บอนกระดาดด่าง ไม้ด่าง เลี้ยงง่าย สดใส งามตา สุขภาพต้นแข็งแรง скачать в хорошем качестве

บอนกระดาดด่าง ไม้ด่าง เลี้ยงง่าย สดใส งามตา สุขภาพต้นแข็งแรง

บอนกระดาดด่าง บอนกระดาดยักษ์ด่าง ๐ ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Alocasia macrorrhizos 'Variegata' ชื่อสกุล “Alocasia” มาจากคำในภาษากรีก “ปราศจาก” ในที่นี้ต้องเชื่อมโยงกับคำเดิมคือ “kolokāsiā” ซึ่งหมายถึง “รากของบัว” ในที่นี้ระบุถึง Alocasia ไม่เหมือนกับ “Colocasia” ชื่อ ชนิดพันธุ์ “macrorrhizos” มาจากคำในภาษากรีก “macro” “ใหญ่” และ “rrhiza” “ราก” ในที่นี้สัณฐานของเหง้า (Rhizomes) ที่มีขนาดใหญ่ ๐ ชื่อสามัญ (Common Name): Giant elephant's ear, Giant taro,Upright elephant ears ๐ ชนิด (Type): ไม้เนื้ออ่อนมีอายอยู่ได้หลายปี (Herbaceous perennial) พืชหัว (Bulb) ๐ วงศ์ (Family): Araceae ๐ ถิ่นกำเนิด (Native Range) : เขตป่าฝนในหมู่เกาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาเลเซีย ออสเตรเลีย เกาะนิวกินี ๐ ความสูงของทรงพุ่ม (Height) : 3-4.5 เซนติเมตร ๐ ความกว้างของทรงพุ่ม: 1.8-2.5 เซนติเมตร ๐ ระยะเวลาดอกบาน (Bloom Time): ออกดอกเป็นช่อดอกแบบเชิงลดมีกาบสีเหลืองอมเขียวหุ้ม ออกตามปลายยอด ออกดอกตามฤดูกาล ดอกจะบานจากโคนไปหาปลายช่อ ดอกแยกเพศอยู่ในช่อเดียวกัน ผลเป็นสีเขียว เมื่อสุกมีสีส้มแดง ๐ ความต้องการแสง (Sun): แดดบางส่วนของวัน (Part shade) ได้รับแสงโดยตรง 4 ถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน ควรจะเป็นแดดอ่อน (Cool sun) ในช่วงเช้า พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดเข้มในช่วงบ่าย ๐ ความต้องการน้ำ (Water): ปานกลาง ถึง มาก เติบโตได้ดีในวัสดุที่มีความชื้นสูงจนถึงเปียก ๐ การดูแลรักษา (Maintenance): ต่ำ เนื่องจากมีแนวโน้มใบล่างอยู่เนือง ๆ ควรมีการตัดแต่งใบล่างที่เหลืองและไม่สวยงามออก เพื่อไม่ให้ลุกลามและสร้างความไม่สวยงาม ๐ การใช้งานที่แนะนำ (Suggested Use): ปลูกเป็นไม้โชว์ในพื้นที่ร่มบางส่วน สามารถปลูกลงดินโดยตรงและปลูกเป็นไม้กระถางขนาดใหญ่ ๐ ใบไม้ (Leaf): มีลำต้นและเหง้าใต้ดินช่วยในการแตกกอออกไปด้านข้างได้เป็นอย่างดี ก้านใบอวบน้ำ มีใบเดี่ยวรูปหัวใจ ขอบใบหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย ปลายใบมน เส้นใบชัด ใบสีเขียวเข้มจนถึงสีเขียวอ่อน สลับสีขาว ลายด่างขาวตละทั้งใบ ก้านใบมีลายด่างขาวตามยาวของก้านใบ ๐ การเพาะปลูก (Culture) เป็นต้นไม้ที่มีความชื่นชอบดินปลูกที่มีอินทรีย์วัตถุสูงสามารถเก็บรักษาความชื้นได้ดีโดยรักษาความชื้นได้ในระดับเปียก ในธรรมชาติมักพบขึ้นในพื้นที่น้ำท่วมถึง เติบโตได้ดีในพื้นที่ร่มบางส่วนหรือมีการกลางแสงแดดก่อนตกกระทบถึงใบ พึงหลีกเลี่ยงการได้รับแสงแดดตกกระทบโดยตรงซึ่งทำให้ใบมักจะไหม้เกรียม ในทางกลับกันหากปลูกในพื้นที่ร่มมาก ก้านใบอ่อนตัวลงและไม่สามารถรองรับน้ำหนักใบได้ ขยายพันธุ์ด้วยกันเป็นหน่อ แบ่งหัวหรือเหง้า ๐ ปัญหา (Problems) ระมัดระวังการเข้าทำลายใบโดยเพลี้ยแป้งและไรแดง หรือไรแมงมุม และระมัดระวังการปลูกในพื้นที่ลมแรงจะสร้างปัญหาตีใบให้ฉีกขาดไม่สวยงาม ในบางฤดูกาลที่มีน้ำน้อย อาจเห็นการพักตัวโดยฟุ๊บใบลงทั้งหมด เป็นพืชที่มีแคลเซี่ยมออกไซด์เลทอยู่ในลำต้นและใบ ในบางพื้นที่มีการรับประทานด้วยควรต้องมีวิธีการจัดการกับ แคลเซี่ยมออกไซด์เลทเสียก่อน