ทำไม “ทักษิณ” ถึงยังมีอิทธิพลการเมือง? แม้ไม่ได้อยู่ในประเทศเป็นเวลาหลายปี скачать в хорошем качестве

ทำไม “ทักษิณ” ถึงยังมีอิทธิพลการเมือง? แม้ไม่ได้อยู่ในประเทศเป็นเวลาหลายปี

งานวิจัยเชิงวิเคราะห์นี้มุ่งตอบคำถามสำคัญว่า เหตุใด "ทักษิณ ชินวัตร" จึงยังคงมีอิทธิพลทางการเมืองอย่างยั่งยืน ทั้งที่เขาพำนักอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน (2008–2023) และแม้สถานการณ์ทางกฎหมายและการเมืองล่าสุดในปี 2025 จะมีความผันผวน แกนกลางอิทธิพลของทักษิณไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งทางการเมืองโดยตรง แต่ขับเคลื่อนด้วยกลไกสำคัญหลายประการ ซึ่งถูกปรับรูปแบบตามบริบทใหม่ ๆ: มรดกนโยบายและฐานสนับสนุนถาวร (Legacy Politics) อิทธิพลสำคัญที่สุดประการหนึ่งคือ มรดกนโยบายที่เปลี่ยนชีวิตคนจำนวนมาก จนก่อให้เกิดฐานสนับสนุนถาวร นโยบายเหล่านี้รวมถึง โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค, OTOP, และกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งสร้าง "ประสบการณ์จับต้องได้" ให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในชนบทและเมืองรอง และยังเปลี่ยนความคาดหวังของประชาชนต่อรัฐสวัสดิการไทย ฐานทางสังคมนี้ยังคงยึดโยงกับแบรนด์ชินวัตรและพรรคเครือข่าย ทำให้สามารถ "ส่งต่อคะแนน" ได้อย่างต่อเนื่อง เครือข่ายและการสื่อสารทางไกล (Networked Populism) แหล่งข้อมูลชี้ว่ามีการสร้าง "เครื่องจักรเลือกตั้ง" ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทย เครื่องจักรนี้ผสาน ส.ส. พื้นที่, ผู้บริหารท้องถิ่น, ข้าราชการส่วนกลางบางกลุ่ม, และทุนท้องถิ่น จนเกิดโครงข่ายอุปถัมภ์และนโยบายที่เหนียวแน่น โครงข่ายนี้ทำให้ "อำนาจคงรูป" แม้ผู้นำตัวจริงจะไม่อยู่ นอกจากนี้ ในช่วงที่พำนักต่างประเทศ ทักษิณยังใช้การ "ส่งสัญญาณ" ต่อพรรคและมวลชนผ่านสื่อ, โซเชียล, วิดีโอลิงก์ และหลังได้รับทัณฑ์บนในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เขาก็ได้เดินสายเยี่ยมพื้นที่และผู้นำท้องถิ่น เพื่อ "โชว์บารมี" และสะท้อนว่าทุนทางเครือข่ายยังทำงานอยู่ การเมืองราชวงศ์และการต่อรอง (Dynastic Branding & Elite Bargaining) การมีบทบาทของทายาททางการเมือง เช่น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (ปี 2011) และต่อมา แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เป็น "ตัวคูณ" ที่ทำให้แบรนด์ชินวัตรยังคงอยู่ในบัตรเลือกตั้ง และช่วยให้เครือข่ายนโยบายและฐานสังคมทำงานต่อเนื่อง ในระดับสูง หลังการเลือกตั้งปี 2023 บทวิเคราะห์ระบุว่า การจัดตั้งรัฐบาลและการจัดสรรกระทรวงสำคัญเป็นผลจากการ "ประนีประนอมใหญ่" ระหว่างเครือข่ายทักษิณกับขั้วอำนาจเดิม ซึ่งสะท้อน "พลังต่อรอง" หลังฉากของเขาในดีลการเมืองระดับบน แรงเสียดทานและข้อจำกัดใหม่ปี 2025 อย่างไรก็ตาม อิทธิพลนี้เผชิญแรงเสียดทานจาก การเมืองสีเสื้อ และกระบวนการยุติธรรมทางการเมืองที่ยาวนาน และในระยะสั้นถึงกลาง ปี 2025 กลไกตุลาการและข้อตกลงชนชั้นนำได้ลดขอบเขตอิทธิพลของเครือข่ายชินวัตรลง ในเดือนกันยายน 2025 ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ทักษิณต้องรับโทษจำคุก 1 ปี (โดยไม่นับเวลารพ.) และเกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจในสภา โดยมี อนุทิน ชาญวีรกูล ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เหตุการณ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า กลไกตุลาการ–ข้อตกลงชนชั้นนำ (Judicialization & Elite Bargaining) เป็นตัวกำหนดเพดานของอิทธิพล แม้ว่า "ความทรงจำทางนโยบาย" และโครงข่ายระดับพื้นที่ยังคงเป็นสินทรัพย์ระยะยาวที่ยังไม่หายไปทันที -------------------------------------------------------------------------------- #ทักษิณชินวัตร #ทักษิณ #การเมืองไทย #อิทธิพลทางการเมือง #LegacyPolitics #NetworkedPopulism #ประชานิยม #พรรคเพื่อไทย #ไทยรักไทย #30บาทรักษาทุกโรค #OTOP #กองทุนหมู่บ้าน #การเมืองเครือข่าย #จัดสมดุลย์อำนาจ #ดีลประนีประนอม #การเมืองสีเสื้อ #ตุลาการภิวัตน์ #ข่าวการเมืองล่าสุด #เลือกตั้ง2023 #การเมืองราชวงศ์ #DynasticBranding #การกลับบ้านทักษิณ #คำพิพากษาศาลฎีกา #อนุทิน #รัฐบาล2025