ทลายแก๊งอุ้มบุญข้ามชาติ ได้ค่าจ้างท้องละ 4.5 แสน พิษโควิดทำบินไปคลอดที่จีนไม่ได้ скачать в хорошем качестве

ทลายแก๊งอุ้มบุญข้ามชาติ ได้ค่าจ้างท้องละ 4.5 แสน พิษโควิดทำบินไปคลอดที่จีนไม่ได้

ชลบุรี-วานนี้ (17 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสนสุข พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปสอบปากคำ หญิง 5 คน กรณีรับจ้างอุ้มบุญให้กับเครือข่ายประเทศจีน สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ตำรวจได้รับการร้องเรียนแจ้งเบาะแสว่ามีการรับอุ้มบุญ หรือรับจ้างตั้งครรภ์แทนกัน ที่หมู่บ้านมณีรินทร์ โมเดิลโฮม หมู่ 6 ต.บ้านปึก อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงสืบสวนและติดตามพฤติการณ์ของหญิงรับจ้างตั้งครรภ์ หลังจากนั้นจึงได้ขออนุมัติหมายศาลเข้าค้นบ้านดังกล่าว หญิง อายุ 30 ปี และ 35 ปี ซึ่งเป็นพี่น้องกัน รับสารภาพว่าได้รับจ้างตั้งครรภ์จริง คนหนึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนแล้ว ส่วนอีกคนรับจ้างตั้งครรภ์มาแล้ว 3 ครั้ง และไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก ก่อนเปิดเผยว่า จะได้รับค่าจ้างตั้งครรภ์จ่ายเป็นรายเดือน เดือนละ 30,000 บาท ตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์จะได้เงินประมาณ 450,000 บาท ส่วนการตั้งครรภ์นั้นจะมีการตรวจร่างกายที่กรุงเทพฯ หากสภาพร่างกายสมบูรณ์ก็จะฝังตัวอ่อน โดยจะมี น.ส.วัน และ น.ส.จิน เป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์ทั้งหมด เมื่อใกล้คลอดแล้วจะพาไปประเทศกัมพูชา หรือประเทศจีน หากไปคลอดที่จีน พ่อแม่ชาวจีนจะมารับเด็กไปทันที แต่ปรากฏว่าช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ และมีหญิงสาวรับจ้างตั้งครรภ์แล้วประมาณ 7 คน มีคลอดลูกในไทยแล้ว 1 คน ซึ่งทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้นำไปเลี้ยงดูในที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนการขยายผลนั้น จะมุ่งพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 8 เป้าหมาย พร้อมขออนุมัติหมายจับ น.ส.วัน และ น.ส.จิน รวมทั้งติดตามเด็กอุ้มบุญที่คลอดมาแล้วทั้งหมด 3 ราย ส่วนตัวการใหญ่ที่ว่าจ้างให้อุ้มบุญในครั้งนี้อยู่ประเทศจีน ทั้งนี้ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 กล่าวว่า คดีอุ้มบุญที่เกิดขึ้นในขณะนี้มาจากชาวจีนต้องการทารกเพศชาย หากเปรียบเทียบกับการทำกิฟต์ที่ประเทศจีนกับการจ้างอุ้มบุญ ถือว่าอุ้มบุญถูกกว่ามาก จึงได้เกิดขบวนการว่าจ้างให้หญิงไทยอุ้มบุญเกิดขึ้น ซึ่งทาง สภ.แสนสุข กับกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ชลบุรี หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการอุ้มบุญ จึงได้สืบสวนสอบสวนพบว่าเป็นขบวนการใหญ่ และที่ตรวจพบการกระทำความผิด เพราะพิษโควิด-19 ทำให้หญิงสาวไม่สามารถเดินทางไปคลอดต่างประเทศได้ จึงต้องมาคลอดที่เมืองไทย ทำให้สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ส่วนความผิดนั้นเป็นความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ผู้ร้ายข้ามชาติ เพราะสร้างความเสียหายระหว่างชาติ หากพบว่าเป็นการกระทำความผิดอื่นอีกก็จะดำเนินคดีทุกข้อหา ส่วนชาวจีนถือว่าเป็นการร่วมกันกระทำความผิด ซึ่งจะต้องมีการขยายผลและจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ยังพบว่ายังมีหญิงไทยอีกจำนวนมากที่รับจ้างอุ้มบุญ ซึ่งจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป รายละเอียดเพิ่มเติม https://ch3thailandnews.com/news/193865 ------------------------- #เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News) 18 มิถุนายน 2563 ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารได้ก่อนใครได้ที่นี่ เรื่องเล่าเช้านี้.com : https://morning-news.bectero.com facebook :   / morningnewstv3   Twitter :   / morningnewstv3   Official LINE : @ruenglao