У нас вы можете посмотреть бесплатно ชัวร์ก่อนแชร์ : 5 สาเหตุของการเกิดฝ้า จริงหรือ ? или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
15 ก.พ. 65 - บนสังคมออนไลน์แชร์ 5 สาเหตุของการเกิดฝ้า อาทิ ฮอร์โมน แสงแดด เครื่องสำอาง หรือ ความเครียด เรื่องนี้จริงหรือไม่ ติดตามกับคุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ จากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ 🎯 ตรวจสอบกับ ศ.นพ.วรพงษ์ มนัสเกียรติ รองหัวหน้าภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สัมภาษณ์เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2565 🔎 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์ ----------------------------------------------------- 📌 สรุป 📌 Q : 5 สาเหตุของการเกิดฝ้านี่จริงเหรอ ? A : สาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้าได้อันที่หนึ่ง คือ แสงแดด โดยเฉพาะคลื่นอัลตร้าไวโอเลตที่เรียกว่า ยูวี อันที่สอง คือฮอร์โมนเพศหญิง ส่วนสาเหตุอื่น ๆ ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ชัดว่าทำให้เกิดฝ้า Q : 5 สาเหตุของการเกิดฝ้า ข้อแรก ฝ้าฮอร์โมน ? A : คุณสังเกตว่าส่วนใหญ่ ฝ้าเป็นในผู้หญิง ถ้าได้รับฮอร์โมนเพศหญิงที่มากผิดปกติ อย่างเช่น รับประทานยาคุมกำเนิด หรือผู้หญิงที่เวลาตั้งครรภ์ ที่มีฮอร์โมนเพศสูงขึ้นไป ทำให้เกิดฝ้าได้ Q : ข้อสอง ฝ้าแดด ? A : แสงแดด เป็นสาเหตุหนึ่งของฝ้า เพราะฉะนั้นใครที่ไปถูกแดดเยอะ ๆ แล้วกลายเป็นปื้นดำที่เป็นฝ้าบนใบหน้า เขาก็มักจะเรียกฝ้านั้นเป็น ฝ้าแดด Q : ถ้าฝ้ามี 2 สาเหตุ แล้ว ข้อ 3 4 5 ? A : ไม่ว่าเป็นแสงแดด หรือฮอร์โมนเพศหญิง แล้วทำให้เกิดปื้นดำขึ้นมา ทางการแพทย์เรียกอันนี้ว่าเป็นฝ้า แต่ถ้าอะไรปื้นดำที่ไม่ได้เกิดจากสาเหตุนี้ ส่วนใหญ่เราไม่ได้เรียกเป็นฝ้า Q : ข้อสาม ฝ้าจากเครื่องสำอาง ? A : จริง ๆ แล้วคำว่า ฝ้า จากเครื่องสำอางมันไม่ใช่โรคฝ้า มันเป็นปฏิกิริยาแพ้ของผิวหนัง ซึ่งเกิดตามหลังการใช้สารเคมี หรือเครื่องสำอางบางชนิด ทางการแพทย์ไม่ได้เรียกว่า เป็นฝ้า คนไข้จะให้ประวัติว่ามีการใช้อยู่สักระยะหนึ่งแล้วเกิดเป็นรอยดำขึ้นมา Q : ข้อสี่ ฝ้าเข้มจากเลเซอร์ ? A : คำว่า ฝ้าเข้มหลังเลเซอร์ หลาย ๆ คนยังเข้าใจผิดอยู่ มันต้องแยกเป็นสองประเด็น อันที่หนึ่ง คือปกติผิวของคนเอเชีย หรือคนไทย หลังทำเลเซอร์ไปแล้ว ผลข้างเคียงชั่วคราวอันหนึ่งที่เราเจอบ่อย คือเป็นรอยคล้ำชั่วคราวหลังจากเลเซอร์ แล้วรอยคล้ำพวกนี้ ถ้าพยายามหลีกแดด แล้วปล่อยไว้สักระยะ 3–6 เดือน มันจะจางหายเองได้ อันนี้เราเรียกว่าเป็นรอยคล้ำที่เกิดตามหลังเลเซอร์ รอยคล้ำหลังเลเซอร์ อีกชนิดหนึ่ง คือ คนไข้เป็นฝ้า แล้วไปทำเลเซอร์ แล้วปรากฏว่าแทนที่ฝ้ามันจะจางลง มันกลับเข้มขึ้น ซึ่งอันนี้เราเจอค่อนข้างบ่อย เป็นสิ่งที่ผมอยากจะฝากว่า ปัจจุบัน เราไม่ได้ใช้เลเซอร์เป็นตัวนำ หรือเป็นวิธีการรักษาอันดับหนึ่งในการรักษาฝ้า เพราะไม่ใช่คนไข้ทุกคนที่ทำเลเซอร์แล้วฝ้าจะจางหาย ผมคิดว่ามีคนไข้ไม่ต่ำกว่า 30–40% ที่ยิงเลเซอร์ไปแล้วฝ้าเข้มขึ้น Q : ข้อห้า ฝ้าจากความเครียด ? A : ผมว่าไม่น่าจะใช่ แต่สังเกต คนเราเมื่อมีความเครียดไม่ปลอดโปร่ง ก็จะดูหน้าหมองคล้ำ โดยเฉพาะคนที่พักผ่อนไม่พอ ไม่น่าจะเป็นฝ้าที่เกิดจากความเครียด Q : แล้วจริง ๆ แบบไหนที่แพทย์ถึงจะเรียกว่า “ฝ้า” ? A : ในทางการแพทย์ ลักษณะที่เราเรียกว่าฝ้า คือ ลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาล แล้วส่วนใหญ่มักจะขึ้นสมมาตร หมายถึงว่า มีแก้มซ้าย แก้มขวา มีหน้าผากซ้าย หน้าผากขวา มักขึ้นบริเวณใบหน้าที่ถูกแดดเยอะ ๆ ตำแหน่งของฝ้าที่เราเจอบ่อย อย่างเช่น โหนกแก้ม บริเวณเหนือริมฝีปาก บริเวณดั้งจมูก หรือบริเวณหน้าผากสองข้าง ฝ้า ส่วนใหญ่มักจะไม่เจอบริเวณนอกใบหน้า แล้วก็ลักษณะของฝ้าคือมักจะเจอบ่อยในผู้หญิง แล้วก็มักจะมีสาเหตุเริ่มต้นคือไปถูกแดดเยอะ ๆ มา หรือมีการได้ฮอร์โมนเสริม อย่างเช่น การฉีดยาคุมกำเนิด การรับประทานยาคุมกำเนิด ส่วนใหญ่จะได้ประวัติแบบนี้ Q : ดังนั้น การป้องกันฝ้า ก็ต้องไปมองหาที่สาเหตุ ? A : การป้องกันฝ้า คือ ถ้าเรารู้สองสาเหตุหลักแน่ ๆ ที่เราทราบ คือ แสงแดด กับฮอร์โมนเพศหญิง เพราะฉะนั้นวิธีป้องกัน คือ หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือ งดกิจกรรมที่ถูกแดด ที่ไม่จำเป็นออก ยกตัวอย่างเช่น ตัวผมเป็นหมอผิวหนัง แล้วผมไม่อยากเป็นฝ้า ผมก็ไม่เล่นกอล์ฟ ไม่ดำน้ำ ผมก็มาเลือกเล่นกีฬาในร่มแทน Q : ป้องกันไว้ก่อนจะมีฝ้า เพราะยังรักษาหายขาดไม่ได้ ? A : ใช่ บางคนก็พูดติดตลกว่าเป็นเพื่อน คือ เป็นแล้วก็เป็นเลย ไม่หายขาด ที่ผมบอกว่าฝ้าเป็นแล้วไม่หายขาด คือเป็นแล้วเป็นเลย โดยส่วนตัวผมมักจะอธิบายคนไข้ว่า ฝ้ามันเหมือนโรคที่ยังไม่ตาย คือมันไม่ได้เป็นโรคที่เป็นเฉพาะตรงตำแหน่งผิวหนังตรงนั้น แล้วคุณเอาตรงนั้นออกแล้วมันหาย ผมเชื่อว่าฝ้าเป็นโรคแบบ systemic คือ เป็นทั้งระบบ Q : และการจัดการกับฝ้า ก็ต้องอาศัยความเข้าใจ ? A : คำแนะนำที่ผมอยากเตือนคือ เราไม่สามารถรักษาฝ้าให้หายขาด แต่วิธีการรักษาที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน เราสามารถคอนโทรลให้ฝ้าจางลงได้ในระดับหนึ่ง แล้วเมื่อถึงจุดที่เราหยุดการรักษาไปสักพักหนึ่ง มันจะเข้มขึ้นมาใหม่ ฝ้า ไม่ได้เป็นโรคที่เป็นอันตราย แล้วทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นกลายเป็นมะเร็ง หรือมีผลเสียกับสุขภาพโดยรวม มันเป็นแค่ปื้นดำบนหน้า ถ้าคุณทำใจได้ ถ้าเป็นคุณผู้หญิงสามารถใช้เครื่องสำอางที่ปกปิดได้ อันนั้นก็อาจจะเป็นวิธีการปกปิดซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องรักษาก็ได้ Q : สรุปแล้วเรื่องนี้เป็นอย่างไร ? A : อันที่หนึ่ง คือ ต้องแน่ใจว่าปื้นดำบนหน้าคุณเนี่ย ใช่ฝ้าหรือเปล่า โดยการปรึกษาแพทย์ แพทย์จะบอกได้ เพราะว่าปื้นดำบางชนิด มันไม่ใช่ฝ้า แล้วมันหายเองได้ หรือรักษาได้ แต่ถ้าเป็นฝ้าแล้ว ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด แต่วิธีการ ถ้ารักษาโดยถูกต้อง จะทำให้ฝ้าจางลงในระดับค่อนข้างเยอะได้ และเราก็รักษาใหม่ได้ ถ้ามันเข้มขึ้นมาใหม่ 👉 การเข้าใจที่สาเหตุ ช่วยให้ป้องกันแก้ไขได้ตรงจุด #ชัวร์ก่อนแชร์ #sureandshare ----------------------------------------------------- 🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ "ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์" 🎯 LINE | @SureAndShare หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40sureandshare