# скачать в хорошем качестве

#

เขื่อนอุบลรัตน์ ก็ยังคงเปิดบานประตูทางน้ำล้น เพื่อเร่งระบายน้ำออก ขณะเดียวกัน มวลน้ำจากเหนือเขื่อน ก็ยังคงไหลเข้าอ่าง อย่างต่อเนื่อง สถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น วัน จันทร์ ที่ 29 กันยายน 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นมา ระดับน้ำในเขื่อน 180 เมตร 47 เซนติเมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สูงขึ้นจากเมื่อวาน 5 เซนติเมตร ปริมาณน้ำ ล่าสุด อยู่ที่ 1,891 ล้าน 9 แสน 1 หมื่น ลบ.ม. หรือคิดเป็น 77.81 % ของความจุอ่างปกติ ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานกว่า 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งผลพวงจากพายุ วิภา , คาจิกิ หนองฟ้า มิแทก และพายุรากาซา ที่พาดผ่าน ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์สูงขึ้นมาก โดยเฉพาะช่วงระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม ถึง 23 กันยายน มีมวลน้ำไหลลงมามีจำนวนมาก รวมกับปริมาณน้ำที่มีอยู่เดิม กว่า 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อวานมีน้ำไหลเข้า 44 ล้าน 5 แสน 5 หมื่น ลบ.ม. วันนี้ เขื่อนอุบลรัตน์ ระบายน้ำออก 30 ล้าน 4 หมื่น ลบ.ม. ผ่านทางประตูทางน้ำล้นหรือ สปิลเวย์ 2 บาน จากที่มีอยู่ 4 บาน และผ่านทางเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ควบคู่กันไป ซึ่งการระบายน้ำแบบขั้นบันได โดยเปิดสปิลเวย์ หรือประตูทางน้ำล้น เริ่มดีเดย์ มาตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน เรื่อยมา รวมวันนี้ ครบ 10 วันพอดี เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า เป็นการรักษาสภาพน้ำไม่ให้เกินกว่าเกณณ์ควบคุม ตามที่ประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำชี เห็นชอบ ที่ให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนอุบลรัตน์ มีการระบายน้ำ กรณีเร่งด่วน แต่ไม่เกิน 35 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นปริมาณน้ำฝน ปริมาณน้ำสะสม ระยะเวลาการไหล น้ำเหนือเขื่อน พื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และท้ายน้ำ รวมถึงปริมาณน้ำพื้นที่ของแม่น้ำชี แม่จ้ำสายหลักของลำน้ำพอง ด้วย ล้วนมีความสำคัญ เกี่ยวเนื่องกัน และในระยะนี้ บริเวณต้นกำเนิดของ ลำน้ำพอง ในพื้นที่ อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ยังคงมีฝนตกถึงตกหนัก และคาดการณ์ว่า อิทธิพลของร่องมรสุม จากพายุไต้ฝุ่น บัวลอย ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ ประเทศเวียดนามต่อเนื่องถึงสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ก็จะส่งผลให้มีฝนตกถึงตกหนัก รวมถึงบริเวณทางภาคเหนือของประเทศไทย คือ เชียงราย พะเยา และน่าน และส่งผลถึงบริเวณพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ล่าสุดคือที่ จังหวัดเลย บึงกาฬ หนองคาย สกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร ก็มีฝนตกถึงตกหนักด้วยเช่นกัน แม้ว่า พายุ จะยังไม่เข้ามาเต็มตัวก็ตาม พร้อมกันนี้ ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ก็ได้ประกาศแจ้งเตือน ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย  อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” (BUALOI) ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณ เมืองกว๋างบิ่ญ ประเทศเวียดนามตอนบนและได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงแล้ว และจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