พระเนื้อสำริด หล่อโบราณ เนื้อทองผสมเก่า ดูจบ ดูเป็น скачать в хорошем качестве

พระเนื้อสำริด หล่อโบราณ เนื้อทองผสมเก่า ดูจบ ดูเป็น

#พระเครื่อง #พระหล่อโบราณ #หลวงพ่อเงิน สะสมพระเนื้อทองผสม หล่อโบราณ ต้องดูคลิปนี้นะครับ คลิปนี้ ๔ มีนาจะมาเล่าเรื่องของการพิจารณาพระรูปหล่อทองผสมเก่าอายุเป็นร้อยปี จะมีพระ ๒ องค์เพื่อลองเปรียบเทียบดูเนื้อ มีบันทึกว่าไว้ว่าสร้างในช่วงประมาณปี ๒๔๐๐ ถึง ๒๕๕๐ วัตถุประสงค์ของพวกเราคือ เพื่อให้พี่ๆ เพื่อนๆ ที่ศรัทธาในวัตถุมงคลหาพระดีๆ ทันยุคไว้ใช้ครับ วัตถุมงคลที่มีอายุเป็นร้อยๆ ปี บางวัดและบางเกจิมีการสร้างไว้หลายยุคนะครับ ไม่ได้มีการสร้างแค่ครั้งเดียว หรือมีแค่พิมพ์และเนื้อตามที่คนที่มีสื่อในมือเล่าให้เราฟังกันมา และบางวัด ลูกศิษย์ยังมีการสร้างย้อนยุคเพิ่มเติมจำนวนมากเรื่อยมา ภายหลังจากเกจิท่านนั้นมรณภาพไปแล้ว พิมพ์และตำหนิในพิมพ์ เดี๋ยวนี้เราสามารถถอดพิมพ์และรายละเอียดได้เกือบ ๑๐๐% แล้ว ธรรมชาติของวัตถุจึงเป็นสิ่งที่เราควรศึกษาไว้นะครับ ส่วนวิธีพิจารณาพระรูปหล่อทองผสม หล่อโบราณ มีจุดสำคัญ คือ จะหาพระหล่อโบรณาณ เราก็ต้องเข้าใจวิธีการหล่อโบราณก่อน การหล่อพระรูปหล่อในสมัยก่อนจะใช้วิธีหล่อโบราณ ซึ่งมีขั้นตอนยุ่งยากกว่าสมัยนี้ ซึ่งใช้วิธีการหล่อเหวี่ยง ขั้นตอนวิธีการหล่อพระในสมัยโบราณ มี ๕ ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้ครับ ๑. การขึ้นหุ่นดิน เป็นต้นแบบ ๒. เข้ารูปขี้ผึ้งเพื่อสร้างหุ่นเทียน โดยการนำขี้ผึ้งมากดทับด้านหน้าและหลังให้แนบสนิท เพื่อให้ได้แม่พิมพ์พระองค์ต่อองค์ ๓. พอกดินขี้เบ้า แล้วเจาะรูตรงปลายเพื่อให้ขี้ผึ้งไหลออกมาเมื่อถูกความร้อนสูง ๔. เมื่อได้เบ้าพิมพ์ครบตามจำนวน ช่างจะเทโลหะและมวลสารที่หลอมเหลวด้วยความร้อนลงไปในเบ้าพิมพ์พระแต่ละองค์ และรอให้โลหะเย็นตัว ๕. เมื่อโลหะเย็นตัวลงดีแล้ว ช่างจะทุบเบ้าออกเพื่อให้ได้องค์พระ จึงมีการเรียกพระหล่อโบราณว่า “พระพิมพ์เบ้าทุบ” ดังนั้นลักษณะของพระที่ได้จากการหล่อโบราณ มักจะไม่ได้เรียบตึง สวยงาม เส้นสายและรายละเอียดต่างๆ มักจะไม่ได้คมชัดไปทั้งหมด ยึดถือเป็นตำหนิพิมพ์ทุกองค์ไม่ได้ ส่วนการสร้างพระรูปหล่อสมัยปัจจุบัน มักใช้วิธีการหล่อเหวี่ยง สร้างพระได้สวยงาม รายละเอียดคมชัด กำหนดตำหนิในพิมพ์ได้ และสร้างได้ในปริมาณมากๆ และรวดเร็ว ส่วนหลักการและขั้นตอน ดังนี้ : ๑. แกะแม่พิมพ์ด้วยขี้ผึ้งทั้งรูปทรงและตำหนิพิมพ์ตามต้องการ แล้วถอดพิมพ์ด้วยการใช้ยางซิลิโคนหรือยางบล็อคทำฟัน ซึ่งรายละเอียดองค์พระจะค่อนข้างละเอียดกว่าการใช้ดินพอก ทำให้ได้องค์พระออกมาสวยมีรายละเอียดคมชัด ๒. เมื่อได้แม่พิมพ์ ก็จะนำแม่พิมพ์ได้มาใส่ในกระบอกเหวี่ยงแล้วเทโลหะเข้าไป เครื่องจะทำการเหวี่ยงกระบอกเพื่อให้โลหะเข้าไปอยู่ในพิมพ์ เมื่ออุณหภูมิของโลหะเย็นลง ก็จะได้องค์พระสวยงามตามแบบที่ต้องการครับ เมื่อเราเข้าใจวิธีการสร้างแล้วนะครับ เรามาดูหลักการดูพระเนื้อทองผสม หล่อโบราณกัน เมื่อเป็นโลหะผสม เนื้อโลหะไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันทั้งองค์ พระเนื้อโลหะเก่า โลหะที่ถูกผสมและเทลงไปในเบ้าของแต่ละองค์ ไม่ได้มีการชั่ง ตวง วัด ที่เป็นมาตรฐานที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับช่างที่หยอดเบ้าแต่ละคน อุณหภูมิความร้อนในการหล่อพระก็ไม่ได้มีการควบคุมเหมือนใช้เครื่องจักร ๕ ข้อในการพิจารณาพระเนื้อทองผสม หล่อโบราณ เราต้องดู ๑ ผิวเหี่ยว กร่อน เก่า และการเปลี่ยนแปลงของวรรณะ หรือสี ๒ แร่แฝง รอยตามดในเนื้อพระ ๓ สนิมหลากสี สนิมน้ำหมาก และอ็อกไซด์ผุดบนผิวพระ ๔ รอยตะไบเก่า ร่องลึกมีสนิม ร่องตื้นผิวกลับ ๕ คราบดินเบ้าตามซอก เก่าๆ แห้งๆ การศึกษาเนื้อพระหล่อโบราณอาจเริ่มจากการดูข้าวของเครื่องใช้ที่ทำจากทองเหลืองหรือสังกะสีเก่าๆ เช่นกุญแจ สร้อย เหรียญเงิน หรืออุปกรณ์ที่คนโบราณใช้กันเพื่อดูธรรมชาติการเปลี่ยนแปลงให้คุ้นตาก่อน เพราะว่าธรรมชาติของโลหะจะเหมือนกันนะครับ