สภาปริทัศน์: 2 ปีผ่านไป กฎหมายป้องกันการทรมานและการอุ้มหาย บังคับใช้ได้แค่ไหน? скачать в хорошем качестве

สภาปริทัศน์: 2 ปีผ่านไป กฎหมายป้องกันการทรมานและการอุ้มหาย บังคับใช้ได้แค่ไหน?

รายการสภาปริทัศน์ สัมภาษณ์ นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ออกอากาศเมื่อวันศุกร์ที่ 21 มี.ค.68 เวลา 17.30 – 18.00 น. ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภา ระบบ FM 87.5 MHz และ AM 1071 KHz ใน 14 เครือข่ายระดับภูมิภาค ประเด็นที่น่าสนใจ 1. ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ประเทศไทยมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ภาพรวมเป็นอย่างไร ผู้เสียหายได้รับการคุ้มครองมากขึ้นหรือไม่ อย่างไร 2. กรณีของผู้กำกับโจ้ ที่เสียชีวิตในเรือนจำ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการบังคับใช้กฎหมายฉลับนี้อย่างไร 3. กรณีชาวอุยกูร์ ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศต้นทาง ขัดต่อมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 อย่างไร รวมถึงขัดต่อหลักการไม่ผลักดันสู่อันตราย (Non-Refoulement) ของนานาชาติ อย่างไร 4. ตามที่มีตัวแทนเครือข่ายผู้เสียหายและครอบครัวผู้เสียหายจากกรณีทรมานการลงโทษหรือการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการบังคับใช้บุคคลสูญหาย รวมทั้งตัวแทนมูลนิธิแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย มายื่นหนังสือถึง กมธ.การกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร จะมีการดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องระเบียบการเยียวยาผู้เสียหาย ที่รัฐยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ออกมา 5. ในการอภิปรายไว้ไว้วางใจ สัปดาห์หน้า พรรคประชาชน และ สส.ชลธิชา มีการเตรียมพร้อมอย่างไร มีประเด็นใดที่จะหยิบยกมาอภิปรายบ้าง โดยเฉพาะเรื่องสิทธิมนุษยชน #ข่าวการเมือง #รัฐสภา #ข่าวการเมือง #อุยกูร์ #กฎหมาย #จีน #สิทธิมนุษยชน #สภาผู้แทนราษฎร