У нас вы можете посмотреть бесплатно ลอบวางยาฆ่าตอทุเรียนตายหมดสวนเสียหายหลายล้าน или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
เจ้าของสวนทุเรียนน้ำตาคลอ ถูกลอบวางยาฆ่าตอ ชนิดดูดซึม มีฤทธิ์รุนแรง ผลผลิตร่วง ทยอยยืนต้นตาย เสียหายหลายล้านบาท สวนทุเรียนของ นายชรินทร์ เผื่อชัย อายุ 51 ปี และภรรยา อยู่ที่บริเวณบ้านสะพาน 5 หมู่ 10 ตำบลหาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร หลังจากมีคนร้าย ย่องเข้าไปวางยาฆ่าตอ ชนิดดูดซึมออกฤทธิ์รุนแรง ต้นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จนผลร่วงและทยอยยืนต้นตาย เกือบหมดสวน มูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าสวนทุเรียน และบ้านพักหลังดังกล่าว อยู่ห่างจากถนนเพชรเกษมประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีนายชรินทร์ และภรรยา พาเดินดูสวนทุเรียน แปลงเกิดเหตุ ที่ถูกคนร้าย ย่องเข้ามาหยอดยาฆ่าตอ ชนิดดูดซึม ออกฤทธิ์รุนแรง จนใบและผลทุเรียนร่วง ทยอยยืนต้นตาย เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง อายุประมาณ 6-7 ปี จำนวน 25 ต้น ทยอยยืนต้นตายแล้ว 20 ต้น สภาพแต่ละต้น มีรอยลักษณะใช้มีดหรือของมีคม ฟันเจาะเป็นแผลขนาด 2-3 นิ้ว ที่โคนต้น และมีรอยคราบ ไหม้ดำ โดยลำต้น เริ่มเหี่ยวแห้ง ยืนต้นตาย และใบหลุดร่วง บางต้นใบร่วงเหลือแต่กิ่ง ส่วนผลทุเรียน ก็ทยอยร่วง ลงมากอง อยู่ที่ใต้โคน นายชรินทร์เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ลูกของตน บอกว่าพบงู เลื้อยเข้าไปซุก อยู่ในพงหญ้า ใต้โคนต้นทุเรียน ตนจึงเข้าไป ใช้ไม้เขี่ยหางู โดยเขี่ยเอาใบไม้ และหญ้าแห้ง ใต้ต้นทุเรียนออก ซึ่งก็ได้พบว่า ที่โคนต้นทุเรียน เป็นรอยเจาะบาก ด้วยของแหลม มีคม และรอยคราบน้ำยา สีดำ ที่ไม่ใช่เชื้อรา ตนจึงมั่นใจว่า ถูกวางยาฆ่าตอ เป็นยาชนิดดูดซึม ออกฤทธิ์รุนแรง ซึ่งต้นไม้ ที่โดนยาตัวนี้ เข้าไปแล้ว เมื่อใช้น้ำรด ต้นทุเรียนก็จะดูดซึม ตายอย่างรวดเร็ว ซึ่งสวนทุเรียน แปลงของตน มีทั้งหมด 25 ต้น ถูกวางยา ทยอยตายแล้ว 20 ต้น เป็นต้นทุเรียน ที่มีผลผลิตแล้วทั้งหมด นายชรินทร์เล่าให้ฟังต่อว่า ตนหวังไว้ ในปีนี้ อีกประมาณ เดือนกว่าๆ ก็จะเก็บผลผลิตขายได้กิโลกรัมละ 160-180 บาท จะขายได้เฉลี่ยต้นละประมาณ 20,000 บาท มีรายได้อย่างน้อย 600,000 บาท ซึ่งทำให้ตน ต้องสูญเสียรายได้ไป แต่ถ้าคิดผลผลิต ตามระยะเวลา อายุของต้นทุเรียน ก็จะทำให้ตน สูญเสียรายได้ไปกว่า 30 ล้านบาท เลยทีเดียว นายชรินทร์ เจ้าของสวนทุเรียน เล่าต่อว่า โดยส่วนตัว ตนและครอบครัว ไม่มีความขัดแย้งกับใคร เดิมนั้น ตนเป็นคนจากที่อื่น ได้มาอาศัยอยู่กับภรรยา ในพื้นที่นี้ ประมาณ 8-10 ปีแล้ว เพื่อนบ้าน กับตน ก็มีความสนิทสนม รู้จักกันดี ตนมีแต่ช่วยเหลือ มีแต่ให้กับทุกคน ไม่เข้าใจว่า ทำไมเหตุการณ์แบบนี้ มันเกิดขึ้นได้ เพราะการปลูกทุเรียน ต้องใช้เวลาปลูกนานหลายปี กว่าจะโตออกผลผลิต คาดว่าอีกไม่กี่วัน ต้นทุเรียนทั้งหมด ที่ถูกวางยา ก็จะแห้งตาย ซึ่งตนได้ ไปแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ไว้แล้ว.