У нас вы можете посмотреть бесплатно โรคขาดความยับยั้งชั่งใจ| สัญญมะ| (โรคทางคุณธรรมยอดฮิดของคนปัจจุบัน) или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
โรคขาดความยับยั้งชั่งใจ ขับรถปาดหน้ากันก็ทะเลาะกันและยิงกันตาย แม่ต่อว่าด่าทอนิดหน่อยขับรถหุนหันพลันเล่นหนีออกจากบ้านเกิดอุบัติเหตุรถชน. แฟนขอเลิกน้อยใจฆ่าตัวตาย ตัวอย่างเหล่านี้ล้วนเกิดจากการหุนหันพลันแล่นที่เกิดจากการขาดความยับยั้งช่างใจทั้งสิ้น วิธีแก้ไขและป้องกันการขาดความยับยั้งช่างใจมีห้าวิธีดังต่อไปนี้ 1 ฝึกดูลมหายใจเข้าออก การดูลมหายใจเข้าออกลมเข้ายาวก้อรู้ว่ายาวลมออกสั้นก็รู้ว่าสั้นมุ่งตามดูรับรู้โดยไม่ตีความอะไรทั้งสิ้นใส่ใจดูแต่ลมเข้าลมออกจะช่วยให้เกิดสมาธิได้ 2 หยุดคิดถึงสิ่งที่กระตุ้นอารมณ์ลบ สืบเนื่องจากข้อหนึ่งหากดูลมหายใจเข้าออกจะส่งผลให้หยุดคิดในสิ่งที่กระตุ้นอารมณ์ลบได้เพราะจิตใจจะใส่ใจอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกจะหยุดคิดโดยอัตโนมัติและเมื่อไหร่ที่คิดถึงสิ่งที่กระตุ้นอารมณ์ลบก็ให้กลับมาดูที่ลมหายใจอีกเช่นกัน 3 ย้ายความสนใจไปที่เหตุการณ์อื่น การที่เราเครียดวิตกกังวลเพราะเราใส่ใจอยู่กับสถานการณ์ที่ทำให้เครียดและกังวลจึงเกิดอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาดังนั้นการย้ายความสนใจไปสนใจสิ่งอื่น โครงการอื่นกิจกรรมอื่นๆก็จะช่วยให้คลายความเครียดลงได้ 4 หนีออกจากสถานการณ์ หากอยู่ในสถานการณ์ที่กระตุ้นให้เกิดความเครียดและวิตกกังวลอาจจะกระตุ้นให้เกิดการขาดความยับยั้งชั่งใจที่แสดงวาจาและกริยาที่ก้าวร้าวออกมาได้ ดังนั้นการหนีออกจากสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ก็เป็นวิธีอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดความยับยั้งชั่งใจได้เช่นกัน 5ฝึกรับรู้อารมณ์อย่างสม่ำเสมอ การฝึกรับรู้อารมณ์นั้นเป็นการมุ่งตามดูรับรู้รับรู้โดยไม่ตีความ แต่กระนั้นก็ตามการที่เราบอกว่าเราโกรธก็เป็นการตีความว่าอารมณ์ลักษณะอย่างนั้นอย่างนี้เป็นการโกรธแท้ที่จริงก็ไม่มีใครรู้ใครได้ว่าอารมณ์นั้นเป็นอย่างไร หรือน้อยใจก็รับรู้ว่าน้อยใจขยันฝึกรับรู้รับรู้เรื่อยเรื่อยจะส่งผลให้เกิดความยับยั้งชั่งใจได้เป็นอย่างดี หากทุกท่านปฏิบัติตามห้าข้อที่กล่าวมาได้จะช่วยทำให้เกิดสติคือความละลึกได้ สมาธิคือความมีจิตใจแน่วแน่ ทมะคือความข่มใจ สัญญมะคือความยับยั้งชั่งใจได้ในที่สุด