นายกฯ อนุทิน ย้ำ ! ให้ฝ่ายความมั่นคงคุย เรื่องถอนอาวุธหนัก | ห้องข่าวภาคเที่ยง скачать в хорошем качестве

นายกฯ อนุทิน ย้ำ ! ให้ฝ่ายความมั่นคงคุย เรื่องถอนอาวุธหนัก | ห้องข่าวภาคเที่ยง

ห้องข่าวภาคเที่ยง - นายกรัฐมนตรี ย้ำอีกครั้งว่าการลงนามปฏิญญาร่วมกับกัมพูชา ไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบ เพราะตั้งแต่ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ไม่เคยทำให้องค์กรเสียเปรียบ พร้อมให้ฝ่ายความมั่นคงทั้งสองฝ่ายหารือเรื่องถอนกำลังชายแดน​ นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ กล่าวถึงกรณีที่ไทยและกัมพูชา เริ่มถอนอาวุธหนักบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าเรื่องนี้ต้องให้ฝ่ายความมั่นคงพูดคุยกัน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งมีแนวทางตามที่ได้ลงนามปฏิญญา​ร่วมกันไปแล้ว แต่ยืนยันว่า​ คู่เจรจาจะต้องพูดคุยกันอย่างเต็มที่​ ซึ่งที่ผ่านมาทิศทางก็ดี​ จนถึงวันนี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามความคาดหมาย​ ส่วนกรณีที่ชาวบ้านชายแดนมีความกังวลว่า การลงนามจะทำให้ไทยเสียเปรียบนั้น​ นายอนุทิน​ ยืนยันว่าตั้งแต่ประกอบอาชีพหาเลี้ยงตัวเองมา ยังไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองทำให้องค์กรที่สังกัดอยู่เสียเปรียบ เพราะมีความชำนาญพอสมควรในด้านการเจรจา เท่าที่พอจำความได้​ ไม่เคยเสียเปรียบใคร​ เช้าวันนี้ เวลา 09.00 น. มีการประชุมฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนภูมิภาค กองทัพภาคที่ 2 ของไทย และภูมิภาคทหารที่ 4ของกัมพูชา RBC ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบกำหนดวันดีเดย์ถอนอาวุธชายแดนร่วมกันเฟสแรก ประเภทจรวดหลายลำกล้องในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เวลา 00.00 น. เฟส 2 อาวุธประเภทปืนใหญ่ทั้งหมด จะเริ่มในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ เวลา 00.00 น. และเฟส 3 อาวุธประเภท ยานเกราะ รถถัง จะเริ่มในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ เวลา 00.00 น. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้ลงนาม บันทึกการประชุม RBC ร่วมกัน ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เวลา 14.00 น. บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ขณะที่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่าปัจจุบันทั้งสองฝ่ายเริ่มจัดทำแผนปฏิบัติการ Action Plan ตามกรอบห้วงเวลา และเริ่มปฏิบัติแล้วบางส่วน เช่น การถอนอาวุธหนักเคลื่อนย้ายรถถังออกจากพื้นที่ชายแดน พร้อมกำหนดกรอบเวลาในการร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด ฝ่ายไทยเสนอพื้นที่ดำเนินการเบื้องต้น 13 พื้นที่ ขณะนี้เริ่มดำเนินการแล้วใน 4 พื้นที่ และจะขยายผลต่อเนื่องไปยังพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป เมื่อพื้นที่มีความปลอดภัย จะเข้าสู่กระบวนการสำรวจ เพื่อจัดทำหลักเขตแดนชั่วคราว และตรวจสอบสิทธิ์การถือครองต่อไป ส่วนการพิจารณาปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 คน จะเป็นไปตามหลักกติกาสากลและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งจะพิจารณาจากลักษณะท่าทีความเป็นปฏิปักษ์จะต้องลดระดับลงชัดเจน ผ่านผลการดำเนินการตามข้อตกลงที่ทั้งสองประเทศเห็นชอบร่วมกัน 4 ข้อหลัก คือ ถอนอาวุธหนัก, เก็บกู้ทุ่นระเบิด, ปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ และการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : https://news.ch7.com #ห้องข่าวภาคเที่ยง #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero