У нас вы можете посмотреть бесплатно ตีโจทย์ให้แตก : ตะอัศศุบ ตะมัซฮุบ และตักลีด มัซฮับ | อ.ซอบรี นภากร или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
ตีโจทย์ให้แตก : ตะอัศศุบ ตะมัซฮุบ และตักลีด มัซฮับ | อ.ซอบรี นภากร มัสยิดสวนพลู 30/11/67 . ผู้ต่อต้านมักเข้าใจว่าการสังกัดมัซฮับ (ตะมัซฮุบ) และการตักลีด = การคลั่งไคล้ (ตะอัศศุบ) เพราะเข้าใจว่าเมื่อ ”ตามอยู่สำนักเดียว“ ก็หมายถึงยึดติดและคลั่งไคล้ไร้เหตุผล จนเราได้ยินคำถามตามเวทีบรรยายว่า “มีหลักฐานไหมว่าอิสลามใช้ให้ตะอัศศุบกับมัซฮับเดียว?” ซึ่งนับเป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก ข้อโต้แย้งง่าย ๆ ก็คือ เราทุกคนตามอิสลามกันแค่อย่างเดียว ไม่เอาศาสนาอื่นมาเจือปน แต่เราทุกคนไม่เรียกการตามนี้ว่าตะอัศศุบ และนักวิชาการที่สังกัดมัซฮับก็พูดตรงกันว่าสามารถย้ายมัซฮับได้ การจัดระเบียบให้อิบาดะฮ์และการเรียนรู้ฟิกฮ์ของตนเองด้วยการสังกัดมัซฮับที่ทำกันมาตลอดพันกว่าปีในอุมมะฮ์กับการคลั่งไคล้ยึดติดนั้นจึงเป็นคนละอย่างกัน กระนั้นเราก็ไม่ปฏิเสธข้อเท็จจริงที่ว่าในหมู่ผู้สังกัดมัซฮับนั้นก็ย่อมมีผู้คลั่งไคล้ แต่ขณะเดียวกันผู้ไม่สังกัดมัซฮับเราก็พบความคลั่งไคล้และสุดโต่งที่มีต่อความคิดและการตัดสินในฝ่ายตนเช่นกัน การมีมัซฮับจึงไม่ใช่ตัวแปรหลักที่มีอิทธิพลต่อตะอัศศุบ และการไม่มีมัซฮับก็ไม่ใช่ตัวแปรของการไม่ตะอัศศเช่นกัน ขณะที่ผู้ต่อต้านเรียกร้องให้ยึดข้อบัญญัติหุก่มจากกุรอานฮะดีษ “โดยตรง” และให้ทิ้งแนวคิดปวงปราชญ์เสียในฐานะ “ทัศนะ” ที่ไม่มีทั้งศักดิ์และสิทธิ์ในการเป็นธรรมนูญเหนือมุสลิม ประเด็นขัดแย้งจริงจึงเป็นเรื่อง “ตักลีด” (ดำเนินตามโดยไม่ต้องรู้หลักฐาน) ที่เมื่อยอมรับแล้วจึงจะเลื่อนมาสู่ประเด็นการสังกัดมัซฮับหรือตะมัซฮุบอีกทอดหนึ่ง การวิจารณ์เหมารวมกันไปจึงไม่ใช่ความเข้าใจที่ถูกต้อง สร้างความสับสนให้สังคม ***** ผู้ต่อต้านตักลีดและสังกัดมัซฮับอ้างอายะฮ์อัลกุรอานหลายโองการด้วยกัน เช่น “เมื่อมีผู้เชิญชวนพวกเขาว่า จงมาเถิดสู่สิ่งที่อัลลอฮ์ได้ประทานมาให้และมาสู่ศาสนทูต พวกเขาจะกล่าวว่า สิ่งที่พวกเราพบเจอจากบรรพบุรุษของพวกเรานั้นเพียงพอแล้ว” อัลมาอิดะฮ์ 104 และ“พวกเขายึดเอาบาทหลวงนักบวชของพวกเขาเป็นเจ้าแทนอัลลอฮ์“ อัตเตาบะฮ์ 31 ตอบได้ว่า: อายะฮ์แรกเป็นการเชิญชวนผู้ปฏิเสธให้เข้ามาหาอิสลาม แล้วถูกปฏิเสธ ขณะที่อายะฮ์ต่อมาเป็นการประณามพฤติกรรมชาวคัมภีร์ที่ทำให้นักบวชสามารถกำหนดข้อบัญญัติได้เอง ขณะที่ผู้รู้มุสลิมนั้นออกข้อบัญญัติตามหลักฐานที่กำกับโดยกุรอานและซุนนะฮ์เท่านั้น เรื่องจึงต่างกันอย่างมาก การนำอายะฮ์ที่พูดถึงผู้ไม่ใช่มุสลิมมาครอบใช้กับมุสลิมถือว่าไม่ถูกต้อง ท่านอิบนุ อุมัร รอฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวถึงพฤติกรรมของคอวาริจว่า انطلقوا إلى آيات الكفار فجعلوها في المؤمنين ”พวกเขาไปนำเอาอายะฮ์ที่ลงมาพูดเรื่องผู้ปฏิเสธ แต่กลับเอาเนื้อหามาครอบใส่บรรดามุสลิม“ (ศอฮีห์อัลบุคอรีย์) ***** พวกเขายังอ้างถึงคำของท่านอิบนุ มัสอู๊ด รอฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า “อย่าเอาศาสนาตนเองไปผูกยึดไว้กับใครเป็นอันขาด ขนาดที่ว่าหากเขาศรัทธาก็จะศรัทธากับเขา หากปฏิเสธก็จะปฏิเสธกับเขา“ ตอบได้ว่า: คำของท่านพูดชัดเจนในเรื่องความเชื่อ การศรัทธาและการปฏิเสธ ไม่ใช่เรื่องภาคปฏิบัติ ซึ่งบรรดาอุลามาอ์อะฮ์ลุซซุนนะฮ์กล่าวไว้แล้วว่า หากเป็นเรื่องการศรัทธานั้นไม่อนุญาตให้ตักลีด ให้เรียนรู้หลักคิดและหลักฐาน และเชื่อด้วยความยินยอมของตนเอง จึงเป็นคนละกรณีกับเรื่องหลักปฏิบัติ อิบนุ กุดามะฮ์ อัลฮัมบาลีย์ รอหิมะฮุลลอฮ์ กล่าวใน روضة الناظر ว่า قال أبو الخطاب: العلوم على ضربين: منها ما لا يسوغ التقليد فيه وهو: معرفة الله ووحدانيته، وصحة الرسالة… وأما التقليد في الفروع فإنه جائز إجماعا…بل وجب على العامي ذلك “ท่านอบุลคอฏฏอบกล่าวว่า ความรู้นั้นแบ่งเป็นสองแบบ แบบแรก ไม่สามารถตักลีดตามผู้อื่นได้ ได้แก่ การรู้จักอัลลอฮ์ ความเชื่อในเอกะของพระองค์ และความถูกต้องของการเป็นนบี…ส่วนการตักลีดตามในเรื่องภาคปฏิบัตินั้นถือเป็นสิ่งที่อนุญาต*โดยเอกฉันท์*…ยิ่งกว่านั้นมันวายิบสำหรับคนอะวามด้วย” ***** พวกเขาอ้างถึงคำกล่าวของอิหม่ามอะหมัดเมื่อท่านอบูดาวู๊ดถามว่าตนควรจะตามใครระหว่างอัลเอาซาอีย์หรือมาลิก ท่านตอบว่า: อย่าไปตามใคร สิ่งที่มาจากร่อซูลและศอฮาบะฮ์ให้ยึดเอาไว้… ตอบได้ว่า: ผู้ถามคืออบูดาวู๊ด เป็นผู้บันทึกฮะดีษนามอุโฆษ จดจำทั้งกุรอานและฮะดีษ พร้อมข้อมูลความรู้อีกมากมาย สำหรับคนแบบนี้อิหม่ามอะหมัดแนะนำให้เข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์ตัวบท แทนที่จะตามผู้อื่นอย่างเดียว เป็นคำชี้แนะที่ถูกต้องจากครูผู้รู้ศักยภาพศิษย์ ขณะที่ผู้ต่อต้านกำลังเรียกร้องผู้คนที่ไม่มีกำลังทางวิชาความรู้แม้แต่เศษเสี้ยวหนึ่งของอบูดาวู๊ดให้เข้าสู่ตัวบท เรื่องจึงต่างกัน ***** เพื่อต่อต้านตักลีดพวกเขายังอ้างถึงคำของท่านอิบนุ อับดิลบัรใน جامع بيان العلم وفضله ที่ว่า لا خلاف بين علماء الأمصار على فساد التقليد “ไม่มีข้อขัดแย้งกันเลยในหมู่ผู้รู้แห่งหัวเมืองทั้งหลายว่าการตักลีดตามผู้อื่นนั้นถือเป็นความเสียหายใช้ไม่ได้“ ตอบได้ว่า: ในตำราเล่มเดียวกันในหน้าถัดมา ท่านชี้แจงไว้ว่า وَهَذَا كُلُّهُ لِغَيْرِ الْعَامَّةِ؛ فَإِنَّ الْعَامَّةَ لَا بُدَّ لَهَا مِنْ تَقْلِيدِ عُلَمَائِهَا عِنْدَ النَّازِلَةِ تَنْزِلُ بِهَا ”ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดนั้นสำหรับกรณีของคนที่ไม่ใช่อะวาม ส่วนคนอะวามนั้นจะต้องตักลีดตามอุลามาอ์ในปัญหาที่เกิดกับพวกเขา“ ความแปลกประหลาดก็คือ ผู้อ้างกำลังยกคำของผู้สังกัดมัซฮับหลายต่อหลายคนเพื่อทำลายการตามมัซฮับ ยกคำของผู้ยอมรับการตักลีดเพื่อต่อต้านการตักลีด ถ้าอุมมะฮ์ผ่านสิ่งเหล่านี้กันมาแล้วพันกว่าปี ไม่ว่าเราเจอชื่ออุลามาอ์คนไหนที่ถูกหยิบยกมาอ้าง สิ่งที่เราต้องทำก็คือการตามไปเปิด อ่านรอบ ๆ และหาคำอธิบายปรากฎการณ์ที่ดูเหมือนจะไม่สมเหตุสมผลนี้ เมื่อพิจารณาอย่างดีแล้วก็จะเข้าใจได้ไม่ยากว่าเขาพูดกันในมุมไหน ประเด็นใด และข้อความเหล่านั้นถูกหยิบยกขึ้นมาโดยตัดตอนบริบทออกไปอย่างไร / sobree.napakorn . ❤️ ไม่พลาดคลิปความรู้ กดติดตามได้เลย / @manarah