สาวร้อง ถูก “ป้าสุดแสบ” ไล่ฟ้องชู้ ทั้งที่ “ไม่ได้ทำ” จนผัวจริงดับ ! พีกจัด “ตร.” มีเอี่ยว (ภาค 1) скачать в хорошем качестве

สาวร้อง ถูก “ป้าสุดแสบ” ไล่ฟ้องชู้ ทั้งที่ “ไม่ได้ทำ” จนผัวจริงดับ ! พีกจัด “ตร.” มีเอี่ยว (ภาค 1)

สาวร้อง ถูกป้าสุดแสบหาว่าไปเป็นชู้กับอดีตสามี หลังเคยร่วมลงทุนเปิดร้านอาหารด้วยกัน แม้ชนะคดีในศาลแล้วแต่ยังถูกตามราวี มีตำรวจมาคุกคามถึงหน้าบ้าน ช็อตเด็ด นาทีเดือด ! 00:00 สาวเจ้าของคาเฟ่ร้อง ถูก “ป้าสุดแสบ” ไล่ฟ้องว่าเป็น “ชู้” หวังจะให้ยอมรับให้ได้… 14:07 เผย โดน ตร. บุกถึงหน้าบ้าน!!! กลิ่นตุๆ อ้างมีหมายจับ 30:20 ป้าสวย กล่าว ถูกสามีทำร้าย ทุบตี พร้อมเผยสามมียอมรับ!! มีความสัมพันธ์กับสาวเจ้าของคาเฟ่ 32:12 ย้ำ!! มั่นใจ!! สาวเจ้าของคาเฟ่เป็น “ชู้” สามีป้า 39:57 สาวย้ำ ในรูปไม่ใช่ตน เผยคือ “แม่ครัว” ของร้าน 49:30 ป้าเอ่ย “อย่าหลงประเด็น” ยืนยัน สาวเจ้าของคาเฟ่เป็น “ชู้” เพราะ!!! คำสารภาพออกมาจากปากของสามี(เก่า)ของป้าเอง 53:43 ทนายรณณรงค์ กล่าว การบุกเฝ้าหน้าบ้านแบบนี้ มันผิดวิสัยการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตร.!!! 01:00:00 สาวเผย หมายศาลทำเครียด เสียใจสามีเสียชีวิตไปก่อนที่จะชนะคดี 01:04:00 ป้าขอพูด ตนก็สูญเสีย อ้างโดนทุบตี “คุณเข้าใจมั้ย ผู้หญิงคนนี้เจ็บขนาดไหน“ ถึงขั้นซึมเศร้า วันที่ 19 ส.ค. 67 คุณ พรพิมล ปั้นวิลัย (กลอย) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนเปิดร้านอาหารเมื่อปี 2560 โดยร่วมหุ้นกับพี่สาวของชายที่เป็นสามีของคู่กรณี หลังจากลงทุนไปแล้วได้มีการเปลี่ยนหุ้นให้น้องชาย ซึ่งคือลุงสุสามีของคู่กรณี ตนเป็นผู้บริหารร้านเองทั้งหมดอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้ร่วมทุน เหตุการณ์เริ่มตั้งแต่ปี 2560 คู่กรณีเข้ามาหาตนแล้วโวยวาย จากนั้นลูกชายกับลูกสาวของคู่กรณีมาขอโทษตน เดือนต่อมามีหมายศาลมาที่บ้านตน กล่าวหาว่าตนเป็นชู้กับลุงสุสามีของคู่กรณีคนดังกล่าว ตัดสินใจไปสู้ที่ศาลจนสุดท้ายศาลบอกว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ลุงสุอาจจะมีการผิดสัญญาเรื่องการแบ่งทรัพย์สิน แต่กลับมีหมายมาที่บ้านตนให้ไปร่วมรับผิดชอบ ตนพยายามยืนยันกับศาลว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ก็ยังมีหมายบังคับคดีมาที่บ้านตนอีก สุดท้ายตนจ้างทนายเพื่อจัดการคดีนี้แล้วพบว่าอีกฝ่ายเบิกความเท็จศาลจึงตัดสินให้คู่กรณีเป็นฝ่ายผิด แต่เรื่องราวยังไม่จบจากนั้นมีตำรวจมาที่บ้านกล่าวหาว่ามีคดีรถชน สุดท้ายได้รู้ว่าตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว คุณ นิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน ตอนแรกตนเข้าใจว่าเรื่องนี้จบแล้วแต่สุดท้ายยังไม่จบ และคุณกลอยผู้เสียหายเพิ่งย้ายบ้านได้ 2 เดือน ทำไมตำรวจถึงรู้ทะเบียนบ้านของผู้เสียหายได้ คดีนี้ทำให้ครอบครัวของคุณกลอยเสียหาย เนื่องจากคนในครอบครัวเข้าใจผิดว่าคุณกลอยไปเป็นชู้กับลุงสุจริง ๆ คุณสวย (นามสมมติ) คู่กรณีที่ถูกพาดพิงว่าชอบตามคุกคาม ชี้แจงว่า ตนเพิ่งรู้เรื่องภายหลังว่าลุงสุอดีตสามีได้ไปร่วมลงทุนร้านอาหารกับคุณกลอย ตนจึงเข้าไปหาคุณกลอยที่ร้าน แล้วอีกฝ่ายยืนยันว่าไม่ใช่ชู้ของลุงสุอดีตสามีตน ตนพยายามจะจบเรื่องแล้ว แต่อดีตสามียอมรับว่ามีความสัมพันธ์กับคุณกลอยจริง และตนถูกอดีตสามีทำร้ายและบังคับให้ลูกเมียตนยกทรัพย์สินให้ เพื่อจะนำเงินไปลงทุนกับคุณกลอย และยังถูกคุณกลอยฟ้องกลับอีกหลายคดี ตอนนี้ตนต้องการเพียงตามหาสามีของตนที่หายตัวไป ซึ่งตนเชื่อว่าฝ่ายชายไปติดพันกับคุณกลอย ด้านคุณกลอยยืนยันว่า คนในภาพหลักฐานที่คุณสวยนำไปฟ้องศาล เป็นพนักงานที่ร้านโดยรับจ้างทำความสะอาดบ้านลุงสุ ซึ่งศาลได้ตัดสินแล้วว่าคุณกลอยไม่ผิด ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า หากไม่มีชื่อในหมายจับแต่ตำรวจไปเฝ้าถึงบริเวณบ้าน โดยไม่ได้ขออนุญาตจากต้นสังกัด ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติ ส่วนเรื่องการฟ้องร้องชู้จะต้องมีหลักฐานชัดเจนและมีการสมรสตามกฎหมาย และจะมีระยะเวลาฟ้องร้องไม่เกิน 1 ปี จึงจะสามารถฟ้องชู้ได้ คาดว่าคดีนี้เป็นเรื่องของสินสมรสมากกว่า #ถกไม่เถียง #TERODigital #Ch7HDNews ---------- ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 Facebook:   / terodigital   Twitter:   / tero_digital   YouTube:    / terodigital   TikTok:   / terodigital   Instagram:   / terodigital