У нас вы можете посмотреть бесплатно หึงหวงรักษาหาย!! | วิธีรับมือเมื่อแฟนหึงหวง| โดยWuttipong สุขภาพจิต พุทธจิตวิทยา พัฒนาชีวิต | или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
หึงหวง:รักษาได้ หึงหวงหมายถึงภาวะที่บุคคลมีอารมณ์ความรู้สึกหวาดระแวงบุคคลที่ตนเองรัก ว่าจะนอกใจหรือไปรักผู้อื่นที่ไม่ใช่ตนเอง ความหึงหวงเกิดขึ้นได้ในความสัมพันธ์รักทุกรูปแบบ แต่จะปรากฏชัดเจนและรุนแรงในรูปแบบของความรักเชิงชู้สาว ความรู้สึกหึงหวงจะนำไปสู่พฤติกรรมที่แสดงออกถึงความหวาดระแวงได้มากมาย อาทิ การติดตาม สืบเสาะ สอดแนม กักขังหน่วงเหนี่ยวไปจนถึงขั้นอาจทำร้ายร่างกายกันจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ความหึงหวงเป็นความรู้สึกควบคู่หรือใกล้ชิดกับความรักในเชิงชู้สาว การมีความรู้สึกหวงแหนและแสดงออกต่อกันแต่พอดีอาจจะส่งผลต่อความรักและความภาคภูมิใจซึ่งกันและกันได้ แต่ความหึงหวงที่มากจนเกินไปจะกัดกล่อนอารมณ์ความรู้สึกของตนและคู่รักจนไร้ความสงบสุขถึงขั้นกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ขาดสติ ขาดสมาธิ จนไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ และเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่มักทำให้เกิดการอกหักรักร้าง ซึ่งความรู้สึกดังกล่าวสามารถป้องกันและแก้ไขได้ ดังต่อไปนี้ 1)การป้องกันแก้ไขระยะยาวด้วยวิธีการเลี้ยงดูที่เหมาะสม สำหรับการป้องกันแก้ไขในระยะยาวนั้น ต้องเริ่มจากการเลี้ยงดูลูกอย่างถูกวิธีโดยให้เด็กมีพัฒนาการที่ถูกต้องเหมาะสม เติบโตมาด้วยความรักความอบอุ่น ความภาคภูมิใจในตัวเอง ไม่ลงโทษเด็กรุนแรงจนทำให้เกิดความรู้สึกอ้างว้างหวาดกลัว หรือข่มขู่ว่าจะไม่รักจะเอาไปปล่อยทิ้งหรือกักขังในห้องมืดหรือห้องแคบๆเป็นต้น เพราะความรู้สึกดังกล่าว จะทำให้เด็กขาดความภาคภูมิใจ ขาดความมั่นคงทางจิตใจ เมื่อเติบโตมาเป็นวัยรุ่นและผู้ใหญ่ อาจทำให้เป็นคนขี้หึงได้ 2)สร้างคุณค่าและพัฒนาตัวเองให้ดี การสร้างคุณค่าให้ตัวเองด้วยการคิดดีทำดี ขยันทำหน้าที่ที่รับผิดชอบให้สำเร็จสมบูรณ์ เป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์ดี พูดจาไพเราะสุภาพ บุคลิกภาพดีมีความสง่างาม ตลอดจนเรียนรู้ที่จะทำความรู้จักคู่รักของตนเองให้ดีทุกด้าน รวมทั้งอาจต้องเรียนรู้และปรับตัวต่อความชอบของคู่ครองเกี่ยวกับรูปแบบวิธีการมีเพศสัมพันธ์ที่ลงตัวต่อกันทั้งสองฝ่าย หากพัฒนาและสร้างคุณค่าให้ตนเองได้ดังกล่าวแล้ว จะนำไปสู่ความเชื่อมั่นว่าตนเองมีคุณค่าพอที่จะครองใจคู่รักได้ และส่งผลให้ลดความรู้สึกถึงหวงได้เป็นอย่างดี 3)ปรับความคิดและมุมมองต่อคู่รักในด้านดี การปรับพฤติกรรมผู้อื่นอาจไม่ง่ายนักเพราะเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจที่ตัวเองจะควบคุม แต่การปรับความคิดและมุมมองของตัวเองนั้นสามารถทำได้ง่ายกว่า โดยการควบคุมและฝึกที่ใจเราเอง มองคู่รักในด้านดี มองเห็นคุณค่า มองเห็นโอกาส มองเห็นความหวัง เห็นคนรักของตนเองมีความหมาย เช่น มองว่าคู่รักของเราเป็นโอกาสให้เรามีสถานภาพทางสังคมที่ดีขึ้น คู่รักสร้างโอกาสในชีวิตการงานแก่เรา คู่รักมีความหมายต่อชีวิตของเราและลูก เป็นต้น ดังนั้นหากรู้สึกหึงหวงคู่รักของตนที่อาจมีพฤติกรรมชวนสงสัยได้ว่านอกใจบ้างแต่ไม่มีหลักฐานก็ควรวางใจให้เป็นกลางๆ พร้อมทั้งค้นหาคุณค่าคุณงามความดีต่างๆที่มีในตัวเขาให้มากๆ เพราะการมองเช่นนี้จะช่วยรักษาความสัมพันธ์ให้ยืดยาวได้ 4)ลดพฤติกรรมที่อาจทำให้คู่รักหึงหวง การลดพฤติกรรมที่อาจทำให้คู่รักหึงหวงนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่มีคู่รักขี้หึง กล่าวคือจะต้องลดพฤติกรรมที่อาจทำให้ชวนสงสัยลงให้มาก เช่นการกลับบ้านไม่ตรงเวลา หายไปโดยไม่บอกกล่าว ปิดโทรศัพท์มือถือไม่สามารถติดต่อได้ เวลาคุยโทรศัพท์ก็แสดงท่าทีวิตกกังวลและเดินเลี่ยงไปพูดที่อื่น ไม่อาบน้ำก่อนเข้านอนโดยอ้างว่าอาบมาแล้วจากที่อื่น เป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนกระตุ้นให้คู่รักแสดงความหึงหวงมากขึ้น ทั้งๆที่ความเป็นจริงตัวเองอาจมีได้นอกใจคู่รักเลย ดังนั้นความสม่ำเสมอและพฤติกรรมที่โปร่งใสจริงใจจะช่วยลดอาการหึงหวงของคู่รักได้เป็นอย่างดี 5)มารับการรักษาจากจิตแพทย์ ผู้ที่มีอาการหึงหวงมักจะควบคู่มากับความรู้สึกหวาดระแวงซึ่งเป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่งหรือโรคประสาทชนิดวิตกกังวล ซึ่งจะส่งผลให้เป็นคนที่หึงหวงมากเกิดความเครียดจนนอนไม่หลับ วิตกกังวล ขาดสมาธิในการทำงาน ลุกลี้ลุกลน หวาดระแวงมากจนต้องออกติดตามสอดแนมดูพฤติกรรมคู่รักของตนเองอย่างละเอียดทุกรูปแบบ บางคนอาจถึงขั้นจ้างนักสืบติดตามให้ ดังนั้นใครที่มีอาการหึงหวงถึงขั้นนี้ควรไปพบจิตแพทย์หรือปรึกษานักวิชาการด้านสุขภาพจิตเพื่อจะหาแนวทางช่วยเหลืออาจด้วยการให้การปรึกษาเชิงจิตวิทยา ทำพฤติกรรมบำบัดและจิตบำบัดหรืออาจถึงขั้นต้องใช้ยาเพื่อรักษาอาการเครียด ความวิตกกังวลและความหวาดระแวงกระทั่งเพิ่มความยับยั้งชั่งใจให้มากขึ้นดังตัวอย่างที่กล่าวมาแต่ต้นนั่นเอง รศ.ดร.วุฒิพงศ์ ถายะพิงค์ ไอดีไลน์ ac6555