У нас вы можете посмотреть бесплатно EP.1 ข้าไม่ขอเป็น..ฮองเฮาอีก! или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
รัชศกเฉิงจงปีที่สิบสี่ เมฆดำเคลื่อนคล้อยเข้ามาบดบัง ท้องฟ้าในยามราตรี ส่งให้บรรยากาศมีดมิดแลดูวังเวงน่าประหวั่นพรั่นพรึง ตามมาด้วยสายลมกระโชกแรงพัดต้นไม้ใบหญ้าลู่ลงจนผิดรูปผิดร่าง เสียงท้องฟ้าเริ่มคำรามลั่นส่องแสงแปลบปลาบโอบล้อมแผ่นดินต้าหมิง ขณะที่ผู้คนกำลังหลับใหล ในเขตพระราชฐานชั้นในบนเส้นทางปูด้วยแผ่นหินเจียรเนื้อหยาบ ปรากฏร่างของ ขันทีทั้งสามก้าวเท้าอย่างมั่นคงด้วยสีหน้าท่าทางสุขุมไม่วอกแวก มุ่งหน้าสู่ตำหนักใหญ่ที่ตั้งอยู่ในสุดของพระราชวัง ต้องห้าม ชุดสีน้ำเงินอมดำปักดิ้นสีแดงลวดลายนกอินทรีกลางอกปลิวสะบัดไปตามแรงลม โคมไฟที่ถืออยู่ในมือกวัดแกว่งไปมาจวนเจียนจะดับ ตำหนักคุนหนิง แสงสว่างจากเชิงเทียน ไม่เพียงพอจะส่องสว่างให้ทั่วห้องโถงที่ประทับปีกหน้า แต่ถึงกระนั้น ยังพอจะส่องให้เห็นถึงเครื่องหน้าของสตรีที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ไม้สักสลักลายหงส์ เงาบัลลังก์ทอดยาวพาดลงบนบันไดสาม ขั้นแลดูวังเวงน่ากลัว แม้ว่าเครื่องทรงที่นางสวมใส่จะเต็มยศสง่างาม แต่สีหน้าท่าทางกลับแลดูอิดโรย เหนื่อยล้าดวงตาทั้งสองข้างบวมช้ำคล้ายพึ่งผ่านการร่ำไห้มาอย่างหนัก "ฮองเฮา พ่ะย่ะค่ะ" ถาดกระเบื้องเคลือบชั้นดีสีขาวลวดลายดอกเหมยสีแดงพร้อมจอกลวดลายเดียวกันยื่นมาเบื้องหน้า เสวียนซู่ชิงเหลือบมองน้ำใสในจอกด้วยสายตาว่างเปล่า เสี้ยวหนึ่งพลันนึกย้อนไปถึงอดีต ก่อนหน้านั้นนางเคยเป็นแม่ทัพผู้เก่งกาจ ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางลืมตน พาตัวเองเข้ามาอยู่ในวังวนแห่งอำนาจราคะ ลืมพี่น้องที่เคยร่วมรบ พี่ น้องที่เคยร่วมเป็นร่วมตายกันมา ทุ่มเทมุ่งมั่นทำเพื่อคนเพียงคนเดียว สิบปีที่ผันผ่าน นางเหนื่อยเหลือเกินแล้ว เหนื่อยล้าทั้งกายและใจ หยาดพิรุณเริ่มกระทบหลังคากระเบื้องเสียงดังเปาะแปะ ไม่นานก็ค่อยๆ กระหน่ำลงมาราวกับจะถล่มหลังคาให้พังพินาศ ท้องฟ้าโกรธกริ้วคำรามลั่น สายลมพิโรธโหมกระพือม้วนตัวไร้ทิศทาง ไม่ว่าบรรยากาศภายนอกจะน่าสะพรึ่งกลัวเพียงใด ขันที่ผู้อัญเชิญจอกสุรยังยืนนิ่งสงบ รอการตัดสินใจจากสตรีบนบัลลังก์หงส์อย่างใจเย็น ในที่สุดริมฝีปากสีแดงสดก็เริ่มขยับ "ฝ่าบาททรงมีรับสั่งอันใดถึงข้า" "ฝ่าบาททรงตรัสว่า หากฮองเฮายอมดื่มสุราจอกนี้พระองค์จะทรงให้อภัยที่พระนางสังหารองค์รัชทายาท และจะไม่เอาโทษคนตระกูลเสวียน ทั้งยังจะฝังพระศพในสุสานหลวงอย่างสมเกียรติในฐานะเสวียนฮองเฮา พ่ะย่ะค่ะ" "หึ! หึหึ ฮะ ฮ่า ฮ่า" เสวียนฮองเฮาพลันสรวลออกมาอย่างบ้าคลั่ง ผิดกับท่าทางสง่าภูมิฐานเหมือนกาลก่อน