У нас вы можете посмотреть бесплатно สวดมนต์ข้ามปี : รัตนสูตร (ทำนองอินเดีย) พร้อมแปล или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
โรคระบาด ทุพิกภัย อมนุษย์เบียดเบียน ล้วนเกิดมาจากต้นเหตุกรรมร่วมกันปาณาติบาต จากการดำรงชีวิตของเหล่ามนุษย์ที่กินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร ทำให้เหล่าสัตว์ถูกฆ่ามาเป็นอาหารกันมาก ในรัตนสูตร เหล่าภูติผีปีศาจเหล่านี้ กลายมาเป็นเชื้อโรคร้ายแรงที่เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ เหล่าวิญญาณสัตว์ ที่ถูกมนุษย์ฆ่าสังหารทำร้ายเบียดเบียนชีวิต ต่างโกรธแค้น ชิงชังอาฆาตมาดร้าย ได้กลับมาเกิดเป็นภูติผีปีศาจ สาปแช่ง ทำให้เกิดโรคห่าระบาดร้ายแรงขึ้นมาในหมู่มนุษย์ที่กินสัตว์ และทำให้มนุษย์เสียชีวิต ในสมัยโบราณ พระมหากษัตริย์ ได้ปรึกษากับพระสังฆราช ป่าวประกาศให้ประชาชน ถือศีล ไม่กินเนื้อสัตว์ เพื่อลดความเคียดแค้น ชิงชัง จากกรรมปาณาติบาต ที่มนุษย์ทำกับเหล่าสัตว์ และตั้งสัจจะ จะยึดมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (พระสงฆ์ ในที่นี้ หมายถึง ผู้ปฏิบัติธรรม เฉพาะที่ได้โสดาบันขึ้นไปเท่านั้น มิได้หมายถึงผู้ที่แค่บวช แล้วเอาผ้ากาสาวพัสตร์มานุ่งห่มไม่) พอตั้งใจจะยึดมั่นในคำสอน อันเปรียบเหมือนรัตนะอันประเสริฐ ไม่เบียดเบียนสัตว์ เหล่าภูมิทั้งหลาย (ที่มาในรูปเชื้อโรคร้าย) จึงอันตราฐานหายไป ทำให้โรคระบาดลดน้อยลง จนหายไปในที่สุด "รัตนสูตร" พระพุทธเจ้าประกาศใช้ปัดเป่าภัยโรคระบาด เนื่องจากมนุษย์หมู่มากได้ทำผิดทำนองคลองธรรม พระสูตรนี้จึง สวดเพื่อเตือนสติเหล่ามนุษย์ ให้กลับมายึดมั่นใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตามความเชื่อในสมัยโบราณว่ากันว่าสาเหตุที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระสูตร “รัตนสูตร” นี้ขึ้นมา ก็เพื่อขจัดปัดเป่าภัยความอดอยาก ภัยจากโรคระบาด และภัยจากอมนุษย์เบียดเบียน ชาวพุทธจึงถือเป็นธรรมเนียม สวดพระสูตรนี้เพื่อขจัดโรคภัยเช่นโรคห่า เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าการสาธยายรัตนสูตรหรือรัตนปริตรจะทำให้ได้รับความสวัสดี และพ้นจากอุปสรรคอันตรายทั้งหลายทั้งปวงด้วย มีอีกหนึ่งตำนานเล่าว่า “รัตนสูตร” เป็นพระสูตรที่พระอานนท์เรียนจากพระพุทธองค์โดยตรง เพื่อใช้สวดขจัดปัดเป่าภัยพิบัติที่เกิดกับชาวกรุงเวสาลี พระพุทธองค์ทรงแนะนำให้พระอานนท์น้อมเอาคุณของพระรัตนตรัยคือ พระพุทธพระธรรม พระสงฆ์ ทำสัจกิริยาให้เกิดเป็นอานุภาพขจัดปัดเป่าภัยพิบัติทั้งหลาย เนื้อความ “รัตนสูตร” ท่อนแรกเริ่มต้นด้วยการแนะนำให้เหล่าภูตทั้งหลายได้อนุโมทนาบุญกุศลที่หมู่มนุษย์อุทิศให้ และเมื่ออนุโมทนาแล้วขอให้เกิดความเมตตาทำการรักษามนุษย์ทั้งหลาย ส่วนเนื้อความท่อนต่อมาเป็นการอ้างคุณพระรัตนตรัยเป็นสัจวาจาให้เกิดความสวัสดี ส่วนท่อนสุดท้ายเป็นคำกล่าวของท้าวสักกะ ที่ผูกขึ้นเป็นคาถาพรรณนาคุณพระรัตนตรัยเป็นสัจวาจาให้เกิดความสวัสดีเช่นกัน ภายหลัง “รัตนสูตร” ได้กลายเป็นแบบอย่างในการทำน้ำพระพุทธมนต์สำหรับพระสงฆ์สาวกสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน ทุกครั้งที่มีการทำน้ำพระพุทธมนต์ จะต้องมีการสวดบท “รัตนสูตร” เพื่อเป็นการขจัดภัยทั้ง 3 ประการตามที่ปรากฏในพระสูตรคือ ข้าวยากหมากแพง (ทุพภิกขภัย), ภูตผีปีศาจทำอันตราย (อมนุสภัย), โรคภัยไข้เจ็บ (โรคภัย) ให้อันตรธานไป ด้วยอานุภาพแห่งรัตนสูตรนี้ แม้กรุงเวสาลีจะเกิดภัยพิบัติอย่างร้ายแรง ผู้คนอดอยากล้มตายเป็นจำนวนมาก ซากศพถูกทอดทิ้งเกลื่อนนคร ภูตผีปีศาจทำอันตรายแก่หมู่มนุษย์ มีโรคระบาดเกิดขึ้นแพร่กระจายไปทั่วเมื่อพระพุทธองค์ทรงรับสั่งให้พระอานนท์สวดบท “รัตนสูตร”และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ภัยพิบัติร้ายแรงเช่นนี้ก็ระงับลงได้อย่างฉับพลัน