У нас вы можете посмотреть бесплатно AP Law 94 ความแตกต่างระหว่างการข่มขืนกระทำชำเราและการกระทำอนาจาร или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
AP Law 94 ความแตกต่างระหว่างการข่มขืนกระทำชำเราและการกระทำอนาจาร การข่มขืนกระทำชำเราและการกระทำอนาจาร ถือเป็นการกระทำความผิดทางอาญาเกี่ยวกับเพศทั้งคู่ แต่การกระทำทั้งสองแบบจะมีความแตกต่างกันอยู่ โดยอธิบายได้ดังนี้ การข่มขืนกระทำชำเรานั้น จะเป็นการที่ผู้กระทำได้มีเพศสัมพันธ์กับผู้ถูกกระทำโดยผู้ถูกกระทำไม่ยินยอม โดยการกระทำชำเรานั้นจะมีบทนิยามตามมาตรา 1(18) ว่า “กระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำ โดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำล่วงล้ำอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น” โดยความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราจะสำเร็จเมื่อมีการล่วงล้ำช่องปาก ทวารหนัก หรืออวัยวะเพศของผู้ถูกกระทำ ทั้งนี้ ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราจะบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ววรค 1 ว่า “ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท” ทั้งนี้การกระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา หากกระทำโดยทำให้ผู้ถูกกระทำเข้าใจว่าผู้กระทำมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิดก็ดี หรือกระทำโดยมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงหรือกระทำกับชายในลักษณะเดียวกันก็ดี จะทำให้ผู้กระทำต้องรับโทษหนักขึ้น หากการข่มขืนกระทำชำเราเกิดระหว่างสามีภริยา ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติแทนการลงโทษก็ได้ และหากศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกและคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาต่อไป และประสงค์จะหย่า ให้คู่สมรสฝ่ายนั้นแจ้งให้ศาลทราบ และให้ศาลแจ้งพนักงานอัยการให้ดำเนินการฟ้องหย่าให้ได้ หากการกระทำชำเรานั้นมีความยินยอมทั้งสองฝ่าย จะไม่ถือเป็นความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา เนื่องจากขาดองค์ประกอบความผิดเรื่องเจตนา โดยการกระทำความผิด ในส่วนของการกระทำอนาจารนั้น จะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทำลามก น่าอับอาย หรือมิบังควรในทางเพศ โดยความหมายของการกระทำอนาจารนั้นไม่ได้มีการบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญาโดยตรง แต่จะเป็นความหมายจากพจนานุกรมซึ่งศาลได้หยิบยกมาใช้ด้วย โดยการกระทำความผิดฐานอนาจาร จะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมทางเพศ เช่น การโอบไหล่ การกอด การลวนลาม เป็นต้น โดยการกระทำความผิดฐานอนาจาร จะบัญญัติไว้ในมาตรา 278 วรรค 1 ว่า “ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ทั้งนี้การกระทำความผิดฐานข่มขืนอนาจาร หากใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศหรือทวารหนักของบุคคลนั้นก็ดี กระทำโดยทำให้ผู้ถูกกระทำเข้าใจว่าผู้กระทำมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิดก็ดี หรือกระทำโดยมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงหรือกระทำกับชายในลักษณะเดียวกันก็ดี ก็จะทำให้ผู้กระทำรับโทษหนักขึ้นเช่นกัน โดยการกระทำอนาจารนี้ ไม่จำต้องมีการล่วงล้ำช่องปาก ทวารหนัก หรืออวัยวะเพศ ก็เป็นความผิดได้ แต่ถ้าหากมีการล่วงล้ำช่องปาก ทวารหนัก หรืออวัยวะเพศของผู้ถูกกระทำ จะต้องเป็นวัตถุอื่นๆ ที่มิใช่อวัยวะเพศ ในเรื่องของการยอมความนั้น ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดินซึ่งไม่อาจยอมความได้ เว้นแต่เป็นการข่มขืนกระทำชำเราระหว่างสามีภริยา ถ้ามิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล หรือไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย ตามมาตรา 281 (1) และในความผิดฐานอนาจารนั้น จะยอมความได้เมื่อการกระทำโดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศหรือทวารหนักของบุคคลนั้น ได้กระทำระหว่างคู่สมรส ตามมาตรา 278 วรรค 2 ถ้ามิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล หรือไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย ตามมาตรา 281 (1) และ การกระทำอนาจารแบบธรรมดาที่มิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล ไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย หรือมิได้เป็นการกระทำแก่บุคคลดังระบุไว้ในมาตรา 285 (การกระทำแก่บุพการี ผู้สืบสันดาน พี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมแต่บิดาหรือมารดา ญาติสืบสายโลหิต ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล ผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการ ผู้อยู่ในความปกครอง ในความพิทักษ์หรือในความอนุบาล หรือผู้อยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใด) และมาตรา 285/2 (การกระทำแก่บุคคลซึ่งไม่สามารถปกป้องตนเองอันเนื่องมาจากเป็นผู้ทุพพลภาพ ผู้มีจิตบกพร่อง โรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน คนป่วยเจ็บ คนชรา สตรีมีครรภ์ หรือผู้ซึ่งอยู่ในภาวะไม่สามารถรู้ผิดชอบ) ตามมาตรา 282 (2) เนื้อหาโดย กิตตินันท์ จารุกิจไพศาล ทนายความ นบ.ธรรมศาสตร์