У нас вы можете посмотреть бесплатно สกลนคร สัมมนากัญชาเป็นยาและผลักดันให้เกษตรกรได้ปลูก или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
ระดมตัวแทนทุกอำเภอของสกลนคร"วางนโยบายปลูกกัญชาตามกรอบกฎหมาย"หลังเครือข่ายฯเตรียมทำ MOU กับทางมหาวิทยาลัยของรัฐและผลักดันให้ออกกฎหมายลูกเอื้อประโยชน์ให้ประชาชนมากกว่ากลุ่มนายทุน วันนี้(30 พฤษภาคม 2562) ณ ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลตำบลบัวสว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร นายอุดร แพงทรัพย์ นายกเทศมนตรีตำบลบัวสว่าง พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาล ได้จัดเวทีเสวนา วิชาการ "องค์ความรู้ด้านกัญชากับการรักษาโรค(ยากัญชา)" โดยทาง “ภาครัฐ” และ “ภาคเอกชน” จับมือกันจัดขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการครอบครองกันยา ตาม พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกัญชา พ.ศ.2562 โดยมีวิทยากรมาให้ความรู้ประกอบด้วย พท.กฤตนัน พันธุ์อุดม กรรมการสภาแพทย์แผนไทย ผู้เชี่ยวชาญด้าน“กัญชาเป็นยา สู่การรักษา ตามศาสตร์แพทย์แผนไทย” ผศ.ดร.อานนท์ แสนน่าน ผอ.ศูนย์การเรียนรู้วิจัยและพัฒนาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และ พท.ผ.วดี พันธุ์อุดม แพทย์แผนไทยผดุงครรภ์ไทย มาให้ความรู้อย่างใกล้ชิดกับตัวแทนกลุ่มเครือข่ายและประธานวิสาหกิจชุมชนจาก 18 อำเภอ ๆ ละ 2 คน เพื่อจะนำเอาข้อมูลข่าวสารและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปลูกกัญชาไปบอกกล่าวกับประธานตำบล และ หมู่บ้านต่าง ๆ ของจังหวัดสกลนครต่อไป ผศ.ดร.อานนท์ แสนน่าน ผอ.ศูนย์การเรียนรู้วิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์แพทย์ไทย ได้เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้เผยแพร่สื่ออินโฟกราฟฟิก ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับผู้มีสิทธิ์ขออนุญาตผลิต นำเข้า และส่งออก “กัญชา” ซึ่งกฎหมายอนุญาตไว้ 7 กลุ่ม ดังนี้ 1. หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย หรือจัดการเรียนการสอนทางการแพทย์ เภสัชกรรม วิทยาศาสตร์ เกษตรศาสตร์ หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด สภากาชาด 2. ผู้ประกอบการวิชาชีพเวชกรรม เภสัชกรรม ทันตกรรม สัตวแพทย์ หรือแพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้าน ตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กำหนด 3. สถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย และจัดการเรียนการสอนด้านการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์ 4. เกษตรกรที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์การเกษตรซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมายและร่วมกันดำเนินการกับหน่วยงานรัฐ หรือสถาบันอุดมศึกษา 5. ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ 6. ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องพกพาติดตัวเพื่อใช้รักษาโรค 7. ผู้ขออนุญาตอื่นๆ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตที่ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ เป็นบุคคลธรรมดาต้องมีสัญชาติไทยและมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย กรณีเป็นนิติบุคคลต้องจดทะเบียนตามกฎหมายไทย และกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 ใน 3 ต้องมีสัญชาติไทยและมีสำนักงานในประเทศไทย ผศ.ดร.อานนท์ กล่าวอีกว่า กฎหมายที่รัฐบาลนี้ประกาศบังคับใช้เมื่อเร็วๆ นี้ ประชาชนปลูกไม่ได้ ใช้ไม่ได้ และเชื่อว่าหลายๆ คนที่สนใจเรื่องประโยชน์ของกัญชา ก็รู้ดีว่า กฎหมายฉบับนี้ ยังปิดกั้นประชาชน ไม่ให้เข้าถึงกัญชา ทั้งในฐานะพืชสมุนไพร และพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าหลายแสนล้านบาทในต่างประเทศ ไม่ทราบว่า เบื้องหน้า เบื้องหลังของกฎหมายฉบับนี้ ว่า ทำไมต้องปิดกั้นสิทธิของประชาชน ทำไมต้องมีแต่หน่วยงานของรัฐ ที่ทำได้ หรือ ร่วมลงทุนกับเอกชนได้ หรือ อนุมัติให้เอกชนทำได้ ซึ่งจะไม่แตกต่างจากการให้สัมปทาน และ นำไปสู่การผูกขาดกัญชา “จะมีก็แต่ บริษัทยักษ์ใหญ่ หรือ นายทุนที่มีเงินทุนเป็นร้อยล้าน พันล้าน ไม่กี่รายเท่านั้น ที่จะทำตามเงื่อนไขได้ สุดท้ายกัญชา ก็จะเป็นธุรกิจสัมปทาน ผูกขาด เหมือน สัมปทานเหล้า ในที่สุด วันนี้ นายทุนที่ได้สัมปทานเหล้า รวยหลายแสนล้านบาทวันนี้ ชาวไร่ชาวนา ต้องแอบต้มเหล้ากิน เพราะไม่มีเงินซื้อ แต่ถ้าถูกจับ มีโทษทั้งจำ ทั้งปรับวันหนึ่ง ธุรกิจกัญชา ก็จะไม่แตกต่างจากนี้ จำเป็นที่พวกเราคือประชาชน และ เกษตรกร ที่ทำการเกษตรมาตั้งแต่กำเนิด ก็อยากจะเป็นคน "ปลูกกัญชา" เองและ "ทำยาเอง" และตอนนี้ทาง "เครือข่ายวิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์แพทย์ไทย ก็กำลังจะทำ MOU กับทางมหาวิทยาลัยของรัฐเพื่อปฏิบัติตามกรอบข้อกฎหมาย พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกัญชา 2562