เปิดประตูสู่สะพานขอม 1000 ปี скачать в хорошем качестве

เปิดประตูสู่สะพานขอม 1000 ปี

สะพานขอมจังหวัดสกลนคร ถือเป็นสะพานหินยุคขอม หนึ่งเดียวในประเทศไทย เป็นการก่อสร้างเพื่อเป็นเส้นทางการคมนาคม ทั้งยังเป็นฝายชะลอน้ำในอดีต ซึ่งนักโบราณคดี ได้ให้ความเห็นว่า สร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 16-18 หรือมีอายุ ประมาณ 800 –1000ปี ตัวสะพานมีความกว้าง 4 เมตร ยาว 16 เมตร สูง 3 เมตร ซึ่งนักโบราณคดีสันนิษฐานว่า สะพานขอมแห่งนี้ เป็นสะพานข้ามลำห้วยโมง ก่อนที่จะไหลลงสู่หนองหาร จากบันทึกของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ในครั้งเสด็จตรวจหัวเมืองต่างๆในมนทนอีสาน เมื่อพระองค์เสด็จถึงจังหวัดสกลนคร มีบันทึกในตอนหนึ่ง ว่า วันที่ 15 มกราคม ปี 2449 ขี่ม้าไปบ้านนาเวง มีระยะทาง 15 เส้น ไปตามถนนขอมสร้างไว้แต่ดึกดำบรรพ์ มีสะพานหินเป็นสะพานศิลาแลง ฝีมือขอมทำดีน่าดูอยู่1 แห่ง เป็นของสมัยเดียวกันกับเทวสถาน ที่ตำบลนาเวง มีเทวสถานเรียกว่า อรดีมายานารายณ์เจงเวง และในการเสด็จตรวจหัวเมืองในครั้งนั้น มีการถ่ายภาพคู่กับสะพานขอมโบราณไว้ ทำให้เราสามารถเห็นถึงรูปทรงสะพานแห่งนี้ เมื่อปี 2449 ได้อย่างชัดเจน และเมือนำรูปภาพดังกล่าว มาเปรียบเทียบกับสะพานขอมในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีรูปทรงเปลี่ยนไปจากเดิม ทำให้หลายๆคน ได้ให้ความเห็นว่า สะพานขอมนั้น ได้มีการย้ายและมีการสร้างขึ้นใหม่แทนที่สะพานเดิม เมื่อครั้งที่กรมทาง ทำการก่อสร้างถนนสาย สกลนคร-อุดรธานี ใน ปี พ.ศ 2516 เพื่อพิสูจน์ความจริง และ เพื่อหาแนวทางในการเข้ามาบูรณาการ ส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติสาสตร์อารยธรรมขอมโบราณสกลนคร ชมรมสกลนคร เรอเนชอง นำโดย ดร.ธนรัตน์ ตรีสวัสดิ์ชัย ชมรมอารยธรรมสกลนคร นำโดย อ.สรรค์สนธิ บุญโยทยาน และ ดร.อภิชาติ ตรีรสวัสดิชัย สส.สกลนคร เขต 1 พรรคเพื่อไทย ได้มีการส่งเรื่องร้องขอ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบสะพานแห่งนี้อีกครั้ง หาคำตอบว่า สะพานขอมโบราณแห่งนี้ เป็นการสร้างขึ้นมาใหม่ หรือ เป็นยังสะพานเก่า หากแต่เพียงเป็นการบูรณะใหม่ในจุดเดิม เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของจังหวัดสกลนครต่อไป จากการขุดสำรวจอย่างระเอียด ของสำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น พบว่า สะพานขอมในปัจจุบัน ยังคงตั้งอยู่ในตำแหน่งเดิม ไม่มีการเคลื่อนย้าย หรือ รื้อถอนเพื่อสร้างใหม่อย่างที่หลายๆคนเข้าใจ หากแต่มีการซ่อมแซมบูรณะ ในช่วงสมัยการก่อสร้างถนนสายสกลนคร อุดรธานี นักโบราณคดีได้พบหลักฐานทางวิศวกรรมชั้นสูง ทั้งทางด้านการโยธา และการชลประทาน ที่แสดงให้เห็นถึงความรู้ความสามารถ ของบรรพบุรุษในยุคอดีต เพื่อเผยแพร่ข้อมูลความรู้เชิงวิชาการ ด้านโบราณคดี ประวัติสาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรมของเมืองโบราณสกลนคร กระตุ้นให้ประชาชนได้หันมาให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ โบราณคดีท้องถิ่น ชมรมสกลนคร เรอเนชอง นำโดย ดร.ธนรัตน์ ตรีสวัสดิ์ชัย ชมรมอารยธรรมสกลนคร นำโดย อ.สรรค์สนธิ บุญโยทยาน ดร.อภิชาติ ตรีรสวัสดิชัย สส.สกลนคร เขต 1 พรรคเพื่อไทย ได้เชิญนักโบราณคดี นำโดยนายดุสิต ทุมมากรณ์ นักโบราณคดีชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการกลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น ให้ลงพื้นที่สกลนครอีกครั้ง เพื่อถ่ายทอด หลักฐานทางวิชาการ โบราณคดี ที่พบในการขุดสำรวจสะพานขอม และเพื่อหาแนวทางในการบูรณะ ปรับภูมิทัศน์ให้สะพานขอมเป็นแหล่งเรียนรู้ทางโบราณสถานที่สำคัญของประเทศไทย โดย นายดุสิต ทุมมากรณ์ เป็นนักโบราณคดีที่ออกมานำเสนอข้อสันนิฐานใหม่ ว่า เมืองโบราณสกลนคร อาจคือเมืองมหิธรปุระ ราชธานีโบราณ ยุคสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 6 ที่หายสาบสูญไปในอดีต พบหลักฐานสำคัญที่มีอายุอยู่ในยุคสมัยเดียวกันคือ คูเมืองเก่า ที่มีลักษณะเป็นรูป 4 เหลี่ยมขนาดใหญ่ มีโบราณสถาน และปราสาทโบราณ เช่น ปราสาทเชิงชุม ปราสาทดุม ปราสาทนารายเจงเวง ปราสาทภูเพ็ก และปราสาทบ้านพันนา ดร.อภิชาติ ตรีรสวัสดิชัย สส.สกลนคร เขต 1 พรรคเพื่อไทย ผู้ผลักดันให้มีการขุดสำรวจสะพานขอม กล่าวว่า สะพานขอม คือความภูมิใจของชาวจังหวัดสกลนคร เนื่องจากพบเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ชาวจังหวัดสกลนคร จะได้ร่วมกันพัฒนา ให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางโบราณคดีที่ สำคัญของไทยต่อไป