У нас вы можете посмотреть бесплатно ตาที่3 или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
ยามเช้าของทุกๆวัน แสงแดดอ่อนๆส่องผ่านกลุ่มเมฆสีเทาหม่น ลงมาในย่านชานเมืองแห่งนี้ เสียงเครื่องยนต์จากรถเมล์เก่าๆ และรถจักรยานยนต์รับจ้างดังเป็นระยะ ผู้คนเริ่มออกจากบ้าน เพื่อไปทำงานตามวิถีชีวิตปกติของแต่ละคน แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นภาพคุ้นตา คือร่างของชายคนหนึ่งกำลังก้มๆเงยๆ อยู่ข้างทาง เก็บขวดพลาสติก แก้วน้ำ หรือแม้แต่ฝาขวดเล็กๆ แล้วนำมาใส่รถเข็นพ่วงท้าย ดูเผินๆก็เหมือนคนเร่ร่อน แต่ใครๆในย่านนี้ต่างรู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนบ้า เขาคือ ไอ้เค ไอ้เค เป็นชายร่างผอมสูง ผิวคล้ำแดด เพราะตากแดดตากฝนทุกวัน เสื้อยืดและกางเกงยีนเก่า ที่สวมใส่มีรอยขาด และเต็มไปด้วยคราบสิ่งสกปรกบางจุด แต่นั่นไม่ใช่เพราะเขาไม่สนใจดูแลตัวเอง หากแต่เป็นเพราะ ไม่มีเงินพอจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ อยู่ได้ก็แค่พอประทังชีวิต สายตาของ ไอ้เค มักจะเหม่อลอยและดูเศร้าลึกอยู่ตลอดเวลา เขาไม่ค่อยพูดกับใคร แม้แต่คนที่เคยเป็นเพื่อนบ้านเก่า หรือเพื่อนร่วมรุ่นก็ยังแทบไม่ได้ยินเสียง ดูสิ… ไอ้เคมันยังเก็บขวดอยู่อีกแล้ว ใช่… มันทำแบบนี้ทุกวันนะ ไม่ได้ไปทำอย่างอื่นแล้วเหรอ เสียงซุบซิบนินทา ของผู้คนตามร้านค้า และป้ายรถเมล์มีให้ได้ยินเสมอ แต่ ไอ้เค ก็ยังคงไม่สนใจ เขาเดินเก็บขวดและซากขยะที่ขายได้ เหมือนเป็นหน้าที่ เหมือนเป็นสิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวชีวิตที่เหลืออยู่นี้ได้ สมัยเรียนอยู่ในตัวจังหวัด เค เคยเรียนอาชีวะ สาขาออกแบบ เขาเป็นคนช่างฝัน มักจะมีไอเดียสร้างสรรค์ต่างๆไว้ในหัวเสมอ แต่บ้านของเขาฐานะยากจน ตอนนั้นน้องสาวของเขาก็กำลังจะเรียนต่อ ไอ้เคเลยต้องยอมตัดใจไม่ต่อระดับ ปวส. เพราะไม่มีเงินส่งเสีย อันที่จริงเขาเคยมาหา ผม และขอร้องให้แม่ของผมช่วยส่งเสียให้เรียนต่อ แต่ช่วงนั้นบ้านของผมก็ขัดสนไม่น้อย เพราะผมเองก็ต้องใช้ค่าเทอมเรียนมหาวิทยาลัย ที่ค่าใช้จ่ายสูงเอาเรื่อง เลยไม่อาจช่วยเขาได้ น้องสาวของไอ้เค ก็เข้ามาเรียนต่อในตัวจังหวัดได้ไม่นานนัก ก่อนจะท้องแล้วหนีไปกับสามี ซึ่งเรียนจบแค่ ม.5 ทั้งคู่หางานทำไม่ได้แน่นอน จึงกลายเป็นภาระให้ครอบครัวไปอีก ไอ้เคที่กำลังสับสนกับชีวิต ที่มีทั้งภาระที่ต้องแบก ทั้งความฝันที่ถูกปิดกั้น จนไม่รู้จะเดินไปทางไหน ชีวิตเดินไปอย่างจนตรอกเรื่อยมา แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่สะเทือนใจที่สุดในปีที่ผ่านมา แม่ของไอ้เคป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จู่ๆวันหนึ่งแม่ของเขาก็ฆ่าตัวตาย โดยไม่มีใครทันได้ช่วยเหลือ อาจเป็นเพราะสารเคมีในสมองผิดปกติ หรือเรื่องทุกข์ใจที่รุมเร้ามาหลายด้าน จนทำให้เธอตัดสินใจเช่นนั้น เหตุการณ์นี้ทำให้ไอ้เคแทบไม่เป็นผู้เป็นคน เขารักแม่มาก หลังงานศพจบลง เขาก็ซึมเศร้า กินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นเดือนๆ ชีวิตในวัดของพระเค ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ ไอ้เคตัดสินใจบวชพระ เขาตั้งใจจะบวชให้แม่อย่างน้อยสัก1ปี เพราะไม่รู้ว่าจะเดินต่อไปทางไหน ไม่มีงานทำ ไม่มีต้นทุนของชีวิตให้ยึดเหนี่ยวอีกแล้ว ที่วัดในชุมชนนี้ค่อนข้างสงบ แม้ว่าจะเป็นวัดเก่าแก่ และชาวบ้านค่อนข้างพลุกพล่าน เพราะอยู่ใจกลางชุมชน แต่บริเวณป่าช้าด้านหลังวัด และเมรุกลางลานวัดกลับเงียบเหงา บ่อยครั้งมีแต่เสียงลมพัดกระทบใบไม้แห้งดังกรอบแกรบๆ กับเสียงนกแสกหรือเสียงหมาเห่าหอนยามดึก บรรยากาศแถวนั้นทำให้ใครหลายคนหวาดกลัว พระเค เดินกวาดใบไม้ที่หล่นอยู่รอบๆ เมรุด้วยสีหน้าเฉยเมยคล้ายๆ คนหมดอาลัยตายอยากในบางครั้ง แต่ก็พยายามใช้ชีวิตในเพศบรรพชิต เพื่อคอยสวดมนต์อุทิศส่วนกุศลให้แม่ของตน หลวงพ่อเจ้าอาวาสและพระรูปอื่นๆ สังเกตเห็นว่าพระเคเป็นคนเงียบและเศร้ามาก จึงพยายามให้กำลังใจเป็นครั้งคราว บางวันก็ส่งเณรมาช่วยงานกวาดลานวัด หรือนิมนต์พระเคไปช่วยกิจอื่นๆ เพื่อให้ไม่จมอยู่ในความทุกข์เพียงลำพัง ในวัดแห่งนี้มีสัปเหร่อประจำชื่อ ลุงแก้ว เป็นชายวัยกลางคน ผมสีดอกเลา สวมเสื้อขาดๆ กางเกงเลสีทึบ ดูเก่าโทรมตลอดเวลา ตอนกลางวันเขามักจะง่วนกับการเตรียมฌาปนกิจศพ จัดการเตาเผา ถางหญ้า หรือเก็บกวาดบริเวณลานเมรุ ส่วนยามดึกก็จะอยู่คนเดียวเงียบๆ ไม่มีใครรู้ว่าเขาทำอะไร หรือเป็นอย่างไร แต่มีตำนานเล่าขานในหมู่เด็กๆ รวมถึงสมัยที่.ผม.กับ.ไอ้เค.ยังเป็นเด็ก เราเคยได้ยินเณรบางคนกระซิบกระซาบกันว่า ดึกๆบางวัน เห็นลุงแก้วเหมือนกำลังย่างเด็ก ทำกุมารทองด้วยแหละ น่ากลัวมาก เมื่อมองย้อนกลับไป มันอาจเป็นแค่เรื่องเล่าขู่กันเล่นๆของเด็กวัด แต่มันก็สั่นประสาทจนทำให้ทั้งผมและไอ้เค เชื่อสนิทใจในสมัยนั้น พอโตมาแม้จะรู้ว่าอาจเป็นเรื่องแต่ง แต่ความหวาดกลัวต่อลุงแก้วก็ยังหลงเหลืออยู่ไม่มากก็น้อย วันหนึ่ง พระเคกำลังกวาดใบไม้อยู่แถวเมรุ ร่างเงาของลุงแก้วปรากฏขึ้นด้านหลัง แม้พระเคจะยังคลุมจีวรสีเหลืองหม่น แต่เขาก็สะดุ้งเฮือกตามสัญชาตญาณ ลุงแก้วถามอย่างเรียบๆ เป็นไงพระเค… ทำงานเหนื่อยไหมวันนี้ พระเคมองอย่างตกใจนิดๆ อาตมาไม่เหนื่อยหรอกโยมลุง… แค่กวาดใบไม้ไปเรื่อยๆ… ทิ้งความคิดไปเรื่อยๆ พระเคตอบด้วยน้ำเสียงเบาๆ ดวงตาเลี่ยงไม่สบตาลุงแก้วตรงๆ เหมือนยังมีความเกรงกลัวและยังไม่คุ้นชิน ลุงแก้วมองพระเคด้วยสายตาปลงๆ เหมือนเคยเห็นมาหมดแล้ว ทั้งความทุกข์และความสุขของมนุษย์