У нас вы можете посмотреть бесплатно ยางน่อง ตำนานแห่งพิษที่ใช้ล่าสัตว์มาแต่โบราณ วรากรสมุนไพร ไอดีไลน์ herbsddd или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
ยางน่องเครือ ชื่ออื่น เครือน่อง ยางน่องเครือ (อุบลราชธานี) น่อง ชื่อวิทยาศาสตร์ Strophantus caudatus (Linn.) Kurz. ชื่อวงศ์ Apocynaceae ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้เถาเนื้อแข็งเลื้อยพาดพันต้นไม้อื่น สูงได้ถึง 12 เมตร เถากลม เกลี้ยง เปลือกสีน้ำตาลแดง ไส้อ่อน ทั้งต้นมีน้ำยางสีขาวมีพิษ ใบเดี่ยว หนาเรียบ แข็ง ใหญ่และยาว เรียงตรงข้าม รูปวงรี รูปไข่กลับหรือรูปไข่ กว้าง 3-9 เซนติเมตร ยาว 5-15 เซนติเมตร ปลายใบแหลม เป็นมันสีเขียวเข้ม ดอกช่อ ออกที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีขาวนวล 5 กลีบ ปลายแหลมยาวสีแดงเข้มเมื่อแรกบาน แล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและแดง ปลายกลีบสีเหลืองแล้วเปลี่ยนเป็นสีแดงและม่วง รยางค์รูปมงกุฎสีแดง แล้วเปลี่ยนเป็นสีม่วง ผลเป็นฝักคู่ รูปทรงกระบอก ขนาดใหญ่ กว้าง 2-5 เซนติเมตร ยาว 13-30 เซนติเมตร เมื่อแก่จัดสีน้ำตาลแดง และแตกออก เมล็ดสีน้ำตาล มีขนสีขาว ปลิวไปตามลม เกิดตามที่รกร้างว่างเปล่าทั่วไป ในป่าละเมาะ ป่าแล้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด สรรพคุณ ยาง มีรสเมาเบื่อเป็นพิษ บำรุงหัวใจอย่างแรง ไม่ควรนำมาใช้เอง เพราะอันตรายมาก ทางยาควรใช้แต่น้อยที่สุดจึงจะมีผลในทางดีได้ หรือใช้แก้ช็อกหมดสติ หมอโบราณกล่าวว่าใช้ยางไม้นี้ผสมทำยาพิษอาบลูกดอก ทำให้พิษแล่นเร็ว ยางจากต้น ผสมกับยาพิษชนิดอื่น เช่น พิษจากงูเห่า และสัตว์มีพิษอื่นๆมาผสมรวมกัน ทาลูกหน้าไม้ล่าสัตว์ เพราะยางไม้นี้นำพิษซึมเข้าบาดแผลอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนรับประทานเนื้อสัตว์ให้เฉือนเอาเนื้อร้ายที่มีสีเขียวออกจนหมด จึงจะรับประทานเนื้อสัตว์นั้นได้ ยางน่องต้น ชื่อวิทยาศาสตร์ Antiaris toxicaria วงศ์ moraceae ชื่อสามัญ Upas tree ลักษณะ เป็นไม้ใหญ่ผลัดใบ มี 2 เพศในต้นเดียวกัน สูง 45-60 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง180 เซนติเมตร บางต้นมีพูลึก สูงจากพื้นดิน 3 เมตร เปลือกลำต้นเรียบ ยางสีขาวอมเหลืองจะค่อยเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เมื่อถูกอากาศจะจับตัวเป็นเม็ด รูปใบกลม ผลมี 1 เมล็ด มีเนื้อนุ่มรูปกระสวย ผิวกำมะหยี่ พบในแถบเขตร้อนอย่างศรีลังกา อินเดีย จีนตอนใต้ ไทย มาเลเซีย นับเป็นไม้หายาก (พบ 1 ต้นในพื้นที่ 500 ไร่) เนื้อไม้ใช้ในการก่อสร้างประเภทที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก หรือทำเฟอร์นิเจอร์ ชนเผ่าซาไกใช้พิษยางน่องจากยางน่องต้นเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่มาก มานิจะเอาหินหรือขวานไปฟันที่เปลือกส่วนลำต้น จะได้น้ำยางน่องไหลออกมา ยางน่องมีพิษมากถึงขนาดที่ว่าคนฟันเปลือกไม้ควรต้องอยู่เหนือลม เพราะหากอยู่ใต้ลมก็อาจได้รับพิษได้ เมื่อได้ยางน่องมา ก็จะนำมาเคี่ยวแล้วนำลูกดอกมาอาบยาพิษ เก็บลูกดอกนั้นไว้ใช้ได้อีกนาน ยางน่องจะทำให้สัตว์ที่โดนพิษเป็นอัมพาตและตาย ในทางทฤษฎียางน่องเป็นสารพิษชื่อ Antiarin เป็กลุ่มสาร Cardiac Glycoside ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัว เกิดการชัก หัวใจเกร็งตัวและหยุดเต้น หยุดหายใจ ซึ่งเป็นพิษที่รุนแรงมาก สัตว์ที่ได้มาเนื้อบริเวณที่นั้นถูกลูกดอกต้องตัดออกก่อนแล้วจึงนำส่วนที่เหลือมาทำอาหาร สมัยโบราณนั้นเวลาออกไป ล่าสัตว์มักจะเอามีดไปสับที่บริเวณลำต้นเพื่อเอายางน่องไปล่าสัตว์ได้ยางน่องแล้วก็นำไปเคี่ยวรวมกับ กระเ ทียม พริก ถ้าเคี่ยวได้ที่จะมีฟองขึ้นและเมื่อได้ที่ก็นำไปทดลองกับกิ้งก่าโดยนำปลายลูกดอกจุ่มยางน่องแล้ วนำไปเสียบที่ตัวกิ้งก่าแล้วปล่อยให้มันวิ่งขึ้นต้นไม้ถ้ามันตายแล้วตกลงมาจากต้นไม้แสดงว่ายางน่องที่เรา เคี่ยวนั้นได้ที่แต่ถ้าตายแล้วไม่ตกลงมาแสดงว่าเคี่ยวไม่ได้ที่ต้องนำมาเคี่ยวใหม่***เหตุผลที่ต้องกับกิ้ งก่าให้วิ่งขึ้นต้นไม้แล้วให้ร่วงลงมานั้นคือเมื่อเวลาเรายิงสัตว์บนตนไม้แล้วสัตว์บางตัวเล็บจะเกาะกับต้ นไม้ดีมากแม้ขณะตายยังไม่ยอมหล่นจากต้นไม้ดังนั้นเราจึงต้องการให้มันตายแล้วร่วงลงมาเพื่อสะดวกในการเก็บ