จับแล้ว หนุ่มคลั่งยาเร่งบำบัด! ยิงเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ดับคาบ้านพักสงขลา скачать в хорошем качестве

จับแล้ว หนุ่มคลั่งยาเร่งบำบัด! ยิงเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ดับคาบ้านพักสงขลา

จับแล้ว หนุ่มคลั่งยาเร่งบำบัด! ยิงเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ดับคาบ้านพักสงขลา เหตุโกรธไม่ใส่ชื่อเข้ากลุ่มบำบัด สงขลา (7 ต.ค. 68) เกิดเหตุสะเทือนขวัญในพื้นที่ อ.เมืองสงขลา เมื่อชายวัย 54 ปี ที่ต้องการเข้ารับการบำบัดยาเสพติด ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายกฤษณ์ พันธ์ช่วย อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิ จนเสียชีวิตคาบ้านพัก หลังไม่พอใจที่ถูกกีดกันไม่ให้เข้ากลุ่มบำบัด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวได้ขณะหลบซ่อนตัวในป่า พร้อมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างสงขลาร่วมใจ ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกัน บริเวณซอยสะดวก ถนนทะเลหลวง ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสงขลา เข้าตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายกมล ถนอมทรัพย์ หรือ ปุ้น อายุ 54 ปี ส่วนผู้เสียชีวิตคือเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ รายหนึ่ง (ถูกระบุในคำให้การผู้ก่อเหตุในชื่อ นายกฤษณ์ พันธ์ช่วย อายุ 48 ปี โดยมีมูลเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องการบำบัดยาเสพติด นายกมล ให้การว่าตนเองไม่พอใจอย่างรุนแรงที่ นายกฤษณ์ ไม่ยอมใส่ชื่อตนเองเข้าในกลุ่มบำบัด แต่กลับนำชื่อเพื่อนคนอื่นใส่ลงไปแทน ทำให้ตนโทรศัพท์ไปต่อว่าจนเกิดการทะเลาะวิวาททางโทรศัพท์ ก่อนจะขับรถไปหาเพื่อพูดคุย และทะเลาะกันซ้ำอีกครั้ง จากนั้นนายกมลจึงได้ ชักอาวุธปืนจ่อยิง 1 นัด ก่อนหลบหนีไป ตำรวจตามรวบตัวได้ขณะหนีซ่อนในป่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผบก.ภ.จว.สงขลา พร้อมกำลัง นำโดย พ.ต.ท.เจริญ สุภาพบุรุษ สว.กก.สส.ภ.จว.สงขลา ,พ.ต.ท.สมพงศ์ หนูเงิน สว.สส.สภ.เมืองสงขลา พร้อมชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.สงขลา และ ชุดสืบสวน สภ.เมืองสงขลา ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณป่าโดยรอบ ไล่ล่าติดตามผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.20 น. เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟที่นายกมลใช้ก่อเหตุ จอดทิ้งไว้ข้างบ้านเพื่อนในพื้นที่ ม.4 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลาและพบ นายกมล ถนอมทรัพย์ กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่าซึ่งห่างจากจุดที่ทิ้งรถประมาณ 200เมตร โดยนายกมลได้มีการเปลี่ยนเสื้อจากเสื้อยืดสีแดงขาวที่ใส่ขณะก่อเหตุ มาเป็นเสื้อยืดสีดำแทนเพื่ออำพรางตัว จากการสอบสวนเบื้องต้น นายกมลยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงจริง และนำอาวุธปืนซึ่งเป็น ปืนไทยประดิษฐ์ หรือ ปืนหักคอไอ้เท่ง ไปซ่อนไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายกมล พร้อมของกลางทั้งหมดส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป