У нас вы можете посмотреть бесплатно ตำรวจ ภ.1 ทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า 4.8 หมื่นชิ้น ลักลอบขนจากภาคใต้ มูลค่า 20 ล้าน или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
ตำรวจ ภ.1 ทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า! ยึด 4.8 หมื่นชิ้น มูลค่า 20 ล. รวบ 3 ผู้ต้องหาคาด่าน เมื่อวันที่ (14/10/68) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) แถลงผลการปฏิบัติการกวาดล้างและจับกุมเครือข่ายลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายล็อตใหญ่ โดยสามารถยึดบุหรี่ไฟฟ้าได้กว่า 48,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 1 ได้ขยายผลจากการจับกุม นายจีรพิวัฒน์ คนขับรถบรรทุก ซึ่งลักลอบลำเลียงบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 4,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เข้าสู่พื้นที่จังหวัดลพบุรี โดยจับกุมได้ที่บริเวณถนนพหลโยธิน 3 แยกไฟแดงนิคมสร้างตนเอง จังหวัดลพบุรี จากการขยายผลอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า เครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าจากพื้นที่ภาคใต้ และเตรียมกระจายต่อในพื้นที่ภาคกลาง จึงนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 2 ราย ซึ่งทำหน้าที่ขับรถขนส่งของกลางจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อไปส่งในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ จากการตรวจค้นรถกระบะตู้ทึบที่ใช้ขนส่ง พบของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมหาศาล รวมทั้งสิ้นกว่า 48,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้ขับรถขนส่งบุหรี่ไฟฟ้าในแต่ละเที่ยวเป็นเงิน 3,000 บาท โดยจะนำรถไปจอดไว้ตามจุดนัดหมายที่กำหนด เพื่อให้ผู้ร่วมเครือข่ายมารับช่วงต่อและนำของกลางไปกระจายให้กับผู้ค้ารายย่อยต่อไป เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดในความผิดตาม พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ซึ่งเกี่ยวกับการนำหรือพาของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง (ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าจัดเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้า) ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.นิคมสร้างตนเอง จังหวัดลพบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป