จี้ชิงทรัพย์ 3 ราย บ้านกลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี скачать в хорошем качестве

จี้ชิงทรัพย์ 3 ราย บ้านกลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี

จังหวัดอุทัยธานี ได้ตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุใช้ปืนจี้หญิงสาวแล้ว พบเป็นชายวัยรุ่นในพื้นที่ เสพยาเสพติดหนัก เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ แต่ผู้เสียหายยืนยันชัดว่าใช่แน่นอน พบพื้นฐานครอบครัวมีฐานะระดับต้นๆในพื้นที่ วันที่ 18 มี.ค.68 ที่ จังหวัดอุทัยธานี ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนดักจี้ชิงทรัพย์ โดยมีเป้าหมายเป็นหญิงสาวที่ขับรถจักรยานยนต์สัญจรผ่านจุดเปลี่ยวในพื้นที่ อำห้วยคต โดยลงมือก่อเหตุไปแล้วถึง 3 ราย ในอำเภอเดียวกัน ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน โดยความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุรายนี้ได้แล้ว โดยทาง พล.ต.ต. ชัยรพ จุณณวัตต์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี มอบหมายให้ทาง พ.ต.อ.ธนานันท์วิชญ์ ศรีบุญเรือง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ปฏิบัติหน้าที่แทนเนื่องจากไปปฏิบัติราชการนอกพื้นที่ ลงพื้นที่ร่วมกับ พ.ต.อ.ธำรง จิกิตศิลปิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี รับผิดชอบงานสืบสวน ร่วมติดตามความคืบหน้าของคดี ร่วมกับ พ.ต.ท.ปิยวัฒน์ ชำนาญไพร สารวัตรกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุทัยธานี พร้อมทีมชุดสืบสวนสอบสวนจังหวัด และ พ.ต.อ.สมนึก นวลคำ ผู้กำกับการ สภ.ห้วยคต ชุดสืบสวน สภ.ห้วยคต นายอดิเรก ศิลป์ประสม นายก อบต.ห้วยคต หลังเร่งกดดันไล่ล่าผู้ก่อเหตุอย่างหนัก แต่เจ้าตัวยังยืนยันเสียงแข็งให้การปฏิเสธ แม้จะโดนสอบสวนนานกว่า 5 ชั่วโมง ก็ตาม แต่ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ยืนยันว่าตรงกันว่า ผู้ก่อเหตุนั้นคือนายเบส อย่างแน่นอน โดยพบว่าผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุรายนี้ คือ นายภานุพงศ์ ตาบัวตูม หรือ เบส อายุ 22 ปี เป็นคนในพื้นที่ หมู่ 3 ตำบลห้วยคต อำเภอห้วยคต มีอาชีพรับจ้าง เป็นคนงานขับรถคีบอ้อย ซึ่งเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. วานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว นายเบส จากบ้านพัก มาที่ สภ.ห้วยคต พร้อมของกลางคือ เสื้อเชิ้ตแขนยาวลายทางสีเทา และเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีแดงเข้ม ซึ่งอยู่ในบ้านของผู้ต้องสงสัย พร้อมกับลงพื้นที่ร่วมกับน้องนักเรียนหญิง อายุ 15 ปี ผู้เสียหาย ไปชี้จุดบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมกับให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ EOD ร่วมลงพื้นที่ตรวจหาปลอกกระสุนปืนในจุดที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน ซึ่งตลอดเวลาที่ทำการสอบสวนนั้น นายเบส ยืนยันให้การปฏิเสธว่าตนเองใช่ผู้กระทำผิด แต่ยอมรับว่าเสพยาเสพติดจริง โดยในระหว่างที่ทำการสอบสอบนั้น ได้เชิญตัวผู้เสียหายมาแอบนั่งฟังเสียงของผู้ต้องสงสัยว่า ตรงกับเสียงของคนร้ายหรือไม่ ซึ่งทางผู้เสียหายยืนยันว่า เสียของนายเบส นั้นตรงกับเสียงคนร้ายอย่างแน่นอน โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอให้นายเบส สวมเสื้อคลุม และโพกผ้าดังกล่าวดู ซึ่งทางหญิง อายุ 15 ปี ก็ยืนยันเช่นเดียวกันว่า คือ นายเบส แต่ทางนายเบสยืนยันว่า เสื้อแขนยาวสีดำ ที่ตำรวจเก็บได้ในจุดที่เกิดเหตุนั้น ไม่ใช่ของตนเอง แต่อีก 2 ตัวนั้นคือของตนเองที่ใส่ขับรถคีบอ้อย อีกทั้งยังให้การวกไปวนมาอยู่ตลอดเวลา และยอมรับเพียงว่า ตนเองขับรถจักรยานยนต์เฉี่ยว หญิงอายุ 15 ปี แล้วหลังจากนั้นก็จำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ และยังคงยืนยันว่าไม่ลงมือก่อเหตุใดๆ ก่อนยุติการสอบสวนลงในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน โดยช่วงสายวันนี้ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 10.30 น. ในห้องประชุม ได้มีการเชิญตัวนายเบส เข้ามาพูดคุยสอบสวนอีกครั้ง ซึ่งนายเบสนั้น อยู่ในอาการง่วงซึมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งคาดว่าจะหมดฤทธิ์ยาเสพติดที่เสพไป โดยนายเบสยังคงให้การปฏิเสธเช่นเดิม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพียงว่า ตนเองขับรถคีบอ้อย มีรายได้วันละ 500 บาท ทุกวันจะซื้อยาบ้ามาเสพวันละ 10 เม็ด ราคาเม็ดละ 35 บาท เพื่อใช้เสพระหว่างทำงานเรื่อยๆตลอดทั้งวัน หากไม่เสพจะทำงานไม่ได้ และวันที่เกิดเหตุนั้นตนเองจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ แต่ในทางคดีนั้น แม้ทางผู้ต้องสงสัยจะยังคงให้การปฏิเสธ แต่ด้วยข้อมูลแวดล้อมและพยานหลักฐานต่างๆ สามารถชี้ชัดไปที่นายเบสได้อย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อหา ตามพยานหลักฐานที่มี ซึ่งจะเริ่มจากผู้เสียหายรายที่ 3 คือหญิง อายุ 15 ปี โดย พ.ต.อ.ธนานันท์วิชญ์ ศรีบุญเรือง รอง ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี กล่าวว่า คดีนี้แม้ผู้ต้องสงสัยจะให้การปฏิเสธแต่ทางเรามีข้อมูลพยานหลักฐานมากเพียงพอที่จะดำเนินกับผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ ทั้งจากพยานชี้ตัว เสื้อผ้า น้ำเสียง และรถที่ใช้ ซึ่งมูลการก่อเหตุนี้มาจากยาเสพติด ซึ่งผู้ต้องสงสัยนั้นเสพยาในปริมาณที่มาก จึงมีแนวโน้มเป็นไปได้ว่า จะหลอนยาในช่วงที่ก่อเหตุ ซึ่งหลักจากนี้ทางเราจะมีมาตรดูแลป้องกันในพื้นที่ให้เข้มข้นรัดกุมมาก เพื่อไม่ให้มีการก่อเหตุความรุนแรงเช่นนี้ในพื้นที่อีก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน เหมือนดังเช่น รัชกาลที่ 5 ได้ตรัสไว้ว่า การจับกุมนั้นไม่ได้ถือว่าเป็นความชอบ แต่การให้อาณาประชาราชอยู่เย็นเป็นสุขถือว่าเป็นหน้าที่ของพวกเรา พ.ต.อ.ธนานันท์วิชญ์ฯ กล่าว ด้าน นายอดิเรก นายก อบต.ห้วยคต เปิดเผยว่า หลังตำรวจได้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้วพบว่าเป็นนายเบส ยอมรับว่าตกใจเหมือนกัน เพราะตนเองและนายเบสนั้นรู้จักคุ้นเคยกันดีทั้งครอบครัว จนถึงขั้นนายเบสนั้น เรียกตนเองว่า พ่อ ด้วยซ้ำ ซึ่งตอนที่นายเบสยังไม่ติดยาเสพติดนั้น เป็นเด็กสุภาพเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน อีกทั้งพื้นฐานฐานะครอบครัวที่บ้านของนายเบสนั้นยังถือว่ามีฐานะระดับต้นๆของในตำบลเลยก็ว่าได้ ทำให้เห็นได้ว่า ฤทธิ์ของยาเสพติดนั้นร้ายแรงและทำลายชีวิตคนได้มากอย่างที่คาดไม่ถึง เพราะดูจากรูปการณ์แล้วตอนนี้นายเบสนั้นน่าจะเสพยาจนหลอนไปแล้ว นายอดิเรก ทั้งนี้ข้อมูลคดีเบื้องต้นนั้น ผู้ก่อเหตุจะใช้เซเว่น เป็นจุดตั้งต้นในการก่อเหตุทุกครั้ง และจากการสอบสวนนั้นข้อมูลสำคัญที่พอจะคาดเดามูลเหตุได้คือ ผู้ก่อเหตุจะเสพยาเสพติดก่อน หลังจากนั้นได้ดู VDO โป๊เปือย จนคาดว่าเกิดอารมณ์ทางเพศ และออกหาเหยื่อเพื่อที่จะก่อเหตุข่มขืน แต่ไม่สำเร็จ เพราะทุกครั้งที่ก่อเหตุจี้นั้นผู้ก่อเหตุไม่เคยเรียกขอทรัพย์สินจากหญิงผู้เสียหายรายใดเลย พงษ์ นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์ อุทัยธานี