У нас вы можете посмотреть бесплатно ทลายแก๊งสวมรอยแบงก์ดัง ส่ง SMS หลอกดูดเงิน ใช้รถโมบายกระจายสัญญาณหาเหยื่อ 2 หมื่นคน/วัน или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
ตร.ไซเบอร์ ทลายรังโจร สวมรอยแบงก์ส่ง SMS หลอกดูดเงินเหยื่อสุดล้ำ ใช้เครื่องมือเหมือน โมบายเคขื่อนที่ เดลิเวอรี่ หาเหยื่อวันละ 20,000 คน ตำรวจสาธิตเครื่องให้ดู ระบุ ไม่ต้องมีความรู้ก็ทำงานได้แต่กดปุ่ม วานนี้มีการแถลงข่าวต้องเรียกว่าเป็นการจับกุมที่จับขบวนการที่หลอกลวงประชาชนโดยมีพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์กิตติประภัสร์ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ตำรวจสืบสวน สอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กสทช เจ้าหน้าที่ค่ายโทรศัพท์มือถือและผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าว ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในการส่งข้อความสั้น (SMS) ในลักษณะลิงก์ปลอม อ้างชื่อเป็นสถาบันการเงินชื่อดังหลอกดูดเงินผู้เสียหาย พล.ต.อ ดำรงค์ศักดิ์ ระบุว่า กลุ่มอาจชญากรรมทางออนไลน์นั้นยังคงมีปรากฏอยู่เรื่อยซึ่งตำรวจก็มีการสกัดและมีการจับกุมอยู่บ่อยครั้งรวมไปถึงรับแจ้งความออนไลน์จาก ซึ่งตั้งแต่มีคดีเกี่ยวกับแอพหลอกลวงดูดเงินต่างๆนั้นตั้งแต่เดือนมีนาคมถึง พฤษภาคม มีหลายคดี ความเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งการแถลงจับกุมวันนี้ก็เป็นกลุ่มคนร้ายที่เกี่ยวข้องกับแอพหลอกลวงดูดเงิน โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่าเป็นฐานจำลองสถานีปลอมขึ้นมา คล้ายกับรถโมบายเคลื่อนที่ สามารถ ตรวจยึดมาได้ห้าเครื่องจับกุมผู้ต้องหาได้หกคนโดยเครื่องเหล่านี้กลุ่มคนร้ายก็ใช้นำไปหลอกลวงประชาชนโดยการส่งเอสเอ็มเอสจากหน่วยงานต่างๆทั้งธนาคารกสิกรไทยการไฟฟ้าและใช้ลิ้งค์ที่เป็นลักษณะคล้ายกับของต้นสังกัดทั้งธนาคารและการไฟฟ้าทำให้ประชาชนหลงเชื่อ กดลิงค์ดูดเงินจากแอพธนาคาร โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช. ผู้บัญชาการ ตำรวจไซเบอร์ กล่าวว่า ตำรวจได้ข้อมูลมาว่ามีกลุ่มคนร้ายได้นำเครื่องดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทยผ่านทางชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาก่อเหตุ จึงสืบสวนและวิเคราะห์ข้อมูลกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อหาตัวกลุ่มขบวนการที่กระทำความผิด โดยพบว่าคนร้ายจะกระทำโดย “นำเครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) ใส่ไว้ในรถแล้วขับออกไปยังสถานที่ต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยหากรถแล่นผ่านไปทางใดก็จะส่งสัญญาณไปยังโทรศัพท์มือถือที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แล้วส่งข้อความสั้น (SMS) ในลักษณะลิงก์ปลอม” อ้างชื่อเป็นสถาบันการเงิน กรมสรรพากร การไฟฟ้า เป็นต้น โดยหากประชาชนหลงเชื่อและกดลิงก์ดังกล่าว ก็จะถูกให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นควบคุมเครื่องระยะไกล “โดยสามารถโอนเงินจากบัญชีธนาคารที่เครื่องโทรศัพท์นั้นติดตั้งแอพพลิเคชั่นประเภท Mobile Banking” ได้ภายในไม่เกิน 5 นาที โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ค. เวลาประมาณ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้เข้าตรวจค้นจับกุมกลุ่ม ขบวนการดังกล่าว โดยจับกุม นายสุขสันต์ อายุ 40 ปี กับพวก รวม 6 คน ในข้อหา ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต โดยเข้าทำการจับกุมกลุ่มขบวนการในครั้งนี้ กระจายเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาหลายจุด ได้แก่ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อในซอยบางแวก 33 บนถนนราชพฤกษ์ขณะที่รถกำลังแล่นออกไปเพื่อส่งสัญญาณ ตรวจยึดรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) จำนวน 4 คัน พร้อมอุปกรณ์ 4 ชุด จากนั้นได้เข้าตรวจค้นห้องพักของนายสุขสันต์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนจ่ายงาน และได้ตรวจยึดเครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) ที่ยังไม่ได้แกะออกมาใช้อีก 1 ชุด ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดย “ให้การรับสารภาพว่าได้รับการติดต่อว่าจ้างจากคนรู้จักที่ทำงานอยู่ประเทศเพื่อนบ้านโดยจะได้ค่าจ้างสำหรับการวิ่งส่งสัญญาณเดือนละ 80,000 บาท” ซึ่งเครื่องดังกล่าวนั้นสามารถส่งสัญญาณไปยังโทรศัพท์ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้วันละ 20,000 หมายเลขต่อเครื่อง ทั้งนี้จะฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ต่างๆ โดยหากพบรถที่มีอุปกรณ์ในลักษณะดังกล่าว ให้ทำการตรวจคันจับกุม ให้ บซ.สอท.เป็นศูนย์กลางในการประสานงานกับหน่วยต่างๆ นอกจากนี้ในการแถลงข่าวตำรวจได้ทดลองใช้เครื่องดังกล่าวส่งเอสเอ็มเอสหาผู้สื่อข่าวโดยวิธีการเหมือนกันกับที่กลุ่มคนร้ายทำปรากฏว่าสามารถส่ง SMS ได้จริงโดยทีมข่าวของเราก็ได้รับ SMS เตือนทันทีที่เจ้าหน้าที่กดคลิกปุ่มทำงาน มีข้อความว่า “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอนด้วยความห่วงใย จากตำรวจไซเบอร์” พลตำรวจตรี วิวัฒน์คำชํานาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผย วิธีการใช้เครื่องมือนี้ มี 4 ตัว ประกอบด้วย 1. แบตเตอรี่ (กล่องดำ) 2. เครื่องดึงสัญญาณจากระบบสัญญาณมือถือ (เป็นตัวกล่องสีขาว) ปกติกล่องนี้จะอยู่ตามเสาสัญญาณมือถือ 3. ตัวนี้ นี้สำคัญ เรียกว่าเครื่อง MISI-catcher หรือ เรียกว่าปชากระเบน (เครื่องสีดำคล้ายแอม) ตัวนี้ เป็น เครื่องจับสัญญาณ ปกติเวลาใช้มือถือ แต่ละจุด จะมีเสาสัญญาณ โทรศัพท์มือถือ แต่พอมีเครื่องนี้สัญญาณ มันจะไม่จะจับเสามือถือแล้ว มันมาที่เครื่องนี้ จึงใช้ได้ทุกเครือข่ายไม่ โดยที่เจ้าของเครือข่ายมือถือก็ไม่รู้ตัว 4. แล็ปท็อป เป็นตัวคลิกข้อมูลและดูเบอร์มือถือสัญญาณ อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/crime/mornin... ------------------------- #เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News) วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่ ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/mor... facebook : / morningnewstv3 Twitter : / morningnewstv3 YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3 #3PlusNews #ข่าวช่อง3