โรคเหี่ยวเขียวในพริก วิธีสังเกตุ​และป้องกันกำจัด скачать в хорошем качестве

โรคเหี่ยวเขียวในพริก วิธีสังเกตุ​และป้องกันกำจัด

โรคเหี่ยวเขียวของพริก วิธีสังเกตุและป้องกันกำจัด พริก ถ้าเอ่ยมาหลายๆคนคงคุ้นกันดีนะครับในนามของคนไทย ขึ้นชื่อว่ากินเผ็ดกันมากๆนะครับ และพริกก็ยังเป็นพืชผักที่นิยมปลูกกัน ในทุกๆครัวเรือน ไม่ว่าจะปลูกไว้ขาย จำหน่าย หรือว่าจะปลูกเป็นพืชผักสวนครัว ปลูกไว้ริมบ้านริมรั้ว ปลูกไว้กินเองในกระถางในคอนโดในอพาร์ทเม้นท์ นะครับ ซึ่งการปลูกพริกมันก็ไม่ได้ยากก็ไม่ได้ง่าย...ขึ้นอยู่กับการเอาใจใส่การดูแลของผู้ปลูกเอง บางคนปลุกแบบทิ้งๆขว้างๆรดน้ำที่ใส่ปุ๋ยที มันก็ได้อย่างที่เลี้ยงดูมันก็ได้อย่างที่เราปลูกกันนะครับ แต่ถ้าเราใส่ใจดูแล มันก็จะงอกงามตามที่เราดูแล แม้ว่าเราจะดูแลแปลงพริกของเราหรือกระถางพริกที่ปลูกไว้ในบ้านในคอนโดอย่างดีก็ตาม แต่พริกมันก็ยังเกิดขึ้นได้ยังระบาดขึ้นได้ และยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน ที่มีฝนตกแทบทุกวัน ทุกภาคของประเทศไทย เกษตรกรบางคนพบว่าต้นพริกของต้นมีอาการเหี่ยวที่ยอดในเวลากลางวัน ซึ่งอาการนั้นจะเป็นการเหี่ยวเฉพาะจุดเฉพาะต้น แม้ว่าพื้นดินมีความชุ่มน้ำอยู่ตลอด...แต่พริกก็ยังเหี่ยว..นั่นแหละครับคือสัญญาณบอกโรคเหี่ยวเขียวในพริกนะครับ ซึ่งโรคเหี่ยวเขียวในพริก เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ราสโตเนีย โซลาแนคเซรัม (Ralstonia solanacearum) ซึ่งความน่ากลัวของเจ้าแบคทีเรียสาเหตุของโรคเหี่ยวเขียว นั่นก็คือ เจ้าเชื้อแบคทีเรียตัวนี้มันอยู่ในดินได้หลายปี สามารถทำลายพืชของเรา ไม่ว่าจะเป็นพริก มะเขือ แตงกว าพืชผักต่างๆนะครับ อีกทั้งยังระบาดไปพร้อมกับเครื่องมือการเกษตรของเรา....ระบาดไปพร้อมกับลม น้ำ โดยเฉพาะช่วงพืชที่อ่อนแออากาศมีความร้อนและมีความชื้นในดินสูง...จะทำให้การพัฒนาของโลกเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว...และในสภาพดินที่เป็นกรด...สภาพพื้นที่ขาดไนโตรเจน หรือดินมีความสมบูรณ์ต่ำยิ่งทำให้พริกของเราเป็นโรคเหี่ยวเขียวได้ง่ายและรุนแรงเพิ่มขึ้น...เจ้าแบคทีเรียตัวนี้นะครับมันจะเพิ่มความรุนแรงเพิ่มการระบาดอย่างรวดเร็ว จะส่งผลให้พืชหรือพริกของเรายืนต้นตาย โดยอาการทั่วไปของเจ้าโรคเหี่ยวเขียวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียร้ายตัวนี้ ก็คือต้นพริกของเราจะมีอาการเหี่ยวโดยเริ่มที่ยอดพริก...ใบอ่อนของพริก จากนั้นก็จะเหี่ยวลามมาเพียงใบข้างล่างจนกระทั่งเหี่ยวทั้งต้น หรือถ้ามีอาการหนักอาจจะยืนต้นตายเลยก็ได้นะครับ ซึ่งอาการเหี่ยวนี้จะเหี่ยวเฉพาะกลางวันที่มีอากาศร้อนจัดๆ..แม้พื้นดินจะชื้นอยู่ก็ตาม... และจะกลับมาปกติในเวลาตอนเย็น หรือตอนกลางคืน และอาการเหี่ยวนี้....จะเหี่ยวเป็นหย่อมๆเป็นจุดๆ เหี่ยวเฉพาะต้น และถ้าเมื่อมีอาการหรือมีการระบาดเพิ่มขึ้นจนกระทั่งลามไปทั่วทั้งแปลง โดยเมื่อเราถอนต้นขึ้นจะพบว่ารากเน่า และเมื่อตัดบริเวณโคนต้นตามขวางนะครับ...จะพบวงแหวนสีน้ำตาลบริเวณท่อน้ำท่ออาหาร และพบว่ามีเมือกสีขาวลักษณะเหนียวหนืดตามบริเวณหรือตามรอยตัด ...และถ้าเรานำส่วนที่ตัดไปแช่น้ำจะพบกลุ่มของแบคทีเรียไหลออกมาเป็นสายยาวยืดสีขาวขุ่นภายในเวลา 2 ถึง 5 นาที...นี่แหละครับเขาเรียกว่าสายใยเพชฌฆาต โดยทั่วไปแล้วการรักษาอาการของโรคยังไม่มีสารเคมีหรือสารชีวภาพใดๆที่รักษาโรคเหี่ยวเขียวๆในพริกได้ ดังนั้นการกระทำได้ดีที่สุดก็คือการป้องกันไม่ให้เกิดโรคครับ ก่อนจะปลูกควรทำการไถพรวนแล้วก็ตากดินฆ่าเชื้อไว้สัก 2-3 อาทิตย์ก่อนทำการเพาะปลูก...หรือทำการอบหรือตากดินเป็นระยะเวลา 2-3 อาทิตย์ก่อนทำการเพาะปลูกดินด้วยยูเรีย 80 กิโลกรัม + ปูนขาว 800 กิโลกรัม ต่อ 1 ไร่...เหตุที่ใช้ปูนขาวอบดินก็อาจจะเป็นเพราะ เชื้อแบคทีเรียตัวนี้...มันเจริญเติบโตได้ในสภาพดินที่เป็นกรดได้ดี...ด้วยเหตุที่ปูนขาวมีสภาพเป็นด่าง จึงสามารถที่ป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคเหี่ยวเขียวได้ ไม่ควรปลูกพืชที่เป็นที่อาศัยของแบคทีเรีย ไม่ว่าจะเป็นพืชตระกูลขิง พืชตระกูลมะเขือ ถั่วลิสงในบริเวณใกล้แปลงพริกที่เป็นโรค เพื่อลดการแพร่ระบาดของโลกนะครับ ไม่ควรรดน้ำให้ชุ่มจนเกินไป ปรับอัตราการให้น้ำพริกของเรา โดยดูความชื้นในดิน ไม่ให้มีความชื้นมากจนเกินไปเพื่อลดอัตราการเกิดโรค ซึ่งโดยทั่วไปแล้วตามที่ผมได้กล่าวมาข้างต้นการปลูกพืชผักถ้าใครใส่ใจถ้าใครดูแล มืดของเราก็จะโตก็จะงอกงามปราศจากโรคหนอนเพลี้ยแมลง แต่ถ้าใครปลูกแบบทิ้งๆขว้างๆ 3 วันดูที....อาทิตย์นึงดูที พริกหรือพืชผักที่เราปลูกมันก็จะไม่งอกงามมันก็จะมีแต่โรคแมลงหนอนเพลี้ย ดังนั้นนะครับเกษตรกรหรือว่าผู้ที่ปลูกพืชผักพี่เป็นพืชผักสวนครัวที่ปลูกริมรั้วหรือปลูกในกระถาง ถ้ามีเวลาก็ใส่ใจเดินตรวจแปลงเดินตรวจกระถาง พริกกระถางพืชผักของเรา เมื่อมีอาการผิดปกติตามที่ได้กล่าวมานะครับ ทั้งใบยอดเหี่ยวแล้วก็ลามมาข้างล่าง ก็ทำการถอนต้นนั้นทิ้งหรือนำไปเผาใกล้ๆเพื่อไม่ให้เกิดอาการหรือลุกลามไปต้นอื่นหรือทั่วทั้งแปลงได้ โดยจริงๆแล้วนะครับหลักแห่งการปลูกพืชหมุนเวียนคือการป้องกันโรคแมลงได้เกือบทุกโรค ไม่ควรปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือปลูกพืชอย่างเดียวซ้ำซ้ำๆ ไม่ใช่ว่าปีนี้ก็ปลูกพริกปีหน้าก็ปลูกพริกปีต่อไปก็ปลูกพริก ซึ่งเชื้อแบคทีเรียที่มันฝังอยู่ในดิน มันก็จะยิ่งสร้างหรือเพิ่มความรุนแรงของโรคขึ้นได้ ฉะนั้นการปลูกพืชหมุนเวียนปลูกพืชในวงอื่นๆก็จะช่วยป้องกันโรคเหี่ยวพริกได้หรือแม้กระทั่งป้องกันการเกิดเชื้อโรคเชื้อรา แมลงอื่นๆได้ นี่ก็คงเป็นข้อมูลจากคนเกษตรเช่นเคยนะครับ ที่นำมาฝากพี่น้องเกษตรกรทั้งเกษตรกรมือใหม่เกษตรกรมือเก่า ในการรับมือและป้องกันเจ้าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคเหี่ยวเขียวในพริก ก็หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับพี่น้องเกษตรกรนะครับ แล้วก็อย่าลืมกดไลค์กดแชร์กด subscribe ด้วย เพื่อเป็นกำลังใจในการทำคลิปต่อไป สุดท้ายก็ขอให้มีความสุขในการทำการเกษตรเช่นเคยขอบคุณครับ +++++++++++++++ ติดต่อฅนเกษตร :   / konkaset89   ติดต่อทีมงาน Production :   / korkai.studio9