ถูกชนแล้วหนีคดีไม่คืบหน้า สภ.บางศรีเมือง | ข่าวเที่ยงทันเหตุการณ์ ช่อง 33 | 25-12-2563 скачать в хорошем качестве

ถูกชนแล้วหนีคดีไม่คืบหน้า สภ.บางศรีเมือง | ข่าวเที่ยงทันเหตุการณ์ ช่อง 33 | 25-12-2563

ถูกชนแล้วหนีคดีเงียบ สภ.บางศรีเมือง ตามที่ผู้เสียหายถูกรถยนต์ไม่ทราบทะเบียนชนแล้วหนี บริเวณถนนราชพฤกษ์ฝั่งขาออก มุ่งหน้าปากเกร็ด ช่วงลงสะพานยกระดับข้ามถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2563 เวลา 23.04 น. เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุโดยมีผู้เสียหายจำนวน 2 คัน คือ (1) รถกระบะอีซูซุ ดีแมค เลขทะเบียน บท 8907 นนทบุรี (ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3) โดยมี นายวันชัย ประดิษฐ์แสงทอง อายุ 64 ปี เป็นผู้ขับขี่และได้รับบาดเจ็บ และ (2) รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค เลขทะเบียน กล 9474 นนทบุรี (ไม่มีประกันภัยรถยนต์) โดยมี นายนัฐภณ วิไลรัตนกุล อายุ 26 ปี เป็นผู้ขับขี่และได้รับบาดเจ็บ โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรี ตามรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี เล่มที่ 0040/2563 เลขที่ 0021 ลงวันที่ 27 กันยายน 2563 เวลา 01.26 น. ปัจจุบันผ่านมา 3 เดือนแล้วคดียังไม่มีความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่ายังไม่สามารถดำเนินการติดตามรถผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ทั้งนี้ผู้เสียหายมีประเด็นอยากให้ตรวจสอบการดำเนินการติดตามผู้ก่อเหตุ ดังนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการแจ้งข้อมูลความคืบหน้าด้านคดีและการสอบสวนให้ผู้เสียหายทราบเป็นระยะ อ้างตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 419/2556 ออกตามความในมาตรา 11(4) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 โดยทุกๆ ครั้งผู้เสียหายติดต่อสอบถามก็ไม่ได้ข้อมูลความคืบหน้าคดีที่ชัดเจน และหลังจากนั้นผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อร้อยเวรเจ้าของคดีได้ โดยพยายามโทรศัพท์ติดต่อสอบถามหลายครั้งร้อยเวรเจ้าของคดี “ไม่รับสายและไม่มีการติดต่อกลับตาม SMS ที่ฝากข้อความทิ้งไว้” ทั้งนี้ ทำให้ผู้เสียหายเข้าใจได้ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลบางอย่างทางคดีที่ปกปิดไม่ให้ผู้เสียหายทราบ หรือไม่ดำเนินการใดๆ ต่อในการสืบคดีหาตัวผู้กระทำผิด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมิได้ดำเนินการใดๆ ต่อ อาทิ การขอความร่วมมือจากบริษัทประกันภัยรถยนต์เพื่อตรวจสอบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้นำรถยนต์เข้าเครมอุบัติเหตุในลักษณะวิถีการชนตามภาพ หรือการตรวจสอบติดตามกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แต่ใช้มือถือถ่ายบันทึกภาพมาจากจอคอมพิวเตอร์ของกรมทางหลวงชนบทมาใช้ในการติดตามวิเคราะห์รถผู้ก่อเหตุ (ซึ่งทำให้ภาพไม่ชัด มีแสงสะท้อนจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ความละเอียดภาพลดลง ภาพแตก เป็นเหตุให้การติดตามคดียากขึ้น) โดยไม่ดำเนินเรื่องขอบันทึกไฟล์กล้องวงจรปิดต้นฉบับจากกรมทางหลวงชนบทซึ่งมีความชัดเจนมากกว่ามาใช้ในการวิเคราะห์คดี จนทำให้ปัจจุบันไฟล์ต้นฉบับถูกลบทับไปแล้ว (มีระยะเวลาการเก็บข้อมูลประมาณ 30 วัน) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนอ้างด้วยวาจาว่า “ไม่รู้ขั้นตอนการติดต่อขอบันทึกไฟล์ภาพ” และไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอตรวจสอบกล้องจับความเร็วก่อนจุดเกิดเหตุซึ่งมีความชัดและสามารถเห็นทะเบียนรถทุกคันที่ขับผ่านในช่วงเวลานั้นหรือไม่ จนปัจจุบันไฟล์ภาพถูกลบทับไปแล้ว (มีระยะเวลาการเก็บข้อมูลประมาณ 7 วัน) ทั้งนี้อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบติดตามคดีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับผู้เสียหาย เนื่องจากผู้เสียหายทั้งสองได้รับผลกระทบและเดือดร้อนเป็นอย่างมาก