У нас вы можете посмотреть бесплатно [fan AMV] Demo fs03AI light song Th AI ver. или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
จัดทำเพื่อความบันเทิงและการฝึกแปลครับ “เมื่อฝนตก ผมนึกถึงหนังเรื่องสุดท้ายที่ได้ดู” ถ้าไม่นับซีนที่วิ่งฝ่าฝนกลับบ้านมาเขีียนการ์ตูนของฟูจิโนะ เรื่องนี้ก็ไม่มีฝนเลยนะ 55 ขอขอบคุณผู้แต่งเพลง Haruka Nakamura และ Urara รวมถึงซับจากช่องต่างๆ ที่นำมาใข้เป็นไอเดียในการคิดงานครับ และขอขอบคุณศิลปินทุกท่านที่สร้างสรรค์งานดีๆ และรูปที่นำมาใช้ประกอบนะครับ Original song : Light song singer : Urara Composer: haruka nakamura Lyricist: haruka nakamura ________________ 📌 Disclaimer I do not own the rights to music, photos and lyrics. It belongs to the original artists and copyright holders. This video is for entertainment purposes only. I do not monetize this content—any ads are placed by YouTube via Content ID. Contact me for removal requests. ------------------- 📌 Disclaimer (for AI version) เนื้อหาในส่วนนี้จัดทำเพื่อศึกษาการใช้งานตัว app สำหรับปรับปรุงเสียงหรือสร้างเสียงสังเคราะห์ และมุ่งหวังการใช้งานคือการใช้ฟังส่วนตัว และ เพื่อเป็นไกด์สำหรับการร้องโดยคนจริงเป็นหลักครับ ทางผมคาดหวังเป็นอย่างมากว่า หากเป็นที่ถูกใจ และถูกนำไปใช้จริงได้ ผมก็รู้สึกขอบคุณและเป็นเกียรติอย่างมาก หวังเพียงจะได้เห็นมันได้เดินทางไปสู่ผู้ฟังมากหน้าหลายตา และได้นำเวอร์ชั่นเหล่านั้นมาเก็บไว้เป็นอัลบั้ม เพื่อย้ำเตือน ว่าอย่างน้อยในชีวิตนึง ก็ได้สร้างงานไว้บนโลกใบนี้ ขอขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลามารับฟังครับ ------------------- ส่วนของการตีความและแปลเนื้อเพลงจะอยู่ใน description ของเพลงนะครับ หรืออ่านเต็มน่าจะใน readawrite อันนี้จะลงเฉพาะในส่วนของมุมมองผู้เขียนต่อตัว anime สำหรับแกนในการเล่าเพลงนี้ ผู้เขียนมองว่าเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมของตัวเคียวโมโตะที่มีต่อตัวฟูจิโนะ (โดยเฉพาะในส่วนของท่อน outro ที่ต้องการสื่อว่า แม้วันนี้ไม่ได้ร่วมทางบนเส้นทางฝันของตัวฟูจิโนะอีกแล้ว แต่ก็ยังคงเฝ้ามองความฝันของฟูจิโนะและคอยให้กำลังใจกับความฝันนั้นอยู่เสมอ ดังที่ตัวเรื่องนำเสนอผ่านฉากที่ฟูจิโนะมางานศพและมาที่บ้านที่เคยอยู่ด้วยกัน ได้เห็นหนังสือที่เคียวโมโตะซื้อซ้ำหลายcopy เพื่อไม่ให้ shark kick โดนตัดจบ เสื้อที่มีลายเซ็นตัวเองที่เซ็นให้ก็ยังถูกแขวนเก็บไว้อย่างดี) ความรู้สึกชื่นชมนับถือตัวฟูจิโนะ(ขนาดที่เรียกฟูจิโนะว่าอาจารย์ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน) ผู้เขียนจึงเลือกตีความความรู้สึกนับถือนั้นว่า สำหรับเคียวโมโตะนั้น ฟูจิโนะเป็นเหมือนแสงดาวนำทางที่นำพาเธอกลับบ้านที่พวกเธอเคยอยู่ด้วยกันเมื่อสมัยที่ยังเขียนเรื่องสั้น (และตรงนี้ สำหรับผู้เขียนมองว่า สำหรับฟูจิโนะ ตัวเคียวโมโตะก็มีสถานะเป็นแสงดาวนำทางของเธอเหมือนกัน ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกันทีี่ฟูจิโนะซึ่งเคยล้มเลิกการเขียนการ์ตูนไปแล้วพักนึง การพบเจอนั้นจุดไฟการอยากเขียนการ์ตูนกลับมาอีกครั้ง ความรู้สึกว่าการ์ตูนของตัวเองยังเป็นที่ต้องการของคนคนหนึ่ง มันทำให้ดีใจ ดีใจจนเต้นรำกลางสายฝนไปตลอดทางเพื่อกลับบ้านไปรื้ออุปกรณ์วาดรูปกลับมาวาดอีกครั้งแทบจะทันที และจนแม้แต่วันที่เคียวโมโตะจากไปจนฟูจิโนะรู้สึกหลงทางว่าจะวาดการ์ตูนไปทำไม ก็ยังได้กระดาษแก๊กสี่ช่องของเคียวโมโตะเรียกสติให้กลับมาในทิศทางที่ควรได้ และมอบคำตอบแก่คำถามนั้น คำถามที่ว่า “จะเขียนการ์ตูนไปทำไม วาดไปก็ไม่เห็นได้อะไรสักอย่างเลย”) ในส่วนของ conflict ในเรื่อง ผู้เขียนมองว่า การที่ทั้งสองคนผิดใจกันจนต้องแยกเส้นทางไปในกลางเรื่องนั้น เหตุผลนั้นมีความรักเจืออยู่ สำหรับตัวฟูจิโนะหากมองเผินๆอาจดูเป็นคนไม่ดีนักที่เหนี่ยวรั้งเคียวโมโตะไม่ให้ตามความฝันตัวเองที่จะไปเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะในช่วงที่จะได้เริ่มทำเรื่องยาว แต่สำหรับตัวผู้เขียนกลับรู้สึกว่าลึกๆแล้วเหตุผลต่างๆมากมาย คำพูดไม่ดีที่พูดว่า เธอไปไม่ได้หรอก เธอไม่ไหวหรอก เหล่านั้น แท้จริงอาจเป็นเพียงคำว่า “เธอไม่ต้องไปจากฉันได้ไหม / เธออยู่กับฉันที่นี่ต่อได้ไหม” ถ้าเหนื่อย ถ้ากังวลว่าวาดฉากได้ไม่ทันเราจ้างผู้ช่วยเพิ่มก็ได้ มันคงเป็นเพียงความรู้สึกที่ไม่อยากเสียความอบอุ่นที่คุ้นเคยไป อย่างที่เคยเขียนใน far beyond the star ว่าหลายครั้งเราเผลอทำร้ายหรือทำให้ใครเจ็บปวดไปเพียงเพราะเหตุผลว่าเรารักเขาโดยไม่เข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของอีกฝ่าย มันจึงจบด้วยการแยกจากที่ต่างฝ่ายต่างรู้สึกผิดและติดค้างใจ ขณะเดียวกันในมุมของเคียวโมโตะเอง นอกจากความต้องการไปเรียนมหาวิทยาลัยศิลปะ(หรือวิทยาลัยนะ?) ซึ่งในเรื่องก็มีการปูว่าหลังจากออกจากห้องได้ และได้เปิดโลก ได้เห็นหนังสือภาพการวาดฉากที่ตัวเองหลงใหล เรื่องก็ได้ปูให้เราเห็นความรู้สึกที่ว่ากำลังจะวิ่งตามฟูจิโนะไม่ทันจากสัญญะที่ใส่ในฉากที่ทั้งสองวิ่งจับมือกันแต่มือของเคียวโมโตะที่เป็นผ่ายวิ่งตามนั้นค่อยๆหลุดออกไป ส่วนตัวมองฉากนี้ว่าต้องการสื่อว่าเคียวโมโตะเองก็กังวลว่าหากยังวาดช้า ไม่เก่ง วันนึงตัวเองจะเป็นภาระของฟูจิโนะไหมนะ บางทีการที่ตัวเองไปเรียนต่อมันอาจทำให้ตัวเองเก่งขึ้นและกลับมาเป็นกำลังให้ฟูจิโนะได้ หรือมีค่าพอจะได้ยืนข้างๆฟูจิโนะต่อ โดยส่วนตัวจึงมองว่าความรู้สึกของเคียวโมโตะเองก็เป็นความรักไม่ต่างกัน หากสองคนได้มีเวลาพูดคุยอธิบายเหตุผลกันอย่างใจเย็น อย่างน้อย มันก็อาจเป็นการแยกจากที่่ต่างเข้าใจกันและไม่ต้องผิดใจกันจนกลายเป็นเรื่องค้างคาใจก็ได้ หากแต่ชะตากรรมบางอย่างไม่อาจเลี่ยงได้อยู่ดี ดูเหมือนอาจารย์ฟูจิโมโต้แกจะยังใจร้ายกับแกนเรื่องที่แกต้องการเล่าอยู่ดี เพราะแม้จะไม่ได้เจอกันในอีกโลกคู่ขนาน คุณพี่อีเตอร์ก็ตามมาไล่ฟาดที่มหาวิทยาลัยศิลปะอยู่ดี (เคียว: นี่ยังไงดิชั้นก็ไม่รอดเหรอคะ) ต่างกันแค่ในโลกคู่ขนาน ฟูจิโนะมาช่วยได้ทัน (ซึ่งเหมือนเป็นการปฎิเสธความจริงในสิ่งที่เป็นเหมือนปมในใจสำหรับตัวฟูจิโนะในโลกความจริงนี่ละ) ปล.ครั้งหน้าเราจะมากับเพลงที่เข้ากับบรรยากาศคริสมาสกันครับ