กองทัพเรือสหรัฐ เตรียมประกาศผู้ชนะโครงการเครื่องบินขับไล่ F/A-XX รุ่นใหม่บนเรือบรรทุกเครื่องบิน скачать в хорошем качестве

กองทัพเรือสหรัฐ เตรียมประกาศผู้ชนะโครงการเครื่องบินขับไล่ F/A-XX รุ่นใหม่บนเรือบรรทุกเครื่องบิน

กองทัพเรือสหรัฐ เตรียมประกาศผู้ชนะโครงการเครื่องบินขับไล่ F/A-XX รุ่นใหม่บนเรือบรรทุกเครื่องบิน กองทัพเรือสหรัฐคาดว่าจะประกาศรายชื่อผู้รับเหมาที่ได้รับการคัดเลือกสำหรับโครงการเครื่องบินขับไล่บนเรือบรรทุกเครื่องบินรุ่นต่อไปที่มีชื่อว่า F/A-XX ในสัปดาห์นี้ ตามรายงาน ของสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2025 โครงการนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อทดแทนฝูงบินF/A-18E/F Super Hornet ในปัจจุบัน โดยถือเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่กินเวลานานหลายทศวรรษ โดยมีมูลค่าประเมินที่อาจสูงถึงหลายแสนล้านดอลลาร์ การประกาศนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตอบสนองต่อศักยภาพทางทหารที่เพิ่มมากขึ้นของจีน สัญญาเริ่มต้นซึ่งครอบคลุมระยะการพัฒนาทางวิศวกรรมและการผลิต (EMD) มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการบินของกองทัพเรือสหรัฐฯ F/A-18E/F Super Hornet เป็นเครื่องบินรบแบบหลายบทบาทที่ออกแบบมาสำหรับปฏิบัติการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน โดยให้ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติภารกิจ เครื่องบินรุ่นนี้พัฒนาโดยบริษัทโบอิ้งร่วมกับบริษัทนอร์ทรอป กรัมแมน บริษัท GE Aircraft Engines และบริษัทเรย์ธีออน โดยถือเป็นเครื่องบินรุ่นปรับปรุงของเครื่องบินรุ่น Hornet เดิม โดยมีโครงเครื่องที่ใหญ่ขึ้น 20% ความจุในการบรรทุกที่เพิ่มขึ้น และพิสัยการบินที่ไกลขึ้น 41% เครื่องบินรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ General Electric F414-GE-400 จำนวน 2 เครื่อง สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 1,900 กม./ชม. และมีพิสัยการบิน 2,346 กม. เครื่องบินรุ่นนี้ติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนเครื่องบินขั้นสูง เช่น เรดาร์ APG-79 AESA ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ AN/ALQ-214 และห้องนักบินที่ปรับปรุงใหม่เพื่อเพิ่มการรับรู้สถานการณ์ เครื่องบินรุ่นนี้ปฏิบัติการโดยกองทัพเรือสหรัฐฯ และกองทัพอากาศออสเตรเลีย โดยทำภารกิจต่างๆ เช่น การมีอำนาจเหนือทางอากาศ การโจมตีที่แม่นยำ การลาดตระเวน และสงครามอิเล็กทรอนิกส์ด้วยเครื่องบินรุ่น EA-18G Growler อาวุธของ Super Hornet ประกอบด้วยปืนใหญ่ M61 Vulcan ขนาด 20 มม. และจุดยึด 11 จุดที่สามารถติดขีปนาวุธและระเบิดได้หลากหลายประเภท รวมถึงAIM-120 AMRAAM, AIM-9 Sidewinder และ AGM-88 HARM ความสามารถในการป้องกันประกอบด้วยมาตรการป้องกันอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง รวมถึงเครื่องรบกวนสัญญาณบนเครื่องและตัวล่อที่ลากจูงได้ ออกแบบมาให้มีความอยู่รอด โดยมีความคล่องตัวสูง ระบบควบคุมการบินแบบดิจิทัล และระบบอากาศยานที่รองรับการมองเห็นในเวลากลางคืน ตั้งแต่เริ่มให้บริการในปี 1999 การผลิตยังคงเป็นไปตามกำหนด ทำให้มั่นใจได้ว่าฝูงบินจะได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยในทศวรรษหน้า เครื่องบิน F/A-XX ซึ่งจะเป็นรุ่นต่อจากเครื่องบินรุ่นดังกล่าว กำลังได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มความสามารถในการพรางตัว ขยายพิสัยปฏิบัติการ และบูรณาการกับระบบป้องกันภัยทางอากาศบนเรือบรรทุกเครื่องบินและโดรนรบอัตโนมัติได้ดีขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมความทนทานและระยะปฏิบัติการของปฏิบัติการทางอากาศบนเรือบรรทุกเครื่องบินในสภาพแวดล้อมที่มีการสู้รบเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าจะประสบกับอุปสรรคต่างๆ มากมาย เช่น การหยุดงานประท้วง ปัญหาเกี่ยวกับโครงการเครื่องบินเติมเชื้อเพลิง KC-46 และความล่าช้าของโครงการ Starliner แต่ล่าสุด Boeing ก็สามารถคว้าสัญญาซื้อเครื่องบิน F-47 จากกองทัพอากาศสหรัฐได้สำเร็จ ชัยชนะครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีร่วมกันและลดต้นทุนการผลิตได้ หากได้รับสัญญาซื้อเครื่องบิน F/A-XX ด้วย นอร์ทรอป กรัมแมนยังคงเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านระบบสเตลท์ ซึ่งแสดงให้เห็นได้จากการพัฒนาเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ B-2 และ B-21 อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้ออกแบบเครื่องบินขับไล่บนเรือบรรทุกเครื่องบินเลยนับตั้งแต่ F-14 Tomcat ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่นอร์ทรอปจะเข้าซื้อกิจการ Grumman ในปี 1994 ผลของการแข่งขันครั้งนี้จะส่งผลอย่างมากต่ออนาคตของนอร์ทรอป กรัมแมนในฐานะผู้ผลิตเครื่องบินขับไล่ การตัดสินใจของกองทัพเรือเกิดขึ้นไม่นานหลังจากการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทหารเรือคนใหม่ จอห์น เฟลาน และการรับหน้าที่ของพลเรือเอก เจมส์ ดับเบิลยู. คิลบี ในตำแหน่งหัวหน้าปฏิบัติการทางเรือ โครงการ F/A-XX เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Air Dominance ซึ่งเป็นโครงการร่วมกับกองทัพอากาศสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 6 ที่ออกแบบมาสำหรับปฏิบัติการผ่านเครือข่ายควบคู่ไปกับโดรนรบไร้คนขับ เป้าหมายหลักประการหนึ่งของโครงการคือการเพิ่มระยะปฏิบัติการทางอากาศเพื่อต่อต้านระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ซับซ้อนมากขึ้นในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก หากโบอิ้งได้รับสัญญาดังกล่าว บริษัทอาจได้รับประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาดและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งในตลาดเครื่องบินรบสเตลท์ อย่างไรก็ตาม นอร์ทรอป กรัมแมนยังคงมีบทบาทเป็นผู้รับเหมาช่วงหรือซัพพลายเออร์เทคโนโลยีสำหรับ F/A-XX โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีสเตลท์และเซ็นเซอร์ การคัดเลือกผู้รับเหมาจะถือเป็นก้าวสำคัญในการกำหนดอนาคตของกำลังทางอากาศของกองทัพเรือสหรัฐฯ การพัฒนาเครื่องบินรุ่นใหม่นี้จะเป็นตัวกำหนดความสามารถของกองทัพเรือในการปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันกันสูงในขณะที่ยังคงรักษาความเหนือกว่าเชิงกลยุทธ์ในอินโด-แปซิฟิก การประกาศครั้งนี้ยังจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยีและกลยุทธ์ต่างๆ ที่จะมีความสำคัญในปีต่อๆ ไป คาดว่าเครื่องบิน F/A-XX ลำแรกจะเริ่มให้บริการในปี 2030 ในขณะที่ฝูงบิน F/A-18E/F จะยังคงปฏิบัติการจนถึงปี 2040 การประกาศอย่างเป็นทางการของกองทัพเรือซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ จะกำหนดทิศทางของโครงการสำคัญนี้และถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ของการบินรบบนเรือบรรทุกเครื่องบิน เพจ Facebook https://www.facebook.com/profile.php?... Blogger https://thaiweapon.blogspot.com/