หมอญี่ปุ่นแนะนำ : เมล็ด 4 ชนิดที่ควรกินประจำ และ 4 ชนิดที่ควรเลี่ยงในวัย 60+ | สูงวัย ใกล้หมอ скачать в хорошем качестве

หมอญี่ปุ่นแนะนำ : เมล็ด 4 ชนิดที่ควรกินประจำ และ 4 ชนิดที่ควรเลี่ยงในวัย 60+ | สูงวัย ใกล้หมอ

คุณรู้ไหมว่าเมล็ดที่เรากินทุกวัน บางชนิดกลับอันตรายสำหรับผู้สูงอายุ? 😱 วันนี้ลุงหมอมาโกะโตะจะมาเปิดเผย 4 เมล็ดที่ควรกิน (เมล็ดงา ฟักทอง เจีย บัว) และ 4 เมล็ดที่ต้องหลีกเลี่ยง (ทานตะวันเค็ม ถั่วลิสงเค็ม แตงโม มะม่วงหิมพานต์ดิบ) พร้อมวิธีกินที่ถูกต้อง ปลอดภัย และเหมาะกับคนวัย 60+ โดยเฉพาะ! ในคลิปนี้คุณจะได้เรียนรู้: เมล็ดงามีแคลเซียมสูงกว่านมถึง 8 เท่า 💪 | เมล็ดฟักทองช่วยผู้ชายเรื่องต่อมลูกหมาก | เมล็ดเจียต้องแช่น้ำก่อนเสมอ (ไม่งั้นอันตราย!) ⚠️ | ทำไมเมล็ดทานตะวันเค็มคือ "ระเบิดโซเดียม" | คนเบาหวาน ความดันสูง กระดูกพรุน ควรกินเมล็ดอะไร 🏥 ข้อมูลทุกอย่างมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ดูจบแล้วเริ่มดูแลตัวเองได้เลย! 🌟 🩺 ถ้าชอบแนวนี้ ฝากกดติดตามกันได้เลยนะคะ หรือถ้าใครมีเรื่องสุขภาพแบบไหนที่อยากฟัง ลองเม้นท์คุยกันได้ พวกเราอ่านทุกข้อความค่ะ 😊 🎈บทความ/งานวิจัยอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ 1. เมล็ดเจีย (Chia Seeds) กับโรคเบาหวาน Title: "Salba-chia (Salvia hispanica L.) in the treatment of overweight and obese patients with type 2 diabetes: A double-blind randomized controlled trial" 2. เมล็ดฟักทอง (Pumpkin Seeds) กับต่อมลูกหมาก Title: "Effects of pumpkin seed in men with lower urinary tract symptoms due to benign prostatic hyperplasia in the one-year, randomized, placebo-controlled GRANU study" 3. เมล็ดงา (Sesame Seeds) กับแคลเซียม Title: "USDA National Nutrient Database for Standard Reference - Sesame Seeds, whole, dried" ⚠️คำชี้แจงสำคัญสำหรับผู้ชมทุกท่าน: 1. ในคลิปอาจมีการพูดถึงแนวทางดูแลสุขภาพ การตรวจรักษา หรือผลิตภัณฑ์บางอย่าง แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนควรทำตามนะครับ เพราะร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกัน หากต้องการปรับใช้กับตัวเอง ควรปรึกษาผู้ให้การดูแลด้านสุขภาพที่รู้จักประวัติเฉพาะบุคคลจะดีที่สุด 2. หากมีอาการที่น่าสงสัย หรืออาจเข้าข่ายเหตุฉุกเฉิน อย่าชะลอการขอความช่วยเหลือ และอย่าใช้ข้อมูลในคลิปแทนการประเมินจากบุคลากรทางการแพทย์ แนะนำให้โทรติดต่อคนใกล้ชิดที่ไว้ใจได้ หรือหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน 1669 ศูนย์เนรนทร ทันที 3. ตัวละครที่ปรากฏในคลิปนี้เป็นบุคคลสมมติ ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเล่าเรื่องจากข้อมูลทางการแพทย์จริงในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลจริง และไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ตัวจริงแต่อย่างใด 4. สิ่งที่ตัวละครในคลิปพูดคุยกัน อ้างอิงจากข้อมูลทางสุขภาพและประสบการณ์ที่พบได้จริงในสังคม แต่ไม่ได้เป็นคำวินิจฉัยหรือคำแนะนำเฉพาะเจาะจง ผู้ชมสามารถใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการเรียนรู้ และควรนำไปพูดคุยกับผู้ดูแลสุขภาพที่ไว้ใจได้ก่อนตัดสินใจใด ๆ 5. คลิปนี้ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างเสียงพากย์ บทพูด และการเล่าเรื่อง เพื่อให้เนื้อหาฟังเข้าใจง่ายและเข้าถึงได้มากขึ้น ผู้ชมควรใช้ข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ และไม่ควรใช้แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่รู้จักสุขภาพของคุณโดยตรง