มทร.อีสาน ทำMOUกับหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชน ปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ скачать в хорошем качестве

มทร.อีสาน ทำMOUกับหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชน ปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์

หมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย เดินหน้าปลูกกัญชาและกัญชงร่วมทำ MOU มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน หวังสร้างงานเสริมอาชีพสู่พืชเศรษฐกิจ"ทองคำเขียว" วันนี้(9 กุมภาพันธ์ 2564) ณ ห้องประชุมแคนา 3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีการทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) โครงการวิจัยและพัฒนาปลูกผลิต กัญชา-กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กับ เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย ซึ่งบันทึกความร่วมมือ (MOU) ฉบับนี้ทำขึ้นสองฝ่ายระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง ตำแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ที่อยู่ 744 ถนนสุรนารายณ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา กับ เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ แสนน่าน ที่อยู่เลขที่ 29 หมู่ 14 บ้านพรสวรรค์ ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมืองจังหวัดอุดรธานี 41000 นายสมชัย แสงทอง ตัวแทนภาคเหนือ นางนิตยา นาโล ตัวแทนบ้านอีสาน และ นางธนภัทร พัธวาส ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ทั้งสองฝ่ายมีความประสงค์ที่จะร่วมมือพัฒนาระบบการผลิตและใช้กัญชาเพื่อรักษาในทางการแพทย์และการรักษาผู้ป่วย ภายใต้การกำกับดูแลและควบคุมของแพทย์ผู้ได้รับอนุญาตประกอบวิชาชีพทั้งนี้ให้รวมถึงการดำเนินการด้านเภสัชกรรม เกษตรกรรม พาณิชยกรรมหรือ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และเป็นโอกาสในการสร้างความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีการแพทย์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกัญชา สารสกัดจากกัญชา และผลิตภัณฑ์จากกัญชา เพื่อการคิดค้น ผลิตพัฒนาสายพันธุ์ วัตถุดิบกัญชาคุณภาพดี สูตรตำรับยาและวิธีการบำบัดรักษาโรคให้มีคุณภาพและความปลอดภัยสำหรับรับรองอุปสงค์ในยารักษาโรค ซึ่งมีกัญชาเป็นส่วนประกอบอันจะสร้างความเจริญก้าวหน้าในทางการแพทย์และส่งเสริมความมั่นคงทางด้านยาของประเทศโดยรวมถึงร่วมป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาดด้านยาจากพืชกัญชา โดยมีรายละเอียดข้อตกลงดังนี้ ข้อ 1 วัตถุประสงค์ของบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนาระบบการผลิตและใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์และการรักษาผู้ป่วยภายใต้การกำกับดูแลและควบคุมของแพทย์ผู้ได้รับอนุญาตประกอบวิชาชีพ ทั้งนี้ให้รวมถึงการดำเนินการด้านเภสัชกรรม เกษตรกรรม และพาณิชยกรรมหรือ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเป็นโอกาสในการสร้างความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีการแพทย์ซึ่งเกี่ยวข้องกับกัญชา สารสกัดจากกัญชา และผลิตภัณฑ์จากกัญชา เพื่อการคิดค้น ผลิต พัฒนาสายพันธุ์ วัตถุดิบกัญชาคุณภาพดี สูตรตำรับยาและวิธีการบำบัดรักษาโรคให้มีคุณภาพและความปลอดภัย สำหรับรองรับอุปสงค์ในยารักษาโรค ซึ่งมีกัญชาเป็นส่วนประกอบ อันจะสร้างความเจริญก้าวหน้าในทางการแพทย์และส่งเสริมความมั่นคงทางด้านยาของประเทศโดยรวม รวมถึงร่วมป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาดทางยาจากพืชกัญชา ข้อ 2 แนวทางการดำเนินงานและกิจกรรมความร่วมมือ 2.1. ร่วมมือในการปลูกผลิตกัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนทางด้านการศึกษาและพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดองค์ความรู้แก่บุคลากรของทั้งสองฝ่ายภายใต้วัตถุประสงค์ของโครงการ 2.2. ร่วมมือในการวิจัยด้านกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ตามโครงการ รวมถึงการใช้ทรัพยากรของทั้งสองฝ่าย อาทิ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูล สถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ โครงสร้างพื้นฐานตลอดจนปัจจัยอื่นๆ เพื่อให้โครงการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ประสบความสำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ 2.3. ร่วมมือในการยื่นขออนุมัติและสนับสนุนการบริหารกิจการ สำหรับปฏิบัติตามขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนดไว้ รวมถึงการขออนุญาตหรือขึ้นทะเบียนใดๆ ที่จัดส่งเสริมในการดำเนินการตามโครงการสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ 2.4. ร่วมมือในการเป็นที่ปรึกษาและผู้ประกอบวิชาชีพสำหรับจ่ายตำรับยากัญชาทางการแพทย์ในโรงพยาบาล 2.5. ร่วมมือดำเนินกิจการ/โครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันตามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควร 2.6. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินตามบันทึกความร่วมมือนี้ คู่ความร่วมมือจะตกลงกันเป็นกรณีไป ข้อ 3 ระยะเวลาความร่วมมือ บันทึกความร่วมมือ (MOU) ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ทำบันทึกข้อตกลงเป็นต้นไปโดยมีกำหนดระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ทำบันทึกข้อตกลงนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 บันทึกความร่วมมือ (MOU) จัดทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน ทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้โดยตลอดแล้ว เห็นว่าถูกต้องตามเจตนารมณ์ทุกประการจึงได้ลงลายมือชื่อ พร้อมประทับตราไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน โดยแต่ละฝ่ายต่างถือไว้ฝ่ายละฉบับ ข้อ 4 การสิ้นสุดของบันทึกความร่วมมือ (MOU) ภายใต้เงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้ตามบันทึกความร่วมมือนี้ อาจสิ้นสุดลงเมื่อมีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ 4.1 คู่ความร่วมมือทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันให้บันทึกความร่วมมือสิ้นสุดลง 4.2 คู่ความร่วมมือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิดหรือฝ่าฝืนบันทึกความร่วมมืออย่างร้ายแรงโดยอีกฝ่ายหนึ่งได้แจ้งให้แก้ไขแล้ว แต่ฝ่ายที่ทำผิดหรือฝ่าฝืนบันทึกความร่วมมือกลับเพิกเฉย หรือไม่สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดหรือการฝ่าฝืนนั้นให้ถูกต้องได้ภายในระยะเวลา 90 วัน นับแต่ได้รับคำบอกกล่าวคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งอาจบอกเลิกบันทึกความร่วมมือได้ ทั้งนี้ หากมีความเสียหายเกิดขึ้นจากการกระทำดังกล่าว ฝ่ายที่ทำผิดหรือฝ่าฝืนบันทึกความร่วมมือต้องรับผิดตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่านับเป็นครั้งแรกหลังจากที่รัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศปลดล็อกกัญชาและกัญชงให้เกษตรกรได้ปลูกร่วมกับมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งในอนาคตต่อไปจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจของไทย ตามคำที่ว่า "กัญชา" และ"กัญชง" นั่นคือ "ทองคำเขียว"