У нас вы можете посмотреть бесплатно วันอังคารที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
🍂ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีหลักยึดเหนี่ยวใจ: อย่าเป็นคนไร้ที่พึ่ง ➡️ในการมีชีวิตอยู่ในแต่ละวัน แต่ละชั่วโมง และแต่ละนาที เราจำเป็นต้องมีสิ่งยึดเหนี่ยวภายในใจ ซึ่งต้องเน้นย้ำว่า การมีหลักยึดเหนี่ยวนี้ไม่ใช่การยึดติด หรือยึดมั่น ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่หมายถึงการมีหลักใจของเราเองที่มั่นคง และชัดเจน เพื่อเป็นที่พึ่งที่มั่นคง สำหรับจิตใจในทุกสถานการณ์ 1. จุดมุ่งหมาย และรากฐานของการปฏิบัติ การปฏิบัติธรรมเริ่มต้นด้วยการมีสิ่งยึดเหนี่ยวภายในใจ หรือหลักใจของตนเอง ซึ่งการยึดเหนี่ยวนี้ไม่ได้หมายความถึงการยึดติด หรือยึดมั่นในทางที่ทำให้ติดขัดต่อความสงบใจ แต่ผู้ปฏิบัติควรตั้งมั่นในหลักใจของตนอย่างมั่นคง และอยู่อย่างมีหลักยึดเหนี่ยวใจ (สนาถา วิหรถ) ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรเป็นคนไร้ที่พึ่ง (มา อนาถา) ไม่เคว้งคว้างไปโดยไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยว ไม่หดหู่ 2. แนวทางและหลักการในการปฏิบัติ การปฏิบัติธรรมไม่ใช่เพียงแค่ความรู้ที่ท่องจำไว้เท่านั้น แต่ต้องนำมาซึ่งการลงมือทำอย่างจริงจังควบคู่กับการใช้ปัญญาในการพิจารณา และตัดสินใจในชีวิตประจำวัน กระบวนการเรียนรู้ และลงมือทำ: การฟังธรรมะให้ได้ผลจริงๆ คือการฟังแล้วนำไปคิดพิจารณา ให้เห็นเหตุผลของคำสอน เมื่อเข้าใจแล้ว จึงลงมือปฏิบัติ เพื่อให้เกิดกำลังใจ และความเข้มแข็งในทางธรรม การใช้ปัญญาในการตัดสินใจ: การดำเนินชีวิตให้ไม่หลงทาง และไม่พลาดพลั้งนั้น ต้องเริ่มจากการคิดให้รอบคอบ และตัดสินใจอย่างถูกต้อง เพราะสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีความสัมพันธ์ และเชื่อมโยงกันอย่างแน่นแฟ้น ความยืดหยุ่นในชีวิต: ชีวิตที่มีปัญญาคือ ชีวิตที่ไม่ตายตัว กฎเกณฑ์ และแบบแผนต่าง ๆ ที่ตั้งไว้อาจมีการเปลี่ยนแปลง ยกเลิก หรือผ่อนปรนได้ ขึ้นอยู่กับบริบทของเวลา เรื่องราว และบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยต้องมีการพิจารณา อย่างรอบคอบตามสถานการณ์ ความสมดุล และความเคร่ง: ผู้ปฏิบัติสามารถเคร่งครัดในธรรมะได้ แต่ไม่ควรเครียด หรือซีเรียสเกินไป เพราะความเคร่งครัดที่มากเกินไป อาจนำไปสู่ความทุกข์ทางจิตใจ ซึ่งอาจทำให้ต้องลาสิกขา หรือประสบกับภัยได้ 3. อุปมา และอุปไมยในทางปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าใจถึงการปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้อง และลึกซึ้งยิ่งขึ้น สามารถใช้ อุปมา หรือการเปรียบเทียบดังนี้: เปรียบเหมือนทหารที่ฝึกซ้อม: จะต้องเรียนรู้ท่าหมอบ ท่าคลานตามแบบแผนอย่างเคร่งครัด แต่เมื่ออยู่ในสนามรบจริง เป้าหมายหลักไม่ใช่การทำท่าให้ถูกต้องสวยงามเหมือนฝึกซ้อม แต่คือการ “เอาชีวิตรอด” ให้ได้ ซึ่งเปรียบเหมือนกับการปฏิบัติธรรม ที่เป้าหมายสูงสุดคือ การพ้นทุกข์ ไม่ใช่การท่องจำหลักธรรมต่าง ๆ เช่น มรรค 8 หรือ สติปัฏฐาน 4 ได้อย่างแม่นยำเท่านั้น เปรียบเหมือนตาลยอดด้วน: ตาลยอดด้วนที่ถูกตัดยอดไปแล้ว ไม่สามารถงอกงามเจริญเติบโตต่อไปได้ เช่นเดียวกับจิตที่สามารถวางภพ และวางสังขารธรรมแห่งการปรุงแต่งได้อย่างเด็ดขาด อำนาจของกิเลสก็จะไม่สามารถงอกงามขึ้นได้อีก อุปมาเหล่านี้ช่วยให้เห็นภาพการปฏิบัติธรรมที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบ หรือทฤษฎีอย่างแข็งทื่อ แต่เน้นที่ผลลัพธ์ และความจริงของจิตใจในปัจจุบัน 4. การปฏิบัติเพื่อวาง และปล่อยวาง การปฏิบัติที่แท้จริงคือ การฝึกจิตให้ว่าง และปล่อยวางจากสิ่งต่าง ๆ หากใจยังคงยึดถือ หรือยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นของตนเองอยู่ ใจก็ยังคงมีภพ และสังขารธรรมที่ปรุงแต่งซึ่งเป็นที่ตั้งของกิเลส เมื่อจิตสามารถวางภพทั้งน้อยใหญ่ และวางสังขารธรรมแห่งการปรุงแต่งได้อย่างเด็ดขาด อำนาจของกิเลสก็ไม่สามารถงอกงามในจิตได้ เปรียบเหมือนตาลยอดด้วนที่ไม่มีโอกาสเจริญเติบโตต่อไป การปฏิบัติยังรวมถึงการรักษาศีล ซึ่งหมายถึงการหยุดเบียดเบียนทั้งตนเอง และผู้อื่น และการเข้าสู่ฌานหรือบำเพ็ญภาวนา เพื่อให้จิตวางได้ และสงบลงอย่างแท้จริง 5. การบรรลุธรรม และผลของการปฏิบัติ ผลของการปฏิบัติธรรมแบ่งตามระดับการตรัสรู้ และการสั่งสอนดังนี้ พระพุทธเจ้า (พุทธะ): ผู้ที่ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง และมีหน้าที่สั่งสอนเวนยสัจ หรือผู้ที่ควรแนะนำสั่งสอน พระปัจเจกพุทธเจ้า: ผู้ที่ตรัสรู้ด้วยตนเอง แต่ไม่สอนผู้อื่น พระอรหันต์: ผู้ที่ตรัสรู้ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า และเป็นสาวกของพระองค์ การวัดผลการปฏิบัติว่ามีความก้าวหน้า หรือได้ผลจริงนั้น ให้สังเกตจากความทุกข์ที่ดับไป ซึ่งแบ่งเป็นสองส่วนใหญ่ คือ ทุกข์ทางกาย และทุกข์ในอารมณ์จิต หรือในสภาวะจิตใจ 6. การดำเนินชีวิตโดยธรรมะ การดำเนินชีวิตตามหลักธรรมะคือ การครองตัว ครองตน และการแสวงหา รวมถึงการครอบครองสิ่งต่าง ๆ อย่างไม่ก่อให้เกิดทุกข์ โทษ เวร หรือภัยอันตรายใด ๆ ทั้งในความคิด คำพูด และการกระทำของตนเอง สรุป เป้าหมายสูงสุดของการปฏิบัติธรรมตามที่กล่าวไว้ คือการดำเนินชีวิตอย่างมีปัญญา มีหลักยึดเหนี่ยวใจมั่นคง สามารถ “อยู่เป็น เย็นได้” อย่างสงบสุข พร้อมทั้งปราศจากทุกข์ โทษ เวร และภัยทั้งปวงในทุกมิติของชีวิต #วัดพระพุทธแสงธรรม #พระราชวัชรญาณรังษี #ธรรมะ #สวดมนต์ #เจริญสติ #สมาธิ #การปฏิบัติธรรม #buddha #Dhamma #dham #temple #pray #meditation #sermon #chantingmantra #peaceingod