ทว่าเสียงหัวเราะนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความเย้ยหยันที่มีต่อโลก ซู่ชิงเฝ้าถามตัวเองซ้ำๆ ว่า ข้ามาทำอันใดที่นี่ ขันทีทั้งสามไม่มีท่าทีตกใจ คล้ายจะคุ้นชินกับท่าทาง ก่อนตายของสตรีในวังหลังเป็นอย่างดี ยืนรอทำหน้าที่อย่างสงบเสงี่ยม เมื่อเสียงหัวเราะเริ่มแผ่วเบาลง ฝ่ามืออันสั่นเทาก็เอื้อมไปหยิบจอกสุราจากถาดขึ้นมาจรดริมฝีปาก โดยไม่มีท่าทีลังเล สุราจอกนั้นพลันถูกกระดกจนหมดจอก พิษในสุราราวกับจะฉีกกระชากร่างของนางออกเป็น ชิ้นๆ ลำคอปวดแสบปวดร้อนเกินทน ลมหายใจติดขัด ถึงแม้จะเจ็บปวดแสนสาหัส ทว่าซู่ชิงกลับไม่ร้องสักแอะ นั่งอยู่บนบัลลังก็หงส์อย่างสง่างาม คล้ายว่าผู้ที่ดื่มยาพิษเมื่อครู่หาใช่นาง เพียงหลับตาพิงพนักเก้าอี้ท่าที่สงบนิ่ง ในหัวปรากฏภาพผู้คนมากมายที่เคยถูกนางสังหาร ทับซ้อนกับภาพในวัยเด็ก ภาพตอนนางออกศึก จนกระทั่งพบรักกับเขา แต่ภาพสุดท้ายที่นางเห็นก่อนสิ้นลม มีเพียงภาพบรรยากาศที่แสนจะเดียวดายเปลี่ยวเหงาในตำหนักกว้างขวาง จบสิ้นกันเสียที ว่ากันว่า คนตายคือคนที่หมดเวรหมดกรรม แต่เหมือนว่าเสวียนฮองเฮาจะก่อกรรมเอาไว้มาก เลยถูกสวรรค์ลงโทษ ชู่ชิงพลันสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง อ้าปากหายใจโกยอากาศเข้าไปเต็มปอด เสียงวิ้งๆ ดังขึ้นในหู ร่างกายร้าวระบมไปหมด เสียงผู้คนกำลังพูดคุยกันดังเข้าโสต ภาพความทรงจำมากมายเริ่มผุดขึ้นมาในหัวเป็นฉากๆ ไม่นานนางก็หมดสติไป โส่วหงซิ่วธิดาคนโตของแม่ทัพโส่วเย่าหนาน เกิดต้องตาจวิ้นอ๋องหมิงซีเหอ ความที่เป็นคนอารมณ์ร้ายเอาแต่ใจ จึงวางแผนชั่วทำลายชื่อเสียงของทั้งตนเองและจวิ้นอ๋องในงานเลี้ยงบุปผาที่พระสนมเฮ่อเฟยจัดขึ้น กระทำการอย่างไร้ยางอาย จนได้อภิเษกกับจวิ้นอ้องสมใจ แต่หารู้ไม่ ว่าหนทางที่นางเลือกกลับเป็นหนทางสู่ความตาย เดิมทีจวิ้นอ้องหมิงซีเหอมีหญิงอันเป็นที่รักอยู่แล้วนามว่าเหอสวีอี หญิงสาวนางนี้แม้มีชาติกำเนิดต่ำต้อย แต่กลับเป็นสตรีที่มีคุณใหญ่หลวงกับจวิ้นอ้อง บิดาของนางเป็นหมอผู้ต่อเส้นเอ็นที่ถูกตัดขาด ทำให้ท่านอ้องที่สมควรจะขา พิการกลับมาเดินได้อีกครั้ง ในวันที่หมิงซีเหอสัญญาว่าจะตกแต่งเหอสวีอีเป็นภรรยา ก็มาเกิดเรื่องงามหน้าในงานบุปผา ขึ้นเสียก่อน สุดท้ายผู้ที่ได้เป็นเจ้าสาวกลับเป็นโส่วหงซิ่ว หลังจากอภิเษกได้เพียงสิบวัน โส่วหงซิ่วก็บุกเข้าไปในเรือนหูเยว่ตบตีเหอสวีอีจนเลือดกบปาก เมื่อจวิ้นอ๋องกลับมาจึงสั่งโบยตีสาวใช้ที่ตามมาจากตระกูลโส่วจนตาย อีกทั้ง ยังสั่งโบยโส่วหงซิ่วยี่สิบไม้ จากนั้นก็สั่งให้บ่าวไพร่นำร่างของนางไปโยนไว้ที่เรือนหลังเล็กท้ายตำหนักจวน ในคืนเดียวกันนั้น โส่วหงซิ่วได้สิ้นใจตาย ยามเดียวกับที่เสวียนฮองเฮาสิ้นพระชนม์พอดี