У нас вы можете посмотреть бесплатно นิสัยแบบไหน ก็ได้ผลแบบนั้น (หลวงปู่นิภา นิภาธโร) или скачать в максимальном доступном качестве, видео которое было загружено на ютуб. Для загрузки выберите вариант из формы ниже:
Если кнопки скачивания не
загрузились
НАЖМИТЕ ЗДЕСЬ или обновите страницу
Если возникают проблемы со скачиванием видео, пожалуйста напишите в поддержку по адресу внизу
страницы.
Спасибо за использование сервиса ClipSaver.ru
เจริญในธรรม ท่านผู้สนใจในการฟังธรรมทั้งหลาย วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เรายังมีลมหายใจ มีโอกาสสั่งสมคุณงามความดีให้กับตัวเอง แม้กาลเวลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนไป แต่จิตใจที่มุ่งมั่นตั้งใจสร้างคุณงามความดีนั้น เป็นเรื่องของ อธิษฐานบารมี หากอธิษฐานแล้วตั้งสัจจะและมีวิริยะบารมี ก็ค่อยๆ เห็นคุณค่าของการกระทำ เห็นคุณค่าของพฤติกรรมต่างๆ ของตนเอง เมื่อยึดมั่นในการกระทำที่นำไปสู่ความเจริญยิ่งขึ้นไป เราจะค่อยๆ ก้าวไปทีละขั้น แม้แต่ละก้าวเป็นเพียงก้าวเดียว แต่หากก้าวอย่างสม่ำเสมอ ก็ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายที่ต้องการมากขึ้น วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เราควรประพฤติปฏิบัติ ใครรู้ ใครศึกษาได้ ก็น้อมจิตน้อมใจ เติมเต็มส่วนที่ขาด ตัดส่วนที่เกิน อะไรที่เกินไปในชีวิต ในการกระทำ คำพูด และแนวคิด ก็ปรับปรุงให้เหมาะสม “การกระทำซ้ำๆ จะกลายเป็นนิสัย นิสัยซ้ำๆ จะกลายเป็นสันดาน” ดังนั้น นักประพฤติปฏิบัติทั้งหลาย ย่อมฝึกฝนตนเองอย่างสม่ำเสมอ จนกลายเป็นอุปนิสัย เป็นนิสัยแห่งการบำเพ็ญเพียร บัณฑิตผู้มีตบะ ย่อมมั่นคงในการสร้างคุณงามความดี ความดีเป็นเรื่องเฉพาะตัว ความเลวก็เป็นเรื่องเฉพาะตัว แต่เมื่อหลายความดีรวมกัน ก็เกิดเป็นพลังแห่งคุณธรรม ในทางตรงกันข้าม หากหลายความชั่วรวมกัน ก็เกิดเป็นพลังในทางเสื่อม “เราอยากให้พลังชีวิตเป็นเช่นไร เราก็เติมสิ่งนั้นลงไป” เพราะพลังชีวิตต้องอาศัยพฤติกรรม การกระทำ คำพูด และแนวคิด เป็นตัวขับเคลื่อน เติมเต็มพลังให้กับตนเองในแต่ละวัน สัตว์ทั้งหลายดำเนินชีวิตตามอำเภอใจของตนเอง และการกระทำนั้นก็จะย้อนกลับมาส่งผลต่อตัวผู้กระทำเอง ผู้ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีที่เคารพ ไม่มีศรัทธา แม้จะมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์คอยพร่ำสอน ก็อาจเกิดความไม่พอใจ เพราะนิสัยดั้งเดิมไม่ยอมรับแนวทางที่เจริญกว่านิสัยของตนเอง วันบูรพาจารย์ คือ วันของผู้ศรัทธา ผู้ที่เคารพและประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม คำพูด หรือแนวคิด ล้วนเป็นการปฏิบัติบูชา เราควรทบทวนว่า “เรามีครูบาอาจารย์หรือไม่?” เรายังใช้นิสัยของตนเองเป็นเกณฑ์หรือเปล่า? ผู้ที่เข้าสู่สมณเพศ ย่อมต้องขอนิสัยใหม่ เพราะนิสัยเก่าเป็นของโลก เป็นของวัฏสงสาร อุปัชฌาย์จึงมอบอาวุธกรรมฐานให้ ได้แก่ เกศา (ผม) โลมา (ขน) นขา (เล็บ) ทันตา (ฟัน) ตโจ (หนัง) สิ่งเหล่านี้เป็นของที่มีอยู่กับเราทุกวัน แต่เหตุใดพระศาสดาจึงให้เรานำมาพิจารณา? เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นกุญแจไขไปสู่ความจริงอันประเสริฐ หากเราเห็นว่า ผมคือผม ไม่ว่าจะสวยหรือหยิก ตรงหรือสั้น ย่อมไม่ต่างกัน แต่หากมันหลุดจากร่างกายไป เช่น เจอเส้นผมในอาหารที่กำลังกิน จะเกิดปฏิกิริยาอย่างไร? ฟัน เล็บ และหนัง ก็เช่นกัน ขณะที่อยู่กับร่างกาย เราไม่รังเกียจ แต่เมื่อมันแยกออกไปจากร่าง เรากลับเกิดปฏิกิริยาทางอารมณ์ พระบรมศาสดาทรงสอนให้เราพิจารณาสิ่งเหล่านี้ เพื่อให้เห็นสภาวะที่แท้จริง ถอนความหลง ถอนความยินดีและยินร้ายในร่างกายของตนเองและผู้อื่น “กายนี้หาใช่ของงาม ไม่ควรหลงใหลมัวเมา” แต่เมื่อร่างกายมีวิญญาณครอบครอง มีไออุ่นครอบครอง เรากลับพอใจไม่พอใจกันได้ กรรมฐานเป็นกุญแจเปิดประตูมิติของจิตวิญญาณ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา แต่กลับเป็นประตูสู่ความลี้ลับของจิตใจ จำเป็นต้องอาศัยบูรพาจารย์ชี้แนะแนวทางให้ จิตของเราหากยังมัวเมาในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และอัตตาตัวตน ก็ไม่อาจเห็นประตูนี้ได้ แต่หากจิตโปร่ง โล่ง ใส ไม่หลงใหลในรูปลักษณ์ ก็สามารถใช้ เกศา โลมา นขา ทันตา ตโจ เป็นประตูเข้าสู่สภาวะธรรม หากพิจารณาเห็นว่า ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นเพียงส่วนหนึ่งของร่างกาย มิใช่ตัวตน ย่อมสามารถคลายความหลงได้ นิสัยแบบไหน ก็ได้ผลแบบนั้น จิตจะเป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นเทพ เป็นพรหม เป็นเดรัจฉาน หรือเป็นสัตว์นรก อยู่ที่เราฝึก “เราเติมสิ่งใดลงไปในจิตใจ ก็จะเป็นเช่นนั้น” หากใช้นิสัยเสีย ก็ได้ผลเสีย หากฝึกนิสัยดี ก็ได้ผลดี บูรพาจารย์ชี้แนวทาง ผู้เดินทางคือตัวเรา แม้ครูบาอาจารย์จะสอนให้รู้ แต่ผู้ที่ต้องเดินไปตามเส้นทางนั้นก็คือตัวของเราเอง จึงขออนุโมทนากับทุกท่านที่ตั้งใจเดินตามรอยพระศาสดา ขอให้การปฏิบัติธรรมของทุกท่านนำพาไปสู่ความเจริญในจิตใจ สมตามความปรารถนาทุกประการ