У нас вы можете посмотреть бесплатно บุหลันเถา : ปี่พาทย์เสภา คณะครูสุรเดช กิ่มเปี่ยม или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
บุหลันเถา : ปี่พาทย์เสภา คณะครูสุรเดช กิ่มเปี่ยม ปี่ใน : ครูสุรพล หนูจ้อย ระนาดเอก : ครูสุรเดช กิ่มเปี่ยม ระนาดทุ้ม : ครูเผชิญ กองโชค ฆ้องวงใหญ่ : ครูสาธิต แสงบุญ ฆ้องวงเล็ก : ครูศักดิ์ชัย ลัดดาอ่อน กลองสองหน้า : ครูสมพงษ์ นุชพิจารณ์ ฉิ่ง : ครูอุทัย ปานประยูร การแสดงบรรเลงปี่พาทย์เสภารายการดนตรีไทยพรรณนา ตอน เสือ สิงห์ กระทิง แรด จัดการแสดงเมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๒๓ ณ โรงละครแห่งชาติ ซึ่งประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการจัดปี่พาทย์ประชันวง รายการประชันนี้มีอาจารย์เสรี หวังในธรรม เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ซึ่งเป็นการประชันวงบรรเลงเพลง ๔ ช่วง คือ โหมโรง เพลงเถา เดี่ยวเครื่องมือ และเพลงลา โดยมีวงดนตรีที่ประชันกันในครั้งนั้นทั้งหมด ๔ วง ประกอบด้วย ๑.วงครูสุพจน์ โตสง่า ๒.วงครูสุรเดช กิ่มเปี่ยม ๓.วงครูพัฒน์ บัวทั่ง ๔.วงครูเมธา หมู่เย็น ประวัติเพลงบุหลันเถา - เพลงบุหลันเดิมเป็นเพลงอัตราจังหวะสองชั้นทำนองเก่า นิยมนำไปบรรเลงและขับร้องประกอบการแสดงละครนอก ไม่นิยมใช้กับละครในหรือโขน เป็นเพลง ๒ ท่อนสั้นๆ เดิมเรียกชื่อว่า เพลงชกมวย ต่อมาครูทัต นักดนตรีในวงดนตรีของสมเด็จ เจ้าพระยาบรมมหาสุริยวงศ์ ได้แต่งขยายเป็นอัตราจังหวะสามชั้นเมื่อสมัยรัชกาลที่ ๕ โดยรวบทำนองเพลงชกมวยอัตราจังหวะสองชั้นซึ่งมี ๒ ท่อนให้เป็นเพลงท่อนเดียว และนำทำนองใบ้คลั่งท่อนที่ ๓ มาดัดแปลงทำนองใหม่ให้เป็นท่อน ๒ เรียกชื่อใหม่ว่า เพลงบุหลัน ครั้งต่อมา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงนำเพลงบุหลันสามชั้นของครูทัต มาดัดแปลงทำนองและเปลี่ยนเสียงใหม่เพื่อให้เหมาะกับการบรรเลงด้วยแตรวง ทรงพระนิพนธ์เพลงนี้เมื่อยังดำรงพระยศเป็นเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ ราว พ.ศ.๒๔๕๖ ถึง พ.ศ.๒๔๖๓ นอกจากนี้ยังมีนักดนตรีนำเพลงบุหลันชกมวยสามชั้นของครูทัต ไปแต่งตัดเป็นอัตราจังหวะสองชั้นและชั้นเดียว ครบเป็นเพลงเถาหลายทางด้วยกัน คือ ๑.ทางพระเพลงไพเราะ (โสม สุวาทิต) แต่งเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕ ๒.ทางวังบูรพา คุณหญิงชิ้น ศิลปบรรเลง อธิบายว่า หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) แต่งเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๕ ขณะที่อายุ ๒๕ ปี โดยแต่งทั้งเที่ยวแรกและเที่ยวกลับทางเปลี่ยน ๓.ทางวังบางขุนพรหม จางวางทั่ว พาทยโกศล แต่งเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๓ ในอัตราจังหวะสามชั้นเที่ยวแรกแต่งโดยดำเนินลีลาตามแนวของครูทัต เที่ยวกลับได้แต่งเปลี่ยนลีลาใหม่ ในอัตราจังหวะสองชั้น แต่งให้มีสำเนียงเขมร ส่วนในอัตราจังหวะชั้นเดียวโดยแต่งให้มีสำเนียงลาว บทร้องบุหลันเถา - สำหรับบทร้อง จากเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ ตอนท้าวดาหาและบริวารเสด็จกลับจากการแก้บนและเที่ยวชมวิลิศมาหราคีรี ในระหว่างทางเมื่อมืดลงดวงจันทร์ได้ส่องแสงโชติช่วงอยู่เบื้องบน เบื้องล่างมีแสงโคมส่องทางสว่างไสว ระเด่นบุษบาประทับมาในราชรถคันหนึ่ง เผยม่านออกชมแสงจันทร์อย่างเพลิดเพลิน หาทราบไม่ว่าอิเหนากับสี่พี่เลี้ยงได้ปลอมตัวเป็นอำมาตย์ขับขี่ม้าวนเวียนอยู่ในขบวนใกล้ราชรถนั้น . สามชั้น ท่อน ๑ - ครั้นค่ำสนธยาราตรีกาล จึงเผยม่านออกชมแสงบุหลัน สามชั้น ท่อน ๒ - ทรงกลดหมดเมฆอยู่พรายพรรณ แสงจันทร์จับแสงรถทรง สามชั้น ท่อน ๓ - แสงโคมประทีปทองส่องสว่าง กระจ่างจับพุ่มไม้ไพรระหง สามชั้น ท่อน ๔ - พวงพยอมหอมหวลลำดวนดง สายหยุดประยงค์โยทะกา สองชั้น ท่อน ๑ - หอมกลิ่นกล้วยไม้ที่ใกล้ทาง ตรัสบอกบาหยันพลางแล้วแลหา สองชั้น ท่อน ๒ - ลมหวนอวลกลิ่นสุมาลย์มา ระคนกลิ่นบุหงาร่ำไป สองชั้น ท่อน ๓ - เรไรจักจั่นสนั่นเสียง เพราะเพียงดนตรีปี่ไฉน สองชั้น ท่อน ๔ - บุหรงร้องพร้องเพรียกพงไพร ฟังเพลินเจริญใจไปมา ชั้นเดียว ท่อน ๑ - เมื่อเอยเมื่อนั้น ระเด่นมนตรีในกล้า ชั้นเดียว ท่อน ๒ - เป็นทัพหลังรั้งพลโยธา เวลาค่ำคำนึงถึงเทวี ชั้นเดียว ท่อน ๓ - จึงปลอมแปลงเป็นอำมาตย์ ชวนพี่เลี้ยงราชทั้งสี่ ชั้นเดียว ท่อน ๔ - ทรงสินธพชาติพาชี ฝ่าพลมนตรีขึ้นมา. (ที่มาข้อมูลการบรรเลง : อาจารย์อานันท์ นาคคง ที่มาประวัติเพลง : อาจารย์สมพล อนุตตรังกูร) เทปเสียงนี้ ได้บันทึกเสียงจากการออกอากาศสดทางรายการวิทยุ ประมาณปี พ.ศ.๒๕๔๗ ที่มาภาพถ่าย : เพจปี่พาทย์ธนากร คีตการ สำเนาเสียงจากเทปคาสเซ็ท : ฉัตรกร เกตุมี เพื่อการเผยแพร่อนุรักษ์เพลงไทยในการศึกษา มิได้มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์และแสวงหารายได้ ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ : / @deklenkhimchannel7019