У нас вы можете посмотреть бесплатно 'ศิริกัญญา' ชี้รัฐประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไปหลัง 'ทรัมป์' ประกาศ 'วันปลดแอก' สหรัฐฯใช้มาตรการเก็บภาษี или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน เผยว่าการที่ “ทรัมป์” ประกาศเรียกเก็บภาษี เป็นเรื่องช็อกโลกเหมือนกัน เชื่อว่าไม่ว่าใครก็ไม่คิดว่าการขึ้นภาษีจะสูงขนาดนี้ ซึ่งในบางประเทศถึง 49 % ไม่ใช่สูงแค่ประเทศไทย และเรื่องนี้มองบวกได้ยากว่าโดนกันทั้งโลก เพราะเขาพูดชัดเจน ว่าไม่ใช่แค่ลดการขาดดุลการค้าอย่างเดียว แต่วัตถุประสงค์หลัก เขาพูดชัดเจนว่าอยากให้นักลงทุนย้ายฐานกลับอเมริกา ไม่เหมือนตอนสมัยทรัมป์หนึ่ง เราอาจจะได้ผลพวงแง่บวก มาจากการย้ายฐานการผลิตมาจากจีน และที่สำคัญ เขามีนโยบายที่จะลดภาษีเงินได้ภายในประเทศ เขาจึงต้องการรายได้ทดแทน มองบวกได้ค่อนข้างยาก ยกเว้นจะมีบางสินค้าที่จะไม่โดนเก็บ 36 โดยจะมีประมาณ 6 รายการ ได้แก่ วัสดุสิ่งพิมพ์ที่จะให้ข้อมูลต่าง ๆ เหล็กยานยนต์ ทองแดง ยา เซมิคอนดักเตอร์ ไม้ สินค้าที่โดนกำแพงภาษีในด้านอื่น ทองดำ พลังงาน แร่ที่ไม่มีในสหรัฐ ถ้าดูจากฐานการผลิตในไทย ตัวที่น่าจะได้ประโยชน์จริง ๆ ก็คือเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งก็ได้ประโยชน์ทั่วโลก แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาของรัฐบาลไทย ว่าจะลดเรียกได้มากแค่ไหน แต่ภาคการเกษตรหนักแน่ ๆ แม้เราไม่ได้ส่งออกไปสหรัฐมากเท่าไหร่ แต่ยังไงเกษตรกรโดนผลกระทบแน่นอน ถ้าหากมองภาพก่อนเจรจา สิ่งที่โดนหนักคือ สินค้าที่ส่งออกหลัก รวมทั้งการลงทุน ตอนนี้เรียกได้ว่าฝุ่นยังตลบค่อนข้างมาก การลงทุนอาจจะเปลี่ยนแผน หรือหยุดชะงัก ต้องรอให้ฝุ่นหายตลบก่อน จึงจะมีการตัดสินใจที่จะลงจริง ๆ ซึ่งวันนั้นก็ไม่แน่ใจว่าเราจะยังคงมีแต้มต่ออะไรที่ดึงดูดนักลงทุน เนื่องจากถ้าเทียบในภูมิภาค เราถูกจัดเก็บภาษีค่อนข้างสูง ตอนนี้ฝุ่นยังตลบอยู่ แต่จะตลบนานมั้ย ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะ take action เร็วไหม เพราะกำแพงภาษีจะขึ้นเสาร์นี้แล้ว 10% ส่วนที่เหลือจะเริ่ม 9 เม.ย. อันนี้ก็เป็นไทม์ไลน์เร่งด่วน เพราะกว่าจะเจรจาเสร็จ เราคงต้องอยู่กับเรตนี้ไปสักพัก ซึ่งส่งผลกระทบกับการส่งออกและตัดสินใจลงทุนแน่นอน ทางแรกคิดว่าไม่มีทางออกที่ง่าย เราจำเป็นต้องเร่งเจรจา เฉพาะหน้าต้องมีการอุทธรณ์ ชี้แจงว่าเราไม่ได้เก็บภาษีสูงถึง 72 % แน่ ๆ คิดว่าตัวเลขไม่สมเหตุสมผล หลายคนพยายามคำนวณ ปรากฏว่าเป็นสัดส่วนของการขาดดุลของสหรัฐเอง ที่เอามาใช้เป็นอัตราภาษี ดังนั้นเราต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อม จากนั้นคิดว่าก็ต้องป้องกันผลกระทบที่จะเกิดในระลอกที่ 2 ถ้าดูจะเห็นว่าจีนถูกเก็บ 54 % ดังนั้นสินค้าจีนที่เคยคิดว่าจะเข้าอเมริกาจะไปไหนเสีย นอกจากไหลมาสู่ประเทศที่ยังเปิดรับอยู่ ซึ่งไทยก็เปิดรับนำเข้าสินค้าจากจีนจำนวนมากอยู่แล้ว แทบไม่สามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าจากจีนได้อยู่แล้ว ตรงนี้คงต้องยกการ์ดให้สูงขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบ สุดท้ายคงจะต้องกระจายความเสี่ยง ไปหาตลาดการค้าอื่น ๆ ก็เข้าใจว่าการเจรจา FTA ของไทยกับอียู ก็คงจะมีประโยชน์มากขึ้นในช่วงนี้ เพราะอียูก็โดน ดังนั้นก็น่าจะเจรจาให้บรรลุข้อตกลงได้เร็วขึ้น ถ้าเราทำได้ตามที่อียูกำหนดมา นางสาวศิริกัญญา ยังเผยอีกว่า การขึ้นภาษี 36 % ขึ้นพร้อมกันทุกสินค้า คือไม่ได้เป็นการกำหนดอัตราภาษีรายเซ็กเตอร์ แต่ขึ้น 36 % เท่ากันหมด เป็นออนท็อป คือถ้าปัจจุบันเรียกเก็บภาษีอยู่ 5- 10 % อยู่แล้ว ก็คือบวกเพิ่มเข้าไป ซึ่งอันนี้พิจารณาจากที่จีนโดน และทางทำเนียบขาว ยืนยันมาแล้วว่า ที่จีนโดนไปแล้วก่อนหน้านี้ 20 % และโดนอีก 34 % ให้ก็ให้รวมกันเป็น 54 % ดังนั้นจึงคิดว่า น่าจะเป็นออนท็อป ไม่คิดว่าจะได้แยกย่อยรายสินค้า ซึ่งการเจรจาต้องใช้เวลานานมาก รวมทั้งต้องต่อคิวด้วย เพราะว่าโดนกัน 90 ประเทศทั่วโลก ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อไปเจรจา ต้องเตรียมความพร้อมไปว่าจะใช้อะไรแลกกับอะไร นอกเหนือไปจากการช่วยลดอัตราภาษี ในหลาย ๆ ตัวที่มีคนเคยพูดถึง มันเป็นงานครอบจักรวาล และ “ดิฉันคิดว่ารัฐบาลค่อนข้างนิ่ง และอาจจะประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไปว่าผลกระทบจะไม่ค่อยมี สังเกตจากที่ กระทรวงพาณิชย์ออกมาพูดเมื่อวาน เรายังไม่ค่อยรู้สึกว่ามีความพร้อมรับมือเรื่องนี้ และสิ่งที่ทุกคนคิดว่า อาจจะขึ้นแค่ 10 % แต่เมื่อขึ้นจริง 36 % เราค่อนข้างกังวลว่าพาณิชย์จะพร้อมสำหรับการเจรจาแค่ไหน” ตอนแรก worst-case ที่คิดกันก็คิดว่าไม่น่าจะเกิน 25 % ด้วยซ้ำ เพราะเราไม่ได้เก็บภาษีนำเข้าอเมริกาสูงขนาดนั้น ยืนยันว่า ไม่ใช่ 72 % แน่นอน เราคิดเฉลี่ยอยู่ที่ 10 % เท่านั้นเอง มีภาคการเกษตรสูงหน่อย 21 % จึงไม่ได้อยู่ในไอเดียเลยว่า จะถูกเก็บภาษีสูงถึง 36 % และแม้แต่หลาย ๆ ประเทศที่เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว ก็ไม่รอด เบื้องต้นยังไม่เห็นรูปธรรมชัดเจนว่า รัฐบาลจะรับมือยังไง ซึ่งก่อนหน้านี้ไปคุยสหรัฐฯ มาแล้วรอบนึง แต่อย่างที่เห็นว่า แสดงว่าการเจรจาไม่เป็นผลบวก ทำให้ต้องเจอภาษีสูงขนาดนี้ และหลังจากนี้ก็ยังไม่เห็นการรับมือชัดเจน ซึ่งรัฐบาลบอกไม่สามารถเปิดรายละเอียดการเจรจาได้ เพราะเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งคิดว่าเราอาจจะโยนหินถามทาง ถามทุกภาคส่วนให้รอบด้าน เพราะรอบนี้มันหนักมากจริง ๆ รวมทั้งกังวลเรื่องระลอกที่ 2 เพราะเศรษฐกิจโลกหดตัวแรง รวมทั้งสินค้าจีนทะลักเข้าไทย อาจทำให้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยเช่นเดียวกัน และก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลเผยว่าจีดีพีปีนี้โต 3 % คาดว่าไม่น่าจะถึงแล้ว ยิ่งถ้าการเจรจายืดเยื้อ ยาวนาน ไม่เป็นผล จีดีพี อาจจะโตต่ำกว่า 2 % ส่วนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เราจะรอจนถึงสร้างเสร็จได้ใช่มั้ย ปี 73-75 แม้เอาไปเป็นหนึ่งในข้อเจรจา มันเปลี่ยนเกมไม่ได้จริง แม้การท่องเที่ยวอาจจะมากขึ้น แต่คิดว่ามันไม่สามารถเปลี่ยนเกมได้ มันมาแต่เงินลงทุน-ภาคก่อสร้าง แต่ไม่ได้#กรรมกรข่าวคุยนอกจอ #สรยุทธสุทัศนะจินดา #คุยนอกจอ #รัฐบาล #แพทองธาร #ทักษิณ #เศรษฐกิจ #ต่างประเทศ #ทรัมป์ #ภาษี #ส่งออกต่างประเทศ#จุลพันธ์#พรรคประชาชน #ศิริกัญญา