สลด ! พบหญิงไทยหน้าตาดี เสียชีวิตใน "กัมพูชา" เป็นรายที่ 2 | ห้องข่าวภาคเที่ยง скачать в хорошем качестве

สลด ! พบหญิงไทยหน้าตาดี เสียชีวิตใน "กัมพูชา" เป็นรายที่ 2 | ห้องข่าวภาคเที่ยง

ห้องข่าวภาคเที่ยง - มีหญิงชาวไทยหน้าตาดี ไปทำงานเป็น พีอาร์ ถูกพบว่าเสียชีวิตในกัมพูชาเป็นรายที่ 2 สภาพศพผูกคอเสียชีวิตในห้องพัก แต่สอบถามครอบครัว ล่าสุดยืนยันว่าไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต กัมพูชาเพิ่มกระบวนการ รับศพหญิงไทย ถูกจับตามองว่าเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 2 แล้ว ที่มีเจ้าหน้าที่ไปพบศพหญิงไทย เสียชีวิตในจังหวัดบันเตียเมียนเจย เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยหญิงไทยคนนี้ชื่อว่า มิ้น หรือ นางสาวสุธาทิพย์ อายุ 27 ปี คุณอภิเอก ทีมข่าว 7HD ได้รับข้อมูลยืนยันจาก เบิร์ด ทีมงานศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน มูลนิธิอิมมานูเอล หรือ IMF บอกว่า ผู้เสียชีวิตไปทำงานเป็น พีอาร์ ย่านชุมชนที่มีคนจีนพักอาศัย ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเรื่องของจุดเกิดเหตุ จะคล้าย ๆ กับ ใบหม่อน หญิงสาวที่ตกตึก แอร์วูด เสียชีวิตที่เมืองปอยเปต เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม แต่สาเหตุการเสียชีวิตคนละลักษณะกัน ส่วนที่ชวนให้ติดใจคือ โพสต์สุดท้ายของ มิ้น ที่โพสต์ว่า เพราะในท้ายที่สุด หัวใจเรามันก็อยากรู้สึกปลอดภัย มากกว่ารู้สึกอดทน ซึ่งทันทีที่ทราบเหตุ ญาติก็รีบออกเดินทางจากอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ไปรอรับศพที่จังหวัดสระแก้วทันที แต่พอถึงแล้ว กลับไม่สามารถรับศพกลับมาได้ เพราะทางการกัมพูชา อ้างว่า ต้องนำศพส่งสถานทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนก่อน ทำให้วันนี้เองบรรยากาศที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ค่อนข้างเงียบเหงา ยังไม่มีการเตรียมการใด ๆ ทีมข่าวไปสอบถามเรื่องนี้กับ นายสมพงษ์ อายุ 32 ปี สามีของผู้เสียชีวิต และ นางสาวส้ม อายุ 78 ปี ย่าของผู้เสียชีวิต ยืนยันว่า มิ้น ขึ้นเครื่องบินเดินทางไปทำงานที่กัมพูชาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ขึ้นเครื่องบินไปลงที่กรุงพนมเปญ ระหว่างทำงาน มิ้น มีอาการป่วยเป็นซึมเศร้าอยู่แล้ว ถูกใครไม่รู้ขโมยเงินเก็บทั้งหมดไป จึงทำให้เธอเครียดหนัก และบ่นว่าอยากฆ่าตัวตาย ครอบครัวก็พยายามพูดปลอบใจให้เธอคิดถึงลูกแล้ว แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุสลดใจขึ้น ขณะที่ เบิร์ด ทีมงานศูนย์ IMF บอกว่า ทางกัมพูชาแจ้งว่า จะต้องส่งร่างของ มิ้น ไปชันสูตรที่กรุงพนมเปญ จากนั้นถึงจะส่งร่างให้กับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ เพื่อส่งร่างกลับประเทศไทยต่อไปได้ ซึ่งก็อยากให้ กัมพูชา มีมาตรฐานในการดำเนินการ เพราะอย่างกรณีของ ใบหม่อน ยังสามารถส่งกลับผ่านทางชายแดนได้ ไทย เดินหน้าแก้ปัญหาสแกมเมอร์ ไทยเดินหน้าต่อกับแก้ปัญหาสแกมเมอร์ ที่ร่วมมือกับนานาชาติทุกมิติ กระทรวงยุติธรรม เช็กข้อมูลต่อเนื่องตามหาคนเกี่ยวพันกับสแกมเมอร์ในประเทศไทย หลังจากลงนาม 4 ข้อแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ระหว่างนายกรัฐมนตรี 2 ประเทศไปแล้วที่มาเลเซียทั้งยังหารือกับแบบทวิภาคีกับ นายกฯ ฮุน มาเนต สแกมเมอร์ก็เป็นอีก 1 เรื่อง ที่เดินหน้ากันแล้วในการแบ่งแลกเปลี่ยนข้อมูล ร่วมมือทำงาน และการส่งผู้ต้องสงสัยและคุ้มครองเหยื่อ ผ่านคณะทำงาน ไปจนถึง 22 ตุลาคม 2570 นอกจากนี้ ไทยยังได้ตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตั้งวอร์รูมเพื่อประสานงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อตามเงินคืนประชาชน ตำรวจไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์ เช้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 43 เรื่องสำคัญการเสนอในที่ประชุมคือแก้ปัญหาสแกมเมอร์ ที่เป็นวาระแห่งชาติ ที่ทำต่อเนื่อง มุ่งมั่นปราบปรามเพราะกระทบชีวิตประชาชน และประเทศชาติ ที่ต้องได้รับความร่วมมือกับนานาชาติ ที่จะรวมถึงการป้องกันการค้ามนุษย์ด้วย รุทธพล ตามต่อนักการเมืองพัวพัน สแกมเมอร์ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านักการเมือง 7 คน พัวพันสแกมเมอร์ ซึ่ง พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ลงตรวจสอบแล้ว ยังไม่พบเช่นกัน อย่างไรก็ตาม จะเรียกสำนวนคดีของนักการเมืองทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับคดีนักการเมือง ช.ช้าง มาดู และช่วงบ่าย จะมีการประสานกับ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เพื่อหารืออีกครั้ง แต่ตนเองไม่สามารถรื้อคดีดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้อย่างแน่นอน กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://news.ch7.com #ห้องข่าวภาคเที่ยง #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero