У нас вы можете посмотреть бесплатно ดำเนินคดีแท็กซี่ฝ่าไฟแดงชนรถ "ตำรวจจราจร" ขณะนำส่งอวัยวะ สารภาพเห็นสัญญาณไฟเหลืองจึงเร่งเครื่อง или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
เมื่อวานนี้ เกิดอุบัติเหตุ รถแท็กซี่เฉียวชนตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ระหว่างที่กำลังปฎิบัติหน้าที่ช่วยเหลือเพื่อนำส่งอวัยวะ (ปอด) จาก ชลบุรี ไปที่ โรงพยาบาลศิริราช ปรากฏว่ามีรถแท็กซี่คันหนึ่ง ไม่หยุดรถ พุ่งชนตำรวจในขบวนนำส่งอวัยวะที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ เคราะห์ไม่ได้บาดเจ็บมาก พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วานนี้ (22 กันยายน 2568) เวลา 12.28 น. เกิดเหตุผู้ขับรถแท็กซี่สาธารณะ ไม่ชะลอความเร็ว ขับผ่าไฟแดงชนเข้ากับขบวนรถของตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริที่เปิดไฟสัญญาณฉุกเฉินขณะกำลังปฏิบัติภารกิจนำส่งอวัยวะ (ปอด) จากจังหวัดชลบุรี เพื่อส่งต่อยังโรงพยาบาลศิริราช ทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนบริเวณแยกสวนมิสกวัน ถนนราชดำเนินนอก จนทำให้รถจักรยานยนต์ของตำรวจในขบวนนำส่งอวัยวะ เสียหลักด.ต.วัชรนนท์ คงสินจีราภัทร์ ผู้บังคับหมู่งาน 3 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจจราจร ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวาและข้อมือ แต่ยังคงมีสติ ยังมีความโชคดีตำรวจนายดังกล่าวไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และที่สำคัญยิ่งกว่าคือ รถแท็กซี่คันก่อเหตุไม่เฉี่ยวชนกับรถพยาบาลที่บรรทุกอวัยวะดังกล่าว ซึ่งอาจจะเกิดความเสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้ และแม้ต้องพบเจออุบัติเหตุขบวนรถนำส่งอวัยวะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนสามารถนำส่งอวัยวะ (ปอด) ให้ถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าทุกเสี้ยววินาทีของรถที่เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินคือเส้นทางแห่งชีวิต การเปิดทางไม่ใช่เพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คือการมอบโอกาสใหม่ให้กับประชาชนผู้ป่วยที่รอการรักษาอยู่ปลายทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอเน้นย้ำไปยังผู้ขับขี่ทุกท่านให้ตระหนักว่า "เมื่อเห็นสัญญาณไฟและเสียงไซเรน โปรดให้ทาง" รวมทั้งขอให้เคารพกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด สำหรับการให้ทางรถฉุกเฉิน เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน ผู้ขับขี่ควรมองกระจกหลังเพื่อกะระยะและชะลอความเร็วเปิดสัญญาณไฟเบี่ยงซ้ายเพื่อหลีกทาง หากไม่สามารถหลีกทางได้ให้หยุดรถเพื่อให้รถฉุกเฉินขับผ่านไป และข้อสำคัญเมื่อรถฉุกเฉินขับผ่านไปแล้วห้ามขับตามเด็ดขาด ทั้งนี้ การเจตนาไม่หลบรถฉุกเฉิน หรือขับรถกีดขวางเส้นทาง เข้าข่ายผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 76 ระบุว่า เมื่อเห็นรถฉุกเฉินในขณะปฏิบัติหน้าที่ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ หรือได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน จะต้องให้รถฉุกเฉินผ่านไปก่อน หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท และกรณีขับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจร มีโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท ทีมข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้ โทรศัพท์พูดคุยกับ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร ในฐานะโฆษกกองบังคับการตำรวจจราจร ให้ข้อมูลเพิ่มว่า จากเหตุดังกล่าว ด.ต.วัชรนนท์ คงสินจีราภัทร์ ผู้บังคับหมู่งาน 3 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจจราจร ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ที่ขาขวา และข้อมือขวา และศอก ซึ่งวันนี้ก็ได้ให้หยุดพักสังเกตอาการที่บ้านก่อน ซึ่งจากภาพคลิปก็ชัดเจนว่า รถแท็กซี่เฉี่ยวบริเวณล้อหน้า ซึ่งที่ผ่านมาทางหน่วยงาน ได้มีการฝึกทักษะของกำลังพลอยู่แล้ว ว่าหากเกิดกรณีดังกล่าวจะต้องมีการทำอย่างไร เช่นการดีดตัวออก เพื่อให้บาดเจ็บน้อยที่สุด ส่วนคนขับรถแท็กซี่คู่กรณี อายุประมาณ 40 กว่าๆ ก็ให้การรับสารภาพว่าฝ่าฝืนสัญญาณไฟ ขณะนั้นเป็นสัญญาณไฟเหลือง จึงพยามเร่งให้พ้นสัญญาณไฟ ซึ่ง พ.ต.อ.จิรกฤต บอกว่า สัญญาณไฟเหลืองจะต้องชะลอ ไม่ใช่การเร่งเครื่อง โดยเมื่อวานนี้ ได้มีการดำเนินคดี ข้อหาฝ่าฝืนสัญญาณไฟกับคนขับรถที่สน.นางเลิ้งเรียบร้อยแล้ว อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/ruang... ------------------- เรื่องเด่นเย็นนี้ วันที่ 23 กันยายน 2568 ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ 16.30 - 18.00 น. #เรื่องเด่นเย็นนี้ (Ruangden News ) ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่ ch3plus : https://ch3plus.com facebook : / 3plusnews Twitter : / 3plusnews YouTube : / 3plusnews Tiktok : https://www.tiktok.com/3plusnews