ดองเหล้าบ๊วย วิธีดองเหล้าบ๊วย หมักครบ1ปี รสชาติดี แนะนำวิธีทำและเลือกซื้อบ๊วยทุกขั้นตอนอย่างละเอียด скачать в хорошем качестве

ดองเหล้าบ๊วย วิธีดองเหล้าบ๊วย หมักครบ1ปี รสชาติดี แนะนำวิธีทำและเลือกซื้อบ๊วยทุกขั้นตอนอย่างละเอียด

ฤดูบ๊วยมาแล้ว วันนี้จะพาทุกคนไปดูวิธีทำเหล้าบ๊วย พร้อมแนะนำทำและวิธีเลือกบ๊วยและรายละเอียดต่างๆ ที่ทำเหล้าในช่วงที่ผ่านมาค่ะ พร้อมแล้วติดตามได้เลยค่ะ #เหล้าบ๊วย #วิธีทำเหล้าบ๊วย #Umeshu ***👍แก้ไขอัตราส่วนใช้น้ำยาสตาร์เซนค่ะ 1.6กรัม/น้ำเปล่า 1 ลิตรคาาา ส่วนน้ำเปล่า 5 ลิตร/ใช้ครึ่งออนคาาา #สูตรเหล้าบ๊วย เพื่อนๆ ไปปรับดูนะคะ อัตราส่วนทั่วไปที่แชร์ในในเฟสบุคค่ะ โหล บ๊วย เหล้า น้ำตาล 1 ลิตร 300g 500 ml 120g 2 ลิตร 600g 1 L 240g 4 ลิตร 1.2 kg 2 L 480g 5 ลิตร 1.5 kg 2.5 L 600g 8 ลิตร 2.4 kg 4 L 960g เพื่อนสามารถนำไปปรับใช้ได้ตามชอบค่ะ ***วัตถุดิบและอุปกรณ์ในการเหล้าบ๊วยมีดังต่อไปนี้ 1.บ๊วยเขียว หรือบ๊วยเหลือง บ๊วยเขียวจะได้เหล้าสีใสรสเปรี้ยวจัด บ๊วยอมเหลืองจะได้เหล้าสีเข้มรสอมหวาน 2.น้ำตาลกรวด นิยมใช้น้ำตาลกรวดเพราะรสชาติดีกว่าใส่น้ำตาลทราย 3.เหล้าขาว 40 ดีกรี ยิ่งหมักนานดีกรีจะลดลง แต่หากใครรีบชิมให้ใช้ดีกรีต่ำ เช่นสาเก หรือโซจูมาหมักแทนได้ค่ะ แต่หากดีกรีกต่ำมากอาจจะเกิดราได้เช่นกัน 4.ขวดโหลแก้ว นิยมใช้โหลแก้วเพราะเหล้ามีสารกัดกร่อนจึงไม่ควรใช้ขวดพลาสติก แต่หากใครจะใช้ควรเป็นพลาสติกแบบ Food grade หรือมี PET ค่ะ 5.เชอรี่ดอย สั่งมาทดลองดังนั้นจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ค่ะ **อัตราส่วนของตัวเองนะ 1.โหล 2 ลิตร บ๊วยเหลือง 700 กรัม น้ำตาลกรวด 250 เหล้า 1 ลิตร 2.โหล 2 ลิตร บ๊วยเขียว 700 กรัม น้ำตาลกรวด 300 กรัม เหล้า1ลิตร หากใครสนใจบ๊วย ติดต่อเพจนี้ได้เลยนะคะ https://m.facebook.com/story.php?stor... ***สิ่งที่สำคัญควรเตรียมเหล้าน้ำตาลกรวดและขวดโหลแก้วล่วงหน้าเพราะถึงฤดูบ๊วยจริงๆ ของบางอย่างมักจะขาดตลาดแทบหาซื้อไม่ได้เลยค่ะ ***วิธีทำเหล้าบ๊วยดังนี้ 1.นำบ๊วยและเชอรี่ดอยไปแช่เบกกิ้งโซดาประมาณ 10-15 นาที หรือใครจะแช่ด้วยสาร KMS (Potassium Metabisulphite) เพื่อฆ่าแบคทีเรียและเชื้อยีสต์จากธรรมชาติ หลังจากนั้นล้างให้สะอาดพักสะเด็ดน้ำให้แห้ง ***หากต้องการบ่มบ๊วยให้ออกเหลืองๆ ยังไม่ควรนำมาล้างน้ำ เพราะบ๊วยจะเหี่ยวแห้งได้ ***ส่วนบ๊วยเขียวต้องการลดความฝาดสามารถแช่น้ำต่ออีก1-2 ชั่วโมง หากอยากให้บ๊วยแห้งเร็วให้ใช้ทิชชู่หรือผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง แต่ไม่ควรเอาไปตากแดดบ๊วยจะเสียนำมาดองเหล้าไม่ได้ 2.นำขวดโหลแก้วที่ล้างสะอาดมาล้างด้วยน้ำยาสตาร์เซน ซึ่งนิยมใช้ในวงการทำไวน์ และหมักเบียร์ หาซื้อออนไลน์ อัตราส่วนครึ่งออนต่อน้ำ 5 ลิตร หรือ 1.6 กรัมต่อน้ำ1ลิตร หรือใครจะนำขวดโหลไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 15-20 นาทีแล้วเช็ดให้แห้ง 🚫แต่ไม่แนะนำวิธีใช้น้ำร้อนลวกค่ะเพราะอาจจะทำให้ขวดร้าวแตกได้ หรือวิธีสุดท้ายคือใส่เหล้าเล็กน้อยแล้วเขย่าให้ทั่วๆ เพื่อฆ่าเชื้อ แต่ส่วนตัวชอบใช้น้ำยาสตาร์ทเซนมากกว่าเพราะไม่ต้องเช็ดให้แห้งแม้มีฟองก็ใช้ทำเลยได้ 3.แคะจุกหรือขั่วบ๊วยออกให้หมดเพื่อป้องกันเกิดรา ส่วนตัวชอบแคะขั่วก่อนค่อยล้างบ๊วย แต่รอบนี้กว่าจะมีเวลาดึกแล้วเลยขอล้างบ๊วยพักสะเด็ดน้ำข้ามคืน หากบ๊วยแห้งไม่ดีใช้ทิชชูหรือผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งค่ะ 🚫เจาะหรือไม่เจาะก็ได้ ส่วนตัวไม่เจาะค่ะ มีบางคนเจาะแล้วเหล้าขุ่นค่ะ 4.นำบ๊วยมาใส่ขวดโหลแก้ว โหลแรกเป็นบ๊วยเขียว ขนส่งมาถึงจะยังเขียวๆ ใครชอบเขียวดองเลย แต่หากชอบเหลืองสามารถบ่มไว้สัก 1-2 วันให้เหลืองก่อนได้ 5.ใส่น้ำตาลกรวดมีทั้งแบบขัดสีและไม่ขัดสีเลือกตามสะดวก เน้นใส่น้อยก่อนหลัง 6 เดือนค่อยปรับชิมรสชาติแต่หากใครใส่เยอะจะแก้ไขยาก ***ถ้าหาซื้อน้ำตาลไม่ได้ให้ใส่เหล้าไปค่อยเติมน้ำตาลทีหลังได้ค่ะ 6.โหลที่ 2 บ๊วยเขียว วิธีสังเกตบ๊วยอ่อนหรือแก่ ให้ผ่าเม็ดข้างในถ้าแก่จะออกสีน้ำตาลแต่ถ้าเม็ดสีขาวจะอ่อนหรือสังเกตบ๊วยอ่อนยิ่งบ่มยิ่งเหี่ยวไม่เหลืองค่ะ หากได้บ๊วยอ่อนไม่ควรดองเหล้าเพราจะทำให้เหล้าขม 7.ดังนั้นช่วงที่เหมาะกับการซื้อบ๊วยคือกลางเดือนมีนาคมถึงปลายเมษยน เพราะถ้ารีบซื้อก่อนอาจจะเจอบ๊วยอ่อนหรือซื้อปลายฤดูแมลงเจาะบ๊วยและอากาศร้อนจะทำให้บ๊วยเน่าเสียได้ง่ายค่ะ 8.โหลที่ 3 บ๊วยเหลืองกับเชอรี่ดอย ปีนี้อยากทดลองดูว่ารสชาติเป็นอย่างไร 9.โหลที่ 4 บ๊วยเหลืองพันธุ์ยูมิ หรือหลายคนเรียกบ๊วยแก้มแดง จะลูกเล็กๆไม่ใหญ่เท่าบ๊วยเขียว เวลาดองเหล้าบ๊วยแต่ละสายพันธุ์รสชาติไม่ต่างกันค่ะ 9.เทหล้าขาวลงไป การเลือกเหล้าขึ้นอยู่กับงบประมาณของแต่ละบ้านหรือจะใช้เหล้านอกก็ได้ แต่ถ้าอยากประหยัดเหล้าชุมชนที่ถูกกฎหมายก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน แต่หากใครไม่เคยทำเหล้าบ๊วยมาก่อน อาจจะต้องลองสักสองสามยี่ห้อ เพื่อเปรียบเทียบรสชาติ เพราะความชอบของแต่ของคนไม่เหมือนกัน เหล้าขาวแต่ละตัวใช้ระยะเวลาที่ต่างกัน บางตัว 6 เดือนรสชาติดีงาม แต่บางตัวครบปีกลิ่นแรงดื่มยังไม่ได้ก็มี อัตราส่วนปรับตามชอบ เน้นน้ำตาลน้อย เพราะถ้าหากน้ำตาลเยอะหวานเกินจะแก้ไขลำบาก ต้องเพิ่มเหล้าหมักต่อ แต่หากเหล้าเปรี้ยวให้เพิ่มน้ำตาลกรวดค่ะ 10.เขียนอัตรส่วนและวันที่ติดไว้ที่โหล เก็บใส่ถุงผ้าหรือเก็บให้พ้นแสง หมักไว้1 ปี 11.ครบปีชิมรสชาติไม่ต่างมาก แต่คนชิมบอกชอบโหลบ๊วยมากกว่าที่ผสมเชอรี่ดอยค่ะ **ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากเพื่อนๆ ผู้เชี่ยวชาญที่แนะนำค่ะ 🚫ห้ามนำภาพหรือคลิปไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตนะคะ