У нас вы можете посмотреть бесплатно Podcast รู้ทันความรู้สึกของตัวเอง โดย หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดเขาบางทราย или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
อย่างพวกเราจำนวนมากบอก นั่งสมาธิแล้วไม่สงบสักทีเลย ก็นั่งผิด นั่งอยากสงบ มันไม่สงบหรอก เหมือนเราอยากนอนหลับ มันไม่หลับหรอก ยิ่งกลุ้มใจหนักเข้าไปอีก นอนไม่หลับ จิตก็เหมือนกัน เราไปภาวนา เราอยากสงบ แล้วมันไม่สงบหรอก ยิ่งโมโห หงุดหงิดตัวเองมากขึ้นไปอีก ฉะนั้นเรานั่งสมาธิ หรือเราเดินจงกรม อย่าไปมุ่งที่สงบ แต่มุ่งที่รู้ทันความรู้สึกของตัวเอง เรานั่งสมาธิไป จิตใจเราฟุ้งซ่าน ให้รู้ว่าฟุ้งซ่าน นั่งสมาธิไป จิตใจเราสงบ ให้รู้ว่าสงบ พอมันฟุ้งซ่าน รู้ว่าฟุ้งซ่านแล้ว เกิดรำคาญใจ หงุดหงิด รำคาญ ให้รู้ที่รำคาญ ที่หงุดหงิดนี้ มันเปลี่ยนอารมณ์ ทีแรกเราจะนั่งสมาธิ อยากสงบแล้วไม่สงบ ใจมันฟุ้งซ่าน ความฟุ้งซ่านกลายเป็นของถูกรู้ จิตไปรู้ว่าตอนนี้ฟุ้งซ่าน ถ้าอย่างนี้ ความฟุ้งซ่านจะดับทันทีเลย แต่คนทั่วไป พอฟุ้งซ่านแล้ว ไม่รู้ว่ากำลังฟุ้งซ่าน คิดว่าทำอย่างไรจะสงบ ทำอย่างไรสงบ ยิ่งฟุ้งซ่านกว่าเก่า ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งรำคาญ เรียกฟุ้งซ่าน แล้วก็รำคาญใจ ฟุ้งซ่านเรียกว่าอุทธัจจะ รำคาญใจเป็นกิเลสอีกตัวหนึ่งชื่อกุกกุจจะ ฟุ้งซ่านมันเป็นโมหะ พอฟุ้งซ่านเกิดแล้วเราก็หงุดหงิด อันนี้เป็นโทสะ เห็นไหม จิตมันทำงานต่อกันเป็นช็อตๆ ไปเรื่อยๆ เราไม่ห้าม จิตฟุ้งซ่านรู้ว่าฟุ้งซ่าน ถ้าเกิดอยากหายฟุ้งซ่าน รู้ว่าอยาก รู้ทันจิตใจตัวเองไปเรื่อยๆ อย่างที่มันกำลังเป็น จิตฟุ้งซ่านรู้ว่าฟุ้งซ่าน ไม่ชอบ รำคาญ รู้ว่าไม่ชอบ รู้ว่ารำคาญ อยากให้จิตสงบ ไม่อยากฟุ้งซ่าน รู้ว่าอยากสงบ รู้ว่าไม่อยากฟุ้งซ่าน นี่คือการอ่านจิตตนเอง จิตมันก็ทำงานไปตามธรรมชาติ แล้วมันก็ปรุงสุข ปรุงทุกข์ ปรุงดี ปรุงชั่ว ไปตามเรื่องของมัน หน้าที่เราคืออ่านจิตใจตัวเองให้ออก กระทบอารมณ์แล้ว กระทั่งนั่งสมาธิก็ต้องรู้ทัน นั่งสมาธิแล้วจิตใจฟุ้งซ่าน ความฟุ้งซ่านเป็นสิ่งที่ถูกรู้ เราก็รู้ว่าจิตมันฟุ้งซ่าน เราเป็นแค่คนดู พอฟุ้งซ่านแล้ว เรารำคาญใจ เราก็รู้ว่ารำคาญใจ รู้ไปทีละขณะๆ แล้วถ้าหากเรารู้อย่างแท้จริง สติของเราถูกต้องแท้จริง ทันที่ที่เราระลึกรู้สภาวะของกิเลส เราไม่ต้องดับกิเลส กิเลสจะดับเองทันที อย่างเวลาเราโกรธ แล้วเราเกิดนึกขึ้นได้ เฮ้ย ตอนนี้โกรธ ความโกรธจะดับทันที ไม่ต้องดับ เพราะฉะนั้นการดูจิต เราไม่ได้ดูเพื่อละกิเลส เพราะถ้าเมื่อไรมีสติ รู้ทันจิตใจตัวเอง มันไม่มีกิเลสจะให้ละ เพราะฉะนั้นเราเจอกิเลส เรื่องเล็กมากเลย มีสติรู้ปุ๊บ กิเลสดับเองเลย ไม่ต้องหาทางละกิเลส อย่างเวลาจิตใจเรามีราคะ เกิดความต้องการทางเพศรุนแรง คนภาวนาไม่เป็น อย่างพวกพระบวชใหม่ๆ ภาวนายังไม่เป็น จิตมีราคะก็พยายามข่มมัน พยายามข่ม พยายามห้ามมัน แต่ถ้าเราดูจิตเป็น จิตมีราคะเราจะเห็นเลย ราคะมันผุดขึ้นมา ราคะไม่ใช่จิต ราคะเป็นความรู้สึกอันหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในจิต ไม่ใช่จิตหรอก จิตเป็นแค่คนเห็น ถ้าจิตเรามีสติรู้อย่างนี้ปั๊บ ราคะดับทันทีเลย เพราะฉะนั้นการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เราไม่ละกิเลส กิเลสมันดับเอง เพราะเรามีสติ จิตมีราคะรู้ว่ามีราคะ สติจะดับเอง อย่าถ่ายรูป กวนสมาธิ ค่อยๆ ฝึก ฝึกไปเรื่อยๆ อย่างพอหลวงพ่อบอกหนุ่มคนนั้น บอกว่าอย่าเพิ่งถ่ายรูป รู้สึกไหม ใจเราที่กำลังตั้งใจฟังธรรม ฉกไปหาเขาทันทีเลย เอ๊ะ ใครๆ ใจเราวอกแวกเลย ทำอย่างไร ใจมันวอกแวก รู้ว่าใจมันวอกแวกไปแล้ว ไม่ใช่ว่า อุ๊ย มันอยากไปรู้แล้ว อย่าไปอยาก อย่าไปอยากดู อย่าไปอยากดูว่า คนไหนถ่ายรูปอะไรอย่างนี้ อันนี้ไม่ใช่ ใจมีความอยากรู้ เอ๊ะ ใคร อยากดูแล้ว อยากหันไปดู รู้ทันใจที่อยาก เพราะฉะนั้นหัดรู้ตัวนี้บ่อยๆ รู้ไปเรื่อยๆ แล้วเราจะพบว่า การปฏิบัตินั้นไม่ยาก หลวงปู่ดูลย์บอก การปฏิบัติไม่ยาก ยากเฉพาะคนที่ไม่ได้ปฏิบัติหรอก เราหัดปฏิบัติไปมันก็ไม่ยากหรอก อย่างโกรธแล้วรู้ว่าโกรธ ยากไหม ไม่ยาก แต่คนไม่ปฏิบัติ เวลาโกรธมันจะไปสนใจ สิ่งที่ทำให้โกรธ มันไม่สนใจว่าจิตกำลังโกรธ เห็นไหม มันไม่ได้ยากอะไรเลย อย่างเราขับรถอยู่ คนมาขับปาดหน้าเรา ในเมืองไทยนี้เยอะ ชอบขับรถปาดหน้า จิตมันก็เกิดความโกรธ พอจิตมีความโกรธ คนทั่วไปทำอย่างไร จะไปดูไอ้คันนี้ปาดเรา เดี๋ยวเราจะไปปาดคืนมัน แก้แค้น คนทั่วไปมันจะเป็นอย่างนั้น แต่เรา สำหรับพวกเราเป็นนักปฏิบัติ เราถูกปาดหน้าปุ๊บ ใจเราโกรธ เราเห็นใจกำลังโกรธ เราไม่สนใจคนโน้นแล้ว มันปาดหน้านั้นเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้มันไม่ได้ปาดแล้ว แต่ตอนนี้ปัจจุบันของเราคือเราโกรธ หัดรู้อย่างนี้ คนทั่วไปมันสนใจออกข้างนอก อย่างได้ยินเสียงเพลงเพราะๆ ถ้าอายุเยอะๆ ได้ยินเสียงเพลงสมัยเราเป็นหนุ่มเป็นสาว กำลังจีบสาว เพลงนี้ได้ยินแล้ว แหม มันซาบซึ้งถึงใจ คนทั่วไปมันจะไปคิดถึงอดีต ในขณะที่เรานักปฏิบัติ เราได้ยินเสียงเพลง ใจเรารู้สึกมีความสุขกับอดีต เรารู้ทันใจที่กำลังหลงอดีตอยู่ หัดอย่างนี้ หูได้ยินเสียง ตาเห็นรูป ความรู้สึกเกิดที่จิตใจ รู้ทัน หูได้ยินเสียง ความรู้สึกเกิดที่จิตใจ รู้ทัน จมูกได้กลิ่น ความรู้สึกเกิดที่ใจ รู้ทัน ถ้าเราได้กลิ่นเหม็น จิตใจจะมีความสุขหรือมีความทุกข์ ใครว่าได้กลิ่นเหม็น จิตใจมีความทุกข์ ยกมือขึ้นสิ พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนอย่างนั้น พระพุทธเจ้าสอนว่า ถ้าเราได้กลิ่นที่ไม่ชอบใจ เราจะมีความทุกข์ บางคนเหม็น บางคนตัวเหม็น แต่ว่าแฟนตัวเองคุ้นกับกลิ่นนี้ ถ้ามันไม่มีกลิ่นนี้ รู้สึกไม่มีความสุข พอได้กลิ่นอย่างนี้แล้วมีความสุข บางคนบ้านอยู่ริมคลอง แล้วคลองมันมีน้ำเน่าๆ ได้กลิ่นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก แล้วก็ไปอยู่ที่อื่นเสียนานเลย วันหนึ่งได้กลิ่นอย่างนี้ขึ้นมา มีความสุข มันเป็นกลิ่นที่ชอบใจ หอม เหม็น ไม่มีสภาวะที่จริงๆ หอมกับเหม็น ไม่ใช่สภาวธรรม ไม่ใช่สภาวธรรม อย่างทุเรียนหอมหรือเหม็น บางคนบอกหอม บางคนบอกเหม็น ไม่ใช่ของจริง ฉะนั้นความหอม ความเหม็น อยู่ที่ชอบไม่ชอบ เราได้อารมณ์ที่ชอบใจ ราคะมันจะเกิด ได้อารมณ์ที่ไม่ชอบใจ โทสะมันจะเกิด...