโอกาสเพิ่มประสิทธิภาพทำให้กฏหมายไทยดีขึ้น และลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน ข้อ 4.รัฐบาลจะไปพิจารณาเรื่องอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษี (Non-Tariff Barriers: NTB) โดยจะดูว่า สินค้าที่มาจากประเทศอื่นแล้วผ่านมาที่ไทย จะมีการออกต้นถิ่นกำเนิดของสินค้า เราจะทำเรื่องนี้ด้วยความรอบคอบมากขึ้น เพื่อทำให้สินค้าที่ใช้ไทยเป็นทางผ่านเกิดน้อยที่สุด ข้อ 5.รัฐบาลจะพิจารณารับซื้อก๊าซธรรมชาติจากสหรัฐ ซึ่งพบว่า มีต้นทุนที่ถูก หากไม่รวมค่าขนส่ง ต้นทุนอยู่ที่ 2 เหรียญกว่า แต่ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยอยู่ที่ 5 เหรียญกว่า ไทยซื้อเป็นสัญญาอยู่ที่ 12 เหรียญ ซึ่งคิดว่า หากซื้อก๊าซจากสหรัฐรวมค่าขนส่ง น่าจะซื้อได้ และหากซื้อจากอลาสก้าก็ขนส่งทางเรือมายังไทยได้ รวมถึง สหรัฐอยากเห็นนักลงทุนไปลงทุนในสหรัฐ เช่น ไทยเชี่ยวชาญด้านการแปรรูปสินค้าเกษตร อาจมีการไปตั้งโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรในสหรัฐ ขายในสหรัฐและขายไปทั่วโลก ซึ่งบริษัทที่จะไปลงทุนต้องมีศักยภาพ และเป็นบริษัทที่เป็นมีความต้องการในสินค้านั้นเป็นพื้นฐาน และมั่นใจว่า เรื่องของเงินทุนไม่มีปัญหาเพราะเรามีสถาบันการเงินที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ “การที่เราทำสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่อเมริการยื่นข้อเสนอโหดมา ขู่มา แต่ผมคิดว่า เป็นความจำเป็นของประเทศเขาที่ต้องทำสิ่งเหล่านี้ เราพอเข้าใจ แต่สิ่งที่เราจะทำ เราจะดูว่า เราต้องการอะไร มีขีดความสามารถอะไร แก้ปัญหาแล้วได้ประโยชน์ด้วย เราต้องมั่นใจสิ่งเหล่านั้น เป็นคู่แมทช์กับอเมริกาพอดี อยากให้ความมั่นใจว่า วิธีการแก้ปัญหาของประเทศผ่านการคิดอยู่เสมอ และต้องการแก้ปัญหาเป็น win win solution ดีทั้งอเมริกา ดีทั้งเรา”นายพิชัย กล่าว #กรรมกรข่าวคุยนอกจอ #สรยุทธสุทัศนะจินดา #คุยนอกจอ #รัฐบาล #แพทองธาร #ทักษิณ #การเมือง #พรรคประชาชน #เท้ง #ศิริกัญญา #GDP#ภาษี#สหรัฐ#สิงคโปร์#ทรัมป์#ส่งออก#พิชัย#เศรษฐกิจ